โซนี่ไทย เปิดตัวเครื่องเล่นเพลงระดับพรีเมี่ยม

Post Reply
brid.ladawan
Posts: 7045
Joined: 29 Mar 2013, 13:36

โซนี่ไทย เปิดตัวเครื่องเล่นเพลงระดับพรีเมี่ยม

Post by brid.ladawan »

โซนี่ไทย เปิดตัวเครื่องเล่นเพลงระดับพรีเมี่ยม Signature Series ในไทย เอาใจคนรักเสียงเพลง

Image

ใครที่เป็นสาวกอารยธรรมของ Sony น่าจะเคยได้ข่าวคราวของ Signature Series กลุ่มสินค้าด้านการฟังเพลงระดับพรีเมี่ยมที่ทางค่าย Sony ผลิตออกมาเพื่อเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 70 ปีของโซนี่ โดยในซีรีย์จะประกอบไปด้วยหูฟัง MDR-Z1R, Walkman NW-WM1 และแอมปลิไฟเออร์ TA-ZH1ES โดยแต่ละอย่างถูกผลิตขึ้นมาโดยใช้เทคโนโลยีและวัสดุที่ถูกเลือกมาอย่างดีที่สุด

Image

ทางทีมงาน Thaiware ก็ได้ไปร่วมงานเปิดตัว Signature Series ในประเทศไทย และได้ลองสัมผัสกับคุณภาพเสียงที่ต้องบอกว่าสมราคาครับ ให้รายละเอียดเสียงที่ดีมาก วัสดุตัวเครื่องก็ให้ความรู้สึกหรูหรา มีระดับแบบสุดๆ (ราคาก็เช่นกัน)

สำหรับพระเอกภายในงาน เรายกให้ Walkman NW-WM1 เป็นเครื่องเล่นเพลงแบบพกพารุ่นเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด และแบ่งย่อยออกเป็น 2 รุ่นด้วยกัน คือ รุ่น NW-WM1Z และ NW-WM1A

NW-WM1Z นั้น เป็นเครื่องเล่นเพลงแบบพกพารุ่นเรือธง ดีไซน์ตัวเครื่องสีทอง ซึ่งทำจากทองแดงปลอดอ๊อกซิเจน (Oxygen-free copper) และเคลือบด้วยทองคำอีกชั้น ซึ่งทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแกร่ง และยังให้เสียงย่านสูงและย่านต่ำที่มีพลังและบริสุทธิ์ยิ่งขึ้นด้วย ภายในยังใช้สายเคเบิล 4 เส้นถักรวมกัน โดยเทคโนโลยีที่ร่วมพัฒนากับ KIMBLE KABLE ในการเชื่อมต่อระหว่างวงจรขยายเสียงและแจ๊คหูฟัง โดยมาพร้อมความจำในตัวเครื่อง 256 GB

Image

Image

Image

Image

Image

Image

ส่วนรุ่น NW-WM1A เป็นรุ่นรองลงมาตัวเครื่องผลิตจากอลูมิเนียม และใช้สายสัญญาณทองแดงปลอดอ๊อกซิเจน เชื่อมต่อระหว่างวงจรขยายเสียงและแจ๊คหูฟัง โดยมาพร้อมความจำในตัวเครื่องขนาด 128 GB

Image

Image

ทั้ง 2 รุ่น สามารถเล่นเพลงได้ยาวนานถึง 26 ชม. เมื่อฟังเพลงในรูปแบบ FLAC ความละเอียด 24 bit 96 kHz และนานถึง 33 ชม. เมื่อฟังเพลงในรูปแบบ MP3

NW-WM1Z จะวางจำหน่ายใน ราคา 109,990 บาท และ NW-WM1A จำหน่ายในราคา 39,990 บาท

มีเครื่องเล่นเพลงแล้ว จะให้ครบก็ต้องมีแอมปลิไฟเออร์สำหรับหูฟังด้วย TA-ZH1ES เป็นแอมปลิไฟเออร์สำหรับหูฟังแบบตั้งโต๊ะ ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการฟังเพลงผ่านหูฟังได้ถึงระดับ DSD 22.4MHz/PCM 768kHz/32bit ตัวผลิตภัณฑ์ใช้วงจรขยาย D.A. Hybrid Amplifier Circuit ซึ่งเป็นการนำวงจรขยายดิจิทัล S-Master HX มาใช้ร่วมกับวงจรขยายอนาล็อก ช่วยถ่ายทอดทุกความละเอียดของเสียงเพลงและลดความเพี้ยนของเสียง

Image

ในส่วนของโครงสร้างผลิตภัณฑ์เป็นแบบ Frame Beam Wall (FBW) ทำจากอะลูมิเนียม เพื่อลดการสั่นสะเทือนที่จะไปยังแผงวงจร และยังมี Acoustically Tuned Panel เพื่อลดสัญญาณเสียงรบกวนภายในตัวเครื่อง

นอกจากนี้ TA-ZH1ES ยังมาพร้อมกับ DSEE HX รุ่นใหม่ และ DC Phase Linearizer เช่นเดียวกับ Walkman WM1 ทั้งยังมี DSD Remastering ที่จะแปลงสัญญาณเสียง PCM ให้เป็นสัญญาณ DSD 11.2 MHz ซึ่งการประมวลผลเสียงนั้นจะทำบนชิป FPGA โดยตัวเครื่องรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่หลากหลาย ทั้ง USB-B, Coaxial, Optical และ Line Input และรองรับการต่อกับหูฟัง ผ่านการเชื่อมต่อแบบ balanced ผ่านหัวแจ็ค 3.5 มม. ที่ใช้ใน PHA-3 เดิม หัวแจ็ค 4.4 มม. และหัวแจ็ค 6.3 มม. รวมไปถึงแจ็ค XLR แบบ 4 ขา

สำหรับ TA-ZH1ES สินค้าจะวางจำหน่ายเดือนธันวาคม ในราคา 75,990 บาท

มาถึงชิ้นสุดท้าย หูฟังนั่นเอง MDR-Z1R เป็นหูฟังสเตอริโอไฮเรสออดิโอแบบครอบหูระดับเรือธง ให้เสียงคมชัดในทุกรายละเอียดอย่างเป็นธรรมชาติในทุกย่านเสียง สัมผัสได้ถึงมิติ และเวทีเสียงที่ชัดเจน

Image

มาพร้อมไดร์เวอร์ขับเสียงตัวใหม่ล่าสุด ใช้ไดอะแฟรมทรงโดมขนาด 70 ม.ม. ซึ่งผลิตจาก Liquid Crystal Polymer เคลือบด้วยอลูมิเนียม พร้อมใช้แมกนีเซียมตรงบริเวณของส่วนโดมพร้อมปิดด้วยตะแกรงฉลุลายแบบโปร่งด้วยลวดลาย Fibonacci Pattern Grill เพื่อถ่ายทอดรายละเอียดเสียงที่มีความถี่สูงได้ถึง 120KHz

นอกจากนี้ MDR-Z1R ยังได้รับการออกแบบที่พิถีพิถันในทุกรายละเอียดที่ประกอบขึ้น ทั้งคัพหูฟัง และแผ่นกรองตัวอะคูสติกเพื่อให้ได้เสียงที่นุ่มนวล ทำจากเยื่อกระดาษจากต้นสนแคนาดาโดยใช้กรรมวิธีการถักทอเส้นใยเช่นเดียวกับการทำกระดาษ Washi ของญี่ปุ่นที่มีความคงทน และส่งผ่านเสียงอย่างเป็นธรรมชาติและถูกปรุงแต่งน้อยที่สุด แล้วปิดด้วยตะแกรงที่ทำจาก Stainless Steel อย่างดี จึงช่วยให้ลดเสียงสะท้อนและสัญญาณรบกวนภายในหูฟังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ตัวแพดหูฟังหุ้มหนังแท้ และแถบคาดศีรษะทำจากไทเทเนียมน้ำหนักเบา สวมใส่สบายและทนทาน

มาพร้อมสายสัญญาณแบบสเตอริโอมินิแจ๊คขนาด 3.5 ม.ม. และสายสัญญาณแบบบาลานซ์แจ็คขนาด 4.4 ม.ม. จะวางจำหน่ายในเดือน กลางเดือนคุลาคม ในราคา 69,990 บาท พร้อมสายอัพเกรดที่ได้พัฒนาร่วมกับ Kimber Kable

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

นอกเหนือจากสินค้าในกลุ่ม Signature Series ข้างต้นแล้ว ทาง Sony ยังมีการเปิดตัวสินค้าตัวใหม่อีกหลายรุ่น

Walkman NW-A30 เครื่องเล่นเพลงพกพาระดับไฮเรสออดิโอที่ออกแบบเอาใจวัยรุ่นด้วยสีสันสดใส มีเทคโนโลยี S-Master HX digital amplifier ที่มอบคุณภาพเสียงให้คมชัดบริสุทธิ์ รองรับไฟล์ DSD แบบ native นอกจากนี้ยังใช้ POSCAP Capacitor คุณภาพสูงถึง 5 ชิ้น เพื่อช่วยลดสัญญาณเสียงรบกวน และค่าความเพี้ยนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 98 กรัม และรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย Bluetooth และ NFC

Image

สำหรับ NW-A30 ซีรี่ส์มีรุ่นย่อยให้เลือก 2 รุ่น คือ NW-A35 และ NW-A36HN ที่มาพร้อมความจำในตัวเครื่อง 16GB และ 32GB ตามลำดับ พร้อมช่องใส่ micro SD memory card สามารถเล่นเพลงเสียงไฟล์ Hi-Res Audio ได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 30 ชั่วโมง และไฟล์ MP3 ได้นานถึง 45 ชั่วโมง

โดยรุ่น NW-A36HN มาพร้อมหูฟังอินเอียร์แบบ Noise Cancelling รุ่น MDR-NW750N เหมาะสำหรับการฟังเพลงได้อย่างเต็มอรรถรส ปราศจากเสียงรบกวน ทั้ง 2 รุ่น มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ Viridian Blue, Cinnabar Red, Charcoal Black, Lime Yellow และ Bordeaux Pink

พร้อมวางจำหน่ายในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยรุ่น NW-A35 วางจำหน่ายราคา 7,190 บาท และรุ่น NW-A36HN ราคา 10,990 บาท


PS-HX500: High-Resolution Turntable

นี่เป็นสินค้าที่เราชอบที่สุดภายในงาน และน่าจะถูกใจทุกคนที่ชอบฟังเพลงจากแผ่นไวนิลนะ เพียงเชื่อมต่อ PS-HX500 เข้ากับระบบสเตอริโอ เสียงแบบ Analog ที่บันทึกมาบนแผ่นเสียง สัญญาณจะถูกแปลงให้กลายเป็นเสียงแบบดิจิตอล ที่มีคุณภาพเสียงสูงกว่าการฟังเพลงจากแผ่น CD Audio ธรรมดาทั่วๆไป

Image

สามารถแปลงเป็นสัญญาณเสียงดิจิตอลได้ 2 รูปแบบคือ แบบ DSD ที่เป็นฟอร์แมตไฟล์เสียงระดับคุณภาพ และแบบ WAV ความละเอียดสูง 24-bit นอกจากนี้ PS-HX500 ยังมาพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องที่ทันสมัย และเรียบหรู และยังมีแอพพลิเคชั่นที่สามารถตัดแต่งแก้ไขไฟล์เพลงที่แปลงมาแล้วได้อย่างง่ายดาย รวมถึงสามารถจะฟังเพลงโปรดได้จากอุปกรณ์เสียงความละเอียดสูงหลายชนิดได้อีกด้วยพร้อมวางจำหน่ายเดือนธันวาคมนี้ ในราคา 19,990 บาท

MHC-V77D

เป็นระบบเครื่องเสียงทรงพลัง ดีไซน์ทรงแนวตั้งขนาดกะทัดรัด ด้วย Sound Pressure Horn ช่วยให้สามารถขับแรงดันเสียงระดับ 1,440W (105.5dB) มาพร้อมกับมาตรฐานการกันน้ำ (IPX4) พร้อมที่จับและล้อลากเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย

Image

ช่วยสร้างสีสันให้งานปาร์ตี้ในแบบของคุณผ่านการควบคุมด้วยท่าทางสนุกๆ (Motion & Gesture Control) เช่น การเพิ่มเอฟเฟกต์ DJ หรือเพียงข้ามแทร็คเพลงด้วยการขยับง่ายๆ แค่ครั้งเดียว นอกจากนี้ MHC-V77D ยังรองรับ Wireless Party Chain, Wireless Multi-Room, Wireless Surround และ Wireless Stereo พร้อมวางจำหน่ายเดือนพฤศจิกายนนี้ ในราคา 15,990 บาท

MDR-1000X เป็นหูฟังไฮเรสออดิโอรุ่นใหม่แบบไร้สายระดับพรีเมี่ยม มาพร้อมพร้อมเทคโนโลยีระบบตัดเสียงรบกวน Digital Noise Cancelling ใหม่ล่าสุดเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวน

Image

Image

Image

เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานด้วย “Sense Engine” สุดยอดเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อให้คุณเพลิดเพลินกับการฟังเพลงโปรดได้ดั่งใจปรารถนา เมื่อต้องการความเป็นส่วนตัว เลือกเปิดระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอกอย่างสิ้นเชิง (NC : ON/OFF) หรือ ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ที่คุณต้องการ เช่นโหมด Normal คุณจะได้ยินทั้งเสียงเพลง และเสียงจากภายนอกด้วย หรือ โหมด Voice คุณจะได้ยินเสียงเพลง และเสียงประกาศ แต่ตัดเสียงรบกวนอื่นๆ เช่น กรณีที่อยู่ที่สนามบิน หรือที่สาธารณะ ในขณะที่ฟังเพลง จะยังคงได้ยินเสียงแตรรถ เสียงประกาศไฟลท์บิน เสียงประชาสัมพันธ์

นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถได้ยินบทสนทนาได้ทันที เพียงใช้มือสัมผัสหูฟังด้านนอกทางฝั่งขวามือ ความดังเสียงเพลงจะถูกลดระดับลงทันที เพื่อให้คุณได้ยินเสียงพูดและร่วมบทสนทนาได้ และเมื่อเอามือออก ระบบตัดเสียงรบกวนจะกลับมาทำงานตามปกติเพื่อการฟังเพลงต่อไป คุณจึงมั่นใจในความปลอดภัย และไม่พลาดอัพเดทสถานะการณ์ใดๆ ในขณะสวมใช้งานหูฟังโดยไม่จำเป็นต้องถอดหูฟังเข้าออก

นอกจากนี้ตัวหูฟังถูกออกแบบผลิตจากวัสดุอย่างดี สามารถใส่ฟังเพลงได้นานโดยไม่เจ็บหู และยังพับเก็บใส่กระเป๋าได้สบาย มีน้ำหนักเบาอยู่ที่ 275 กรัม ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 20 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยใช้ระยะเวลาชาร์จแบตเตอรี่ประมาณ 4 ชั่วโมง โดยมีให้เลือก 2สี สีดำ และครีม พร้อมวางจำหน่ายเดือนตุลาคม ในราคา 15,990 บาท

Hybrid Balanced Armature in-Ear Headphone XBA-N1/N3

เป็นหูฟังที่ใช้ไดร์เวอร์ 2 แบบผสมผสานกันระหว่าง Dynamic Driver และ Balanced Armature Driver เพื่อการถ่ายทอดรายละเอียดเสียงแบบไฮเรสออดิโอได้อย่างดีเยี่ยม เบสแน่น ช่วงความถี่กลางและสูงที่ชัดเจน ส่งผลให้การถ่ายทอดเสียงมีความชัดเจนในทุกย่านเสียง
Image

Image

ในขณะที่ดีไซน์ของตัวหูฟังสามารถทำให้เล็กลงด้วยไดรเวอร์ที่ออกแบบใหม่ มีขนาดเพียง 9 ม.ม. แต่ให้เนื้อเสียงเต็มตลอดย่านเสียงกลาง ถึงแหลม มาพร้อมดีไซน์เพื่อผู้ใช้งานจะรู้สึกสบายเมื่อสวมใส่ เอียร์บัดซิลิโคนเป็นแบบ Triple-Comfort Earbuds ออกแบบมาเพื่อให้ความรู้สึกนุ่มสบายไม่เจ็บหู แต่ยังคงปิดกระชับกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ และยังสามารถถอดล้างได้ด้วย

มีไมค์พร้อมรีโมทบนตัวสายเพื่อใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟนได้อย่างดี นอกจากนี้ XBA-N3AP ยังอัพเกรดใช้สายสัญญานแบบ Oxygen-Free Copper เคลือบเงิน เพื่อลดสัญญาณรบกวนและลดการผิดพี้ยนของเสียงให้น้อยที่สุดตามต้นฉบับ

หูฟังรุ่น XBA-N1AP และ XBA-N3AP พร้อมวางจำหน่ายเดือนตุลาคมนี้ ในราคา 9,990 และ15,990 บาท ตามลำดับ

ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Extra Bass

สำหรับคนชอบฟังเพลแนวตื๊ดๆ หรือขา EDM ทางโซนี่ก็มีสินค้าในกลุ่มนี้อกอมาโดยเฉพาะเช่นกัน อย่างเช่น MDR-XB80BS หูฟังไร้สายบลูทูธแบบ in-ear มาพร้อมเทคโนโลยีป้องกันน้ำตามมาตรฐาน IPX5 ทำให้สามารถป้องกันเหงื่อ และละอองน้ำได้อย่างสบาย แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 7 ชม. มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ ดำ แดง น้ำเงิน วางจำหน่ายเดือนตุลาคม ในราคา 4,990 บาท

Image

MDR-XB70BT หูฟังบลูทูธแบบ in-ear ดีไซน์เรียบง่ายในแบบคล้องคอ พร้อมกไมโครโฟนบิวท์อิน ทำให้สามารถใช้งานคุยโทรศัพท์ได้ทุกที่ น้ำหนักเบาเพียง 43 กรัม มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ ดำ แดง น้ำเงิน พร้อมวางจำหน่ายเดือนตุลาคมนี้ ในราคา 3,990 บาท

Image

MDR-XB50BS เป็นหูฟังบลูทูธแบบ in-ear มาพร้อมความสามารถในการกันเหงื่อและละอองน้ำด้วยเทคโนโลยีป้องกันน้ำตามมาตรฐาน IPX4 พร้อมไดร์เวอร์ขับเสียงขนาด 12 มม. และเบสทรงพลัง แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 8.5 ชม. มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ ดำ แดง น้ำเงิน พร้อมวางจำหน่ายเดือนตุลาคมนี้ ในราคา 2,990 บาท

Image

MHC-V77D เป็นระบบเครื่องเสียงทรงพลัง ดีไซน์ทรงแนวตั้งขนาดกะทัดรัด ด้วย Sound Pressure Horn ช่วยให้สามารถขับแรงดันเสียงระดับ 1,440W (105.5dB) มาพร้อมกับมาตรฐานการกันน้ำ (IPX4) พร้อมที่จับและล้อลากเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย

Image

ช่วยสร้างสีสันให้งานปาร์ตี้ในแบบของคุณผ่านการควบคุมด้วยท่าทางสนุกๆ (Motion & Gesture Control) เช่น การเพิ่มเอฟเฟกต์ DJ หรือเพียงข้ามแทร็คเพลงด้วยการขยับง่ายๆ แค่ครั้งเดียว นอกจากนี้ MHC-V77D ยังรองรับ Wireless Party Chain, Wireless Multi-Room, Wireless Surround และ Wireless Stereo พร้อมวางจำหน่ายเดือนพฤศจิกายนนี้ ในราคา 15,990 บาท

ที่มา http://bit.ly/2cKyKDj
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”