วันที่ 30 สิงหาคม 2560 เป็นงานเปิดตัวสมาคมการค้าผู้ให้บริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ไทย Thailand E-Payment Trade Association (TEPA) ยกระดับการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์เทียบเท่ามาตรฐานสากล
สมาคมการค้าผู้ให้บริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ไทย หรือ ชื่อเต็มว่า Thailand E-Payment Trade Association: TEPA ได้แถลงเปิดตัวสมาคมพร้อมสมาชิกภายในเครือข่าย ตอบรับ QR Code Standard ขับเคลื่อนโดยรัฐบาลไทย ด้วยนวัตกรรมการเงินรูปแบบใหม่ ในปัจจุบัน เนื่องจาก ประเทศไทยมีผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนที่เพิ่มมากขึ้น มากถึง 40 ล้านเครื่องในปี 2558 และเพิ่มขึ้นเป็น 50 ล้านเครื่องในปี 2559 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกถึง 80 ล้านเครื่อง ในปี 2564 ทำให้โทรศัพท์มือถือนับเป็นปัจจัยที่ 5 และการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์กลายเป็นกิจกรรมประจำวัน
ด้วยเหตุนี้ ผู้ให้บริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญและร่วมผนึกกำลังกันจัดตั้งสมาคมการค้าผู้ให้บริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ไทย (Thailand E-Payment Trade Association: TEPA) เพื่อยกระดับการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของไทย ให้เทียบเท่ากับมาตรฐานสากล และเพิ่มความไว้วางใจในการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ให้กับผู้บริโภคของไทย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อไปในอนาคต
สมาคมการค้าผู้ให้บริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ไทย (Thailand E-Payment Trade Association: TEPA) ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งเป็นสมาคมการค้าเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2559 โดยสมาคมมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมการประกอบวิสาหกิจที่เกี่ยวกับการให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ สนับสนุนและช่วยเหลือสมาชิกแก้ไขข้อขัดข้องต่างๆ ตลอดจนเจรจาทำความตกลงในการประกอบวิสาหกิจของสมาชิก
ปัจจุบัน สมาคม TEPA มีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 16 ราย ทั้งบริษัทที่ให้บริการ e-Wallet ไปจนถึงบัตรโดยสาร e-Money ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิกดังนี้
1. บริษัท ไทยสมาร์ทคาร์ด จำกัด
2. บริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ จำกัด
3. บริษัท เพย์สบาย จำกัด
4. บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด
5. บริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด
6. บริษัท ทีทูพี จำกัด
7. บริษัท แอร์เพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
8. บริษัท แรบบิท-ไลน์ เพย์ จำกัด
9. บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
10. บริษัท เอ็มโอแอล เพย์เมนท์ จำกัด
11. บริษัท ทูซีทูพี (ประเทศไทย) จำกัด
12. บริษัท เพย์ โซลูชั่น จำกัด
13. บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน)
14. บริษัท บลูเพย์ จำกัด
15. บริษัท โอมิเซะ จำกัด
16. บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)
นายปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บริษัท แอสเซนด์ กรุ๊ป จำกัด ในฐานะนายกสมาคมการค้าผู้ให้บริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ไทย (Thailand E-Payment Trade Association: TEPA) กล่าวว่า
“การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์สะท้อนถึงนโยบาย Thailand 4.0 และการผลักดันในการเป็นสังคมไร้เงินสดของภาครัฐ (Cashless) ในหลายประเทศ อาทิ จีนและอินเดีย การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ล้ำหน้าไปไกลมาก และในประเทศเช่นสวีเดน สังคมไร้เงินสดก็กลายเป็นภาพแห่งความเป็นจริงขึ้นมาแล้ว ข้อดีของการไม่ใช้เงินสดต่างๆ อาทิ การลดภาระค่าใช้จ่ายการจัดการเงินสด ลดความเสี่ยงในการครอบครองเงินสด ตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอนทำให้ลดความเสี่ยงจากการคอรัปชั่น”
สมาคมการค้าผู้ให้บริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ไทย (Thailand E-Payment Trade Association: TEPA) จะคอยผลักดันการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยการให้ความรู้กับผู้บริโภคไทยและองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน พร้อมกันนี้ สมาคมก็จะคอยกำกับดูแลสมาชิกให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบของทางธนาคารแห่งประเทศไทยและนโยบายภาครัฐ และจะคอยเป็นกระบอกเสียงให้กับผู้ให้บริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์เพื่อส่งเสริมธุรกิจชาวไทย
นายปุณณมาศยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า
“ผมหวังว่าผู้บริโภคและองค์กรต่างๆ ได้ตระหนักและเปิดใจรับนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ โดยเฉพาะการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายอย่างแท้จริง และยังมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย เพราะภาครัฐและทางธนาคารแห่งประเทศไทยได้ลงมากำกับดูแลธุรกิจนี้อย่างใกล้ชิด ผู้บริโภคและองค์กรต่างๆ สามารถมั่นใจได้ว่าสมาชิกของสมาคมการค้าผู้ให้บริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ไทย (Thailand E-Payment Trade Association: TEPA) ทั้ง 16 ราย เป็นผู้ให้บริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับใบอนุญาติประกอบธุรกิจอย่างถูกต้อง และ มุ่งเน้นให้บริการผู้บริโภคด้วยบริการที่มีคุณภาพและปลอดภัยเทียบเท่ามาตรฐานสากล”
โดยนายปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บริษัท แอสเซนด์ กรุ๊ป จำกัด เป็นนายกสมาคม
ภาพบรรยากาศงานเปิดตัวสมาคม TEPA และ งานสัมมนา QR Code
ในวันนี้ทางทีมงานไทยแวร์ได้ไปเข้าร่วมงานเปิดตัวสมาคม TEPA และ งานสัมมนา QR Code ในส่วนของงาน จะเปิดให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทดลองใช้งานการชำระเงินผ่านระบบ QR Code กันในแต่ละบูธครับ
ซึ่งผู้ใช้งานส่วนใหญ่ต่างก็มีมือถือสมาร์ทโฟนกันอยู่แล้ว ก็สามารถใช้งานจับจ่ายใช้สอย ซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ชีวิตและไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ อีกทั้งยังเข้ากับ นโยบาย Thailand 4.0 และผลักดันให้เป็น สังคมไร้เงินสด หรือที่เรียกว่า Cashless ลดปัญหาการทุจริตและเพิ่มประโยชน์ในส่วนอื่นๆ ได้ง่ายมากขึ้น งั้นเราไปชมภาพบรรยากาศการใช้งาน QR Code กันภายในงานนี้กันเลยครับ
ตัวอย่างการใช้งาน QR Code ภายในงาน
จากคร่าวๆ เราได้เห็นรูปแบบการใช้งาน QR Code ในการชำระเงินนี้จะทำให้การใช้จ่ายนั้นง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น การใช้จ่ายผ่าน QR Code ตามร้านอาหารตามห้างสรรพสินค้า หรือ ร้านอาหารทั่วไป อย่าง ร้านอาหารริมถนน (Food Street) ก็สามารถใช้งานระบบนี้ได้ หรือ จะเป็นร้านขายของตามตลาด ผู้ค้ารายย่อย หรือ บริการรถรับส่ง อย่าง วินมอเตอร์ไซค์ รถแท็กซี่ แม้กระทั่ง คนขายพวงมาลัยและล็อตเตอรี่ สามารถลงทะเบียนและใช้งานการใช้จ่ายด้วยระบบ QR Code นี้ได้หมด สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนไทยได้เป็นอย่างดี
สำหรับการใช้งานระบบ QR Code ที่จะใช้ในประเทศเรานั้น ทาง ธปท. และ TEPA กำลังออกแบบ QR Code Standard และพัฒนาตัวคิวอาร์โค้ดที่จะมาเป็นมาตรฐานใหม่ในการชำระเงินและใช้บริการรูปแบบต่างๆ ภายในไทย สามารถใช้งานได้ร่วมกันทุกธนาคาร ไม่ว่าคุณจะใช้ธนาคารอะไรก็สามารถใช้จ่ายผ่าน QR Code ได้ร่วมกันหมดเลยครับ
โดยตัวระบบนี้จะทำงานร่วมกับระบบ Prompt Pay (พร้อมต์เพย์) ที่เรามีอยู่แล้ว ซึ่งการทำงานจะเปลี่ยนจากรูปแบบ ผู้โอนไปยังผู้รับ เปลี่ยนเป็น ผู้ซื้อไปยังผู้ขาย แทนนั่นเองครับ ทำให้เราสามารถใช้งานได้ง่ายและสามารถเปิดใช้งานได้ในเร็ววันนี้
ในตอนนี้ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมการค้าผู้ให้บริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ไทย (TEPA) ได้พัฒนาและเปิดทดลองใช้งานระบบ QR Code ภายใต้โครงการ Regulatory Sandbox ที่ในตอนนี้จะมีธนาคารอยู่ 2 แห่ง ได้เปิดทดสอบอยู่ในพื้นที่บริเวณที่กำหนดไว้ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการและควบคุมดูแลความปลอดภัยในการชำระเงิน นอกจากนี้ยังมีธนาคารอีก 6 แห่ง ที่อยู่ในระหว่างการยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการ หลังจากนี้คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในไตรมาสที่ 4 (Q4) ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไปครับ
ที่มา : www.bot.or.th
https://news.thaiware.com/11205.html
เมื่อ : 31 สิงหาคม 2560