เข้าสู่เดือนมีนาคม เป็นโค้งสุดท้ายที่ประชาชนชาวไทยผู้มีรายได้ต้องยื่นภาษีให้แก่รัฐ และข่าวดีที่เป็นสิทธิพิเศษสำหรับคนไฮเทค คือเราได้ต่อเวลาไปอีก 8 วัน สำหรับการยื่นแบบฯ ออนไลน์ (หมดเขต 8 เมษายน) ไม่ต้องเดินทางไปสรรพากรให้วุ่นวาย แถมได้ภาษีคืนเร็วอีกด้วย ฉะนั้น วันนี้เฟื่องจะชวนทุกคนเปลี่ยนจากการนั่งกรอกข้อมูลบน PC มาจิ้มๆ ชี้ๆ คลิกๆ ในสมาร์ทโฟนกัน...ใช่แล้ว! ไปทำความรู้จักกับ "App" ที่เป็นตัวช่วยดีๆ เรื่องภาษีของเรากันเถอะ
1. RD Smart Tax ควรโหลดติดเครื่องไว้ เพราะแอพฯ นี้เป็น Official Application จากทางกรมสรรพากรเองเลย ในนี้ก็จะมีทั้งข้อมูลข่าวสารจากกรมสรรพากร/ ตัวช่วยคำนวณภาษี/ การยื่นแบบฯ ผ่านแอพฯ/ ตรวจสอบสถานะการคืนภาษี/ มีแผนที่กรมสรรพากรให้ด้วย ว่าแถวๆ เรามีสรรพากรอยู่ตรงไหนบ้าง จะได้สะดวกในกรณีที่ต้องเดินทางไปติดต่อเพิ่มเติม
ความน่ารักของแอพฯ นี้คือ สามารถเก็บข้อมูลการลดหย่อนภาษีของปีก่อนหน้าไว้ใช้คำนวณในปีถัดไปได้ด้วย ไม่ต้องมานั่งติ๊กใหม่ กรอกใหม่ให้เสียเวลา
ส่วนจุดสังเกตนิดหน่อย คือ ประเภทของรายได้ในแอพฯ ยังมีไม่ครบเท่าไรนัก มีแค่เป็นรายได้พึงประเมินรวมๆ เหมาเป็นตามมาตรา 40 (1) ซึ่งถ้าเป็นคนที่มีรายได้ประเภทอื่นที่อาจหักค่าใช้จ่ายได้มากกว่าปกติ เช่น ค่าประกอบวิชาชีพ/ ค่าลิขสิทธิ์/ ค่านักแสดง ใช้แอพฯ นี้ก็จะไม่ได้ตัวเลขภาษีที่ต้องจ่ายจริง ไปกรอกในคอมฯ หรือใช้แอพฯ อื่นน่าจะดีกว่า
2. iTax อันนี้เป็นแอพฯ สำหรับผู้เสียภาษีมือใหม่ เหมาะมากกับน้องๆ ที่เพิ่งเริ่มทำงาน หรืออยากศึกษาเกี่ยวกับภาษี ใช้งานง่ายมาก ทั้งหน้าตาแอพฯ และภาษาที่ทำให้เรารู้สึกว่าภาษีกลายเป็นเรื่องง่าย (ชอบรูปกระปุกหมูมาก ทุกครั้งที่หักค่าใช้จ่าย/ ลดหย่อนอะไรได้เพิ่มแล้วเงินเข้ากระปุกเพิ่มนี่ฟินจริงๆ!) เพราะ iTax มาในรูปแบบของแบบสอบถาม ให้เราตอบคำถาม ที่ส่วนมากจะเป็นใช่/ไม่ใช่ เขาก็จะคิดให้เราเลยว่า สรุปเงินได้เราเป็นเท่าไร ลดหย่อนอะไรได้บ้าง ต้องเสียภาษีเท่าไร เก็บไว้พร้อมยื่นได้เลย โหลดด่วน! ดีจริงจึงบอกต่อ
3. iTax Pro บริการจากนักพัฒนารายเดียวกัน แต่เป็นเวอร์ชั่นสำหรับคนโปรขึ้นมาหน่อย รู้แล้วว่าตัวเองมีรายได้อะไรบ้าง และต้องการวางแผนประหยัดภาษี ซึ่งแอพฯ นี้จะช่วยคำนวณ/ หาวิธีที่ทำให้เราประหยัดภาษีได้เยอะที่สุด ตามแบบที่เราต้องการ เลือกเองได้ว่าอยากลดหย่อนแบบไหน ทั้งแบบเต็ม Max/ ตามความคุ้มค่า/ ตามงบประมาณ บางทีเราอาจจะตกหล่นบางค่าใช้จ่ายไปบ้าง หรือคำนวณแล้วสับสนบ้าง ว่าสำหรับเราแล้ว เพดานการลดหย่อนภาษีของค่าใช้จ่ายแต่ละประเภทอยู่ที่เท่าไร เช่น กองทุน LTF/RMF เงินบริจาค ฯลฯ แอพฯ นี้ก็จะมาคอยอุดรอยรั่วให้เรา ทำให้วางแผนภาษีล่วงหน้าได้ โหลดคำนวณคร่าวๆ ไว้ตั้งแต่ต้นปี จะได้ทยอยหาค่าหักลดหย่อน วางแผนได้ทัน ไม่กระอักเลือดตอนปลายปี
4. Check Check ปิดท้ายด้วยการเช็กสถานะการคืนภาษี แอพฯ นี้ใช้ง่ายมาก ไม่ต้องเข้าเว็บกรมสรรพากรให้วุ่นวาย แค่กรอกชื่อ-นามสกุล และเลขประจำตัวประชาชนของเรา ก็ติดตามได้แล้วว่า เงินของเราอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว
ที่มา : https://www.thairath.co.th/content/591832
17/03/2016