กสทช.เร่งเน็ตชายขอบ-นายกฯสั่งปีหน้าต้องเสร็จ

Post Reply
brid.samanan
Posts: 578
Joined: 07 Aug 2017, 09:57

กสทช.เร่งเน็ตชายขอบ-นายกฯสั่งปีหน้าต้องเสร็จ

Post by brid.samanan »

บอร์ดกสทช.พร้อมลงนามสัญญาโครงการ “เน็ตชายขอบ” มูลค่ากว่า 1.2 หมื่นล้านบาท หลังนายกฯ เร่งต้องติดตั้งแล้วเสร็จตามกำหนดในปี61 วอนสตง.ไปท้วงติงโครงการที่ส่อทุจริตจะดีกว่า

วันนี้ (6 ก.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ กล่าวภายหลังประชุมบอร์ดกสทช.ว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ครั้งที่ 2/2560 โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ยืนยันให้เดินหน้าโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ 3,920 หมู่บ้าน (เน็ตชายขอบ) เพื่อให้สามารถทำโครงการเสร็จภายในกำหนดเดิม คือติดตั้งไม่น้อยกว่า 15% ในวันที่ 16 ธ.ค.2560 ติดตั้งเสร็จ 60 % ในเดือนมี.ค. 2561 และติดตั้งครบ 100% ภายในเดือน ก.ค.2561

“นายกฯ ได้ฝากให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ดูในส่วนของข้อกฎหมายว่าสตง. มีอำนาจหน้าที่อย่างไรในการท้วงติงโครงการ ควรไปท้วงติงโครงการที่ส่อการทุจริตต่างๆ มากกว่าจะมาท้วงติงแบบนี้ ไม่เช่นนั้นโครงการพังหมด ซึ่งกสทช.ขอเวลา 2-3 วัน เพื่อยกร่างคำตอบถึง สตง.ก่อนจะส่งให้สตง. เพื่อเดินหน้าเซ็นสัญญาโครงการให้เสร็จภายในวันที่ 10 ก.ย.นี้ เพื่อให้การทำงานเป็นไปตามกรอบเวลาเดิม เพราะนายกฯ ประกาศแล้วว่าปี 2561 เน็ตประชารัฐต้องครอบคลุมทั้งประเทศ และต้องติดตั้งครบตามที่ให้สัญญาไว้กับนายนกรัฐมนตรีทั้งหมดทั้งประเทศ 7 หมื่นกว่าหมู่บ้าน”

นายฐากร กล่าวว่า ในเรื่องของราคานั้น กสทช.ทำตามประกาศ กสทช.ข้อ 27 ซึ่งระบุว่า หากให้บริการแบบสายแยกส่วนจะต้องมีการคิดราคาแยกว่า รัฐลงทุนกี่% เอกชนกี่% ดังนั้น เอกชนที่ชนะการประมูลต้องทำราคาต้นทุนมาเสนอว่า ภายใต้วงเงิน 12,000 ล้านบาท แล้วเอกชนจะมีต้นทุนลงทุนเพิ่มเติมเท่าไหร่ หากเอกชนลงทุน 15% ค่าบริการเข้าสู่ครัวเรือนจะอยู่ที่เดือนละ 180 บาท และหากในอนาคตค่าบริการในท้องตลาดลดจากเดือนละ 590 บาท เป็นราคาที่ถูกกว่าราคาที่ต่อเข้าครัวเรือนของโครงการเน็ตชายขอบก็ต้องลดลงด้วย โดยกสทช.จะเจรจากับผู้ชนะการประมูลก่อนว่าสามารถทำตามเงื่อนไขการประมูลนี้ได้หรือไม่ หากไม่ได้ก็ไม่สามารถเซ็นสัญญาโครงการใน 8 สัญญาที่ประมูลได้ในราคา 12,989.69 ล้านบาท จากกรอบเดิม 13,614.62 ล้านบาท ทำให้ประหยัดงบได้ 624.93 ล้านบาท
Image

นอกจากนี้ บอร์ดยังเห็นชอบแนวทางการทบทวนค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม เป็นอัตราใหม่ที่มีการปรับลดจากอัตราเดิมเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมีการจัดเก็บตามอัตราขั้นบันไดของรายได้เพื่อเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อผู้ให้บริการรายเล็ก ดังนี้ รายได้ 0-100 ล้านบาท คิดอัตราค่าธรรมเนียม ร้อยละ 0.125 (จากเดิมเก็บร้อยละ 0.25) รายได้เกิน 100-500 ล้านบาท คิดอัตราค่าธรรมเนียม ร้อยละ 0.25 (จากเดิมเก็บร้อยละ 0.5) รายได้เกิน 500-1,000 ล้านบาท คิดอัตราค่าธรรมเนียม ร้อยละ 0.5 (จากเดิมเก็บร้อยละ 1.0) รายได้เกิน 1,000-5,000 ล้านบาท คิดอัตราค่าธรรมเนียม ร้อยละ 0.75 (จากเดิมรายได้เกิน 1,000 ล้านบาทขึ้นไป คิดอัตราค่าธรรมเนียม ร้อยละ 1.5) และรายได้เกิน 5,000 ล้านบาทขึ้นไป คิดอัตราค่าธรรมเนียม ร้อยละ 1.5 รวมถึงให้สำนักงานกสทช. ไปพิจารณาทบทวนค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันด้วยเช่นกัน

อีกทั้ง ยังเห็นชอบการลดหย่อนค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปีของช่องสปริงนิวส์ จำนวน 2 ใบอนุญาต ได้แก่ ใบอนุญาตกิจการไม่ใช้คลื่นความถี่และใบอนุญาตบริการธุรกิจระดับชาติ หมวดหมู่ข่าวสารและสาระ รอบบัญชี 2558 ในอัตราลดหย่อน ร้อยละ 15 ของค่าธรรมเนียมใบอนุญาตที่พึงชำระ ที่นำเสนอเนื้อหารายการในสัดส่วนที่เป็นข่าวสารหรือสาระที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนตลอดทั้งปี จำนวน 61.87% และสำหรับใบอนุญาตบริการธุรกิจระดับชาติ หมวดหมู่ข่าวสารและสาระ ช่องสปริงนิวส์ ก็มีการนำเสนอเนื้อหารายการในสัดส่วนที่เป็นข่าวสารหรือสาระที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนตลอดทั้งปี จำนวน 61.87% เช่นกัน

ส่วนกรณีที่มีการนำเสนอข่าวให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อใช้มาตรา 44 เพื่อคืนใบอนุญาตทีวีดิจิตอลนั้น ส่วนตัวไม่ได้ขัดข้องหากจะมีการคืนใบอนุญาตได้ ซึ่งหากผู้ประกอบการอยากที่จะให้มีการคืนใบอนุญาตก็ให้ไปยื่นเรื่องที่หัวหน้าคสช. เอง เพราะ กสทช.ไม่ได้มีหน้าที่ให้คืนใบอนุญาต แต่มีหน้าที่ออกใบอนุญาตผู้ประกอบการให้เป็นไปตามพ.ร.บ.การจัดสรรคลื่นความถี่ในประกาศกสทช.

ที่มา เดลินิวส์
6/09/2017
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”