ในงาน Cisco Partner Summit 2016 ที่ผ่านมา Cisco ได้เปิดตัว Cisco Digital Network Architecture (Cisco DNA) แพลตฟอร์มสำหรับสร้าง Digital Business แบบครบวงจร ช่วยให้องค์กรสามารถเริ่มต้นใช้งานระบบ Software-defined Network, Virtualization, Automation, Analytics และ Cloud โดยมองรวมกันเป็นระบบเดียว และสามารถบริหารจัดการได้ง่ายดายยิ่งขึ้น
ในปัจจุบันองค์กรส่วนใหญ่ที่กำลังปรับตัวให้เข้ากับยุคดิจิตัลกำลังพบเจอกับความหลากหลายของเทคโนโลยีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Software-defined Network (SDN), Network Functions Virtualization (NFV), Model-driven programming, Overlay networks, Cloud Management, Analytics และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ต่างก็มีความจำเป็นและตอบโจทย์แต่ละด้านไม่เหมือนกัน ทำให้การเริ่มใช้งานเทคโนโลยีใหม่ๆทำได้ยากขึ้น Cisco ได้เล็งเห็นปัญหา จึงได้เปิดตัว Cisco DNA เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานระบบเหล่านี้ โดย Cisco DNA ทำงานอยู่บนพื้นฐาน 5 ข้อ ดังนี้
Virtualize ทุกสิ่ง: ช่วยให้องค์กรมีอิสระในการเลือกใช้งานฮาร์ดแวร์และ Services ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Physical หรือ Virtual รวมทั้ง On premise หรือ Cloud
สร้างมาเพื่อรองรับ Automation: ช่วยให้ระบบ Network และทุกๆ Services สามารถ Deploy ได้ง่ายขึ้น รวมถึงมีการบริหารจัดการและการดูแลรักษาที่ง่าย
รองรับการทำ Analytics: ช่วยให้องค์กรสามารถเข้าใจถึงการทำงานของเครือข่ายของตนเอง และสามารถนำข้อมูลทุกๆส่วนมาปรับแต่งให้เหมาะสมกับองค์กรมากขึ้น
รองรับ Cloud: สามารถสร้าง Policy ได้จากที่เดียว โดยครอบคลุมทั้ง Cloud และ On premise
รองรับการขยาย และเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นในทุกๆ Layer: ระบบสามารถเชื่อมต่อกับเทคโลยีอื่นๆของ Cisco หรือ 3rd party ได้ ผ่าน Open API และ Developer Platform
Cisco DNA ประกอบไปด้วยส่วนที่สำคัญ ดังนี้
Cisco IOS-XE Software
ระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์ Cisco ที่รองรับการทำ Programability และ Automation สำหรับ Network Function Virtualization (NFV) และ Software-Defined Network
Cisco Application Policy Infrastructure Controller Enterprise Module (APIC-EM)
ซอฟต์แวร์สำหรับควบคุมระบบ Software-Defined Network ช่วยในการทำ Automate Tasks, สร้าง Workflows และ Policies ต่างๆ
Cisco Intelligent WAN App
รองรับการสร้าง WAN services ผ่าน APIC-EM ช่วยให้สามารถเครือข่าย WAN สำหรับองค์กรที่มีความปลอดภัยและมีความรวดเร็วมากขึ้น
Cisco Path Trace
แอพพลิเคชันที่ช่วยในการแสดงผลเส้นทางของทุกๆอุปกรณ์ในเครือข่ายออกมา โดยดึงข้อมูลจาก APIC-EM ช่วยให้สามารถ Troubleshooting ระบบได้ง่ายดายยิ่งขึ้น
Cisco Plug and Play for day-0 automation
ใช้สำหรับ Auto-configure ให้กับอุปกรณ์ใหม่ๆในเครือข่าย โดยอุปกรณ์จะส่งข้อมูล Location ไปยัง APIC-EM โดยอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการ Deploy อุปกรณ์ใหม่ๆ
Cisco Easy Quality of Service (EasyQoS) for Dynamic Application Prioritization
ใช้สำหรับทำ QoS บนระบบเครือข่ายโดยอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแอพพลิเคชันที่ใช้งานอยู่ในระบบ
Cisco Enterprise Network Functions Virtualization (NFV)
รองรับการสร้าง Services สำหรับระบบเครือข่ายต่างๆ เช่น Routing, Switching, Firewall, WAN Acceleration และอื่นๆ ซึ่งสามารถสร้างอยู่บน Cisco Integrated Services Router, Cisco UCS server และ Server x86 อื่นๆได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ฮาร์ดแวร์เฉพาะทางอีกต่อไป ทำให้การ Deploy อุปกรณ์เครือข่ายทำได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องรอสั่งซื้ออุปกรณ์, ติดตั้งอุปกรณ์ หรือทดสอบการทำงานของอุปกรณ์ก่อนใช้งานอีกต่อไป
Cisco Network as a Sensor and Enforcer with Cisco Identity Services Engine and StealthWatch
เป็นระบบ End-to-end Sensor และ Enforcer ทำงานอยู่บนพื้นฐานของ Cisco ISE ช่วยในการควบคุมความปลอดภัยให้กับระบบเครือข่ายทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการตรวจจับภัยคุกคามที่เกิดในระบบเครือข่ายได้อีกด้วย
Cisco CMX Cloud
สามารถทำ Analytics เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้งานได้ และรองรับการทำ Wi-Fi portal สำหรับ Guest
สำหรับ Cisco DNA จะอยู่ภายใต้ Cisco ONE Software Model ทำให้มีความง่ายและมีความยืดหยุ่นในเรื่องการจัดซื้อ Licenses มาใช้งานมากขึ้น โดยผู้ที่สนใจ Cisco Digital Network Architecture สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.cisco.com/go/dna
ที่มา : https://www.techtalkthai.com/introduces ... hitecture/
15/03/2559