เบลกิ้น แนะนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ USB-C เทคโนโลยีการเชื่อมต่อของอนาคต
เบลกิ้น แนะนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ USB-C เทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่กำลังถูกนำมาใช้กับอุปกรณ์ตั้งแต่ แล็ปท็อป สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต รุ่นที่มีในปัจจุบัน ด้วยจุดแข็งด้านการชาร์จไฟ,ถ่ายโอน และซิงค์ข้อมูลที่ดีกว่าเดิม
เทคโนโลยี USB-C เกิดขึ้นมาสักพักแล้วครับและก็ถูกนำมาใช้กับหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์,โน๊ตบุ๊ค,แอคเซสเซอรี่,อุปกรณ์ต่อพ่วง,แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน แต่ที่เห็นกันมากที่สุดตอนนี้ คือกลุ่มสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะรุ่นใหม่ๆ อย่าง Samsung Galaxy Note 7 ,Huawei P9/P9 Plus,LG G5 , Xiaomi Mi5 เป็นต้น
จุดเด่นของ USB-C คือการรวมฟังค์ชั่นที่อยู่ใน USB และ HDMI ให้มาอยู่ในสายเดียว โดยเทคโนโลยี USB ล่าสุดคือเวอร์ชั่น 3.1 เป้าหมายหลักๆคือทำให้ง่ายต่อการใช้งานครับ สิ่งที่ถูกพัฒนาขึ้นจากตัวก่อนๆ ประกอบด้วย
- หัวของ USB-C ถูกดีไซน์ให้เชื่อมต่อได้ทั้งสองด้านไม่ต้องมาเสียเวลาเพ่งกันว่าจะต้องพลิกเอาด้านไหนเสียบ
- เทคโนโลยี USB 3.1 ทำให้การถ่ายโอนข้อมูลเร็วขึ้นกว่า USB 3.0 ถึงสองเท่า ให้ความเร็วสูงสุดที่ 10 Gbps หรือจะให้นึกภาพตามง่ายๆ คือเราสามารถถ่ายโอนไฟล์ภาพยนต์ความละเอียด HD โดยใช้เวลาเพียง 30 วินาทีเท่านั้นเอง
- USB Type-C สามารถรองรับการชาร์จไฟที่มากขึ้นกว่าเดิม ด้วยการจ่ายไฟ 5V ที่กระแสไฟตั้งแต่ 3A- 5A ใช้ในการรับส่งกระแสไฟฟ้าได้มากถึง 100W เพียงพอสำหรับการจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ตั้งแต่โน้ตบุ๊กไปจนถึงสมาร์ทโฟนหรือแท็ปเล็ตได้อย่างรวดเร็ว
- สาย USB-C มีการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย USB-IF เริ่มตั้งแต่ส่วนหัวที่หุ้มด้วยวัสดุทนความร้อนอย่าง Metal Shield และ Cable Overmold มี eMarker Chip ควบคุมระบบวงจรไฟ วิธีสังเกตง่ายๆว่ามีชิปตัวนี้หรือไม่คือลักษณะของหัวครับ หัวที่มีชิปทรงจะยาวกว่าหัวที่ไม่มี
- ตัวสายวงจรภายในของเวอร์ชั่น 3.1 จะมีทั้งหมดสายย่อยทั้งหมด 15 เส้นเพื่อทำหน้าที่แตกต่างกันไป ขณะที่เวอร์ชั่น 2.0 จะมีแค่ 5 เส้นเท่านั้น
- สาย USB-C แม้จะมีรูปร่างที่เหมือนกันแต่ก็มีหลายเวอร์ชั่น ถ้าเลือกใช้ไม่ดีอาจจะทำให้อุปกรณ์เสียหายได้ ค่อนข้างแตกต่างจากสาย Lightning ที่มีแค่เวอร์ชั่นเดียว
ในส่วนของไลน์ผลิตภัณฑ์เพียงแค่หัว USB-C อย่างเดียว เบลกิ้น ทำออกมาหลายโซลูชั่นมากครับตั้งแต่การซิงค์,ชาร์จไฟ,อแดปเตอร์ที่ใช้กับโน๊ตบุ๊ค คอมพิวเตอร์ และมีการเพิ่มโซลูชั่นที่ใช้กับการชาร์จในรถยนต์ แต่ที่สำคัญที่สุดคือเป็นผู้ผลิตรายแรกที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยจาก USB-IF
คุณชาคริต ศิริกุลประดิษฐ์ ผู้จัดการประจำภูมิภาคอาเซียนของ เบลกิ้น กล่าวว่า "ทุกอย่างสามารถปลอมได้ตั้งแต่ตัวแพ็คเกจยันตรารับรองสินค้าจะให้เช็คก็ลำบาก แนะนำให้ผู้บริโภคมองหาแบรนด์ที่เชื่อถือได้เพื่อความปลอดภัยของอุปกรณ์ ขณะที่ร้านค้าเองก็ต้องมองหาสินค้าที่ได้มาตรฐาน "
ขณะที่ USB-C Car Charger + Cable ของเบลกิ้น รองรับกระแสไฟที่สูงและรวดเร็วกว่าบน Lumia 950, Lumia 950 XL และ iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว ที่ใช้สาย USB-C to Lightning ที่ Apple ขายแยกต่างหาก แถมยังรองรับกับอุปกรณ์อื่นๆที่จะตามมาอย่าง LG G5 ส่วน Note 7 จะมาในเดือนกันยายนครับ
ที่มา http://www.mxphone.net/260816-line-usb- ... -thailand/
เบลกิ้น แนะนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ USB-C เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ
-
- Posts: 7045
- Joined: 29 Mar 2013, 13:36