อุปกรณ์สวมได้ - 1001

[brid.ladawan]

อุปกรณ์สวมได้ - 1001


หลายท่านคงอาจจะยังไม่คุ้นกับศัพท์คำนี้กันมากนัก ถ้าไม่ได้อ่านข่าวสารไอทีมากนัก ในปัจจุบัน อุปกรณ์แบบสวมได้ หรือ wearable device เริ่มมีบทบาทเข้ามาในชีวิตเราทีละน้อย เป็นอุปกรณ์ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ของมนุษย์เรา โดยเราสามารถนำมาสวมใส่ ทำงานและเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน

ถ้าจะยกตัวอย่างให้เห็นชัดเจนก็คงเป็นอุปกรณ์แบบสวมใส่ได้ล่าสุด คือ เจ้าซัมซุงกาแล็กซีเกียร์ (Samsung Galaxy Gear) ซึ่งได้เปิดตัวในงานไอเอฟเอ (IFA) ณ กรุงเบอร์ลิน เมื่อวันที่ 4 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถเชื่อมกับสมาร์ทโฟนตระกูลซัมซุงกาแล็กซี ต่าง ๆ เช่น ซัมซุงกาแล็กซีโน้ต 3, ซัมซุงกาแล็กซีเอส 4 เป็นต้น ซึ่งเมื่อเจ้าซัมซุงกาแล็กซีเกียร์ของเราเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน รุ่นที่ได้กล่าวไปข้างต้น เราจะสามารถเช็กข้อความต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เอสเอ็มเอส, เฟซบุ๊ก ฯลฯ แม้กระทั่งเมื่อมีคนโทรฯ เข้ามาที่โทรศัพท์ของเรา เราจะทราบได้ทันทีว่าใครหรือเบอร์อะไรโทรฯ เข้ามาหาเราโดยที่ไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู อีกทั้งยังสามารถเลือกที่จะรับสายแล้ว คุยผ่านทางซัมซุงกาแล็กซีเกียร์เลยหรือจะตัดสายทิ้งก็ได้

ปัจจุบันอุปกรณ์แบบสวมได้นอกจากเจ้าซัมซุงกาแล็กซีเกียร์แล้วก็ยังมีอุปกรณ์แบบสวมใส่ได้อีกหลายยี่ห้อแและหลายรูปแบบมาก เช่น Sony Smart Watch จากค่าย Sony ซึ่งสามารถทำงานได้กับอุปกรณ์แอนดรอยด์หลากหลายยี่ห้อ นอกจากนี้ยังมี Pebble Smartwatch ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นไอโฟน หรือแอนดรอยด์ ด้วย บลูทูธ เพียงแต่ดาวน์โหลด Pebble app ไว้ในสมาร์ทโฟนของเรา เพียงเท่านี้โปรแกรมต่าง ๆ ก็จะเชื่อมต่อไปยัง Pebble แบบไร้สาย

ตัวอย่างต่อมาเอา ใจคนรักสุขภาพ ด้วย UP จาก Jawbone ซึ่งเป็นกำไลสวมใส่ที่ข้อมือ สามารถนับก้าวเดินของเราได้ว่า ในหนึ่งวันเราก้าวเดินไปแล้วกี่ก้าว หรือถ้าวิ่งก็ตรวจสอบได้ว่าเผาผลาญไปกี่แคลอรี หรือแม้กระทั่งตั้งเวลาปลุกโดยมันจะสั่นตอนที่ปลุกเราได้ด้วย แถมด้วย Nike FuelBand ซึ่งเป็นอุปกรณ์เหมาะสำหรับผู้รักการออกกำลังกาย (ยกเว้นสำหรับกีฬาทางน้ำ) เป็นอุปกรณ์ไฮเทคที่เก็บการเคลื่อนไหวของเราตลอดทั้งวัน ด้วย Accelerometer ที่อยู่ภายใน เมื่อเราสวม FuelBand ไว้ที่ข้อมือ จะมีการเก็บข้อมูล และคำนวณตลอดเวลา

นอกจากนี้แล้ว กูเกิลกลาส (google glass) ซึ่งพัฒนาโดยกูเกิล มีลักษณะเป็นแว่นตา สามารถแสดงข้อมูลที่เราต้องการผ่านทางแว่นนี้โดยการสั่งการในรูปแบบต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งเปล่งเสียงออกมาว่า “โอเค กลาส” (OK glass) มันจะก็ทำงาน ซึ่งมันสามารถแจ้งเตือนนัดหมาย บอกสภาพอากาศ ณ ขณะนั้นหรือเมื่อเราเดินถึงรถไฟฟ้าซึ่งปิดบริการอยู่มันก็จะแจ้งเตือนเราด้วยรวมถึงค้นหาเส้นทางได้ ในปัจจุบันกูเกิลกลาสยังอยู่ในขั้นทดสอบยังไม่เปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้ทดสอบนอกจากผู้พัฒนาเท่านั้น และนอกจากอุปกรณ์ที่ใช้กับมนุษย์อย่างเราแล้ว ยังมี whistle ที่สามารถนำไปติดที่ปลอกคอของสุนัขเพื่อตรวจจับกิจวัตรประจำวันของมันว่า มันวิ่ง เดิน หรือนอนได้ ทำให้เข้าใจอารมณ์สุนัขของคุณมากยิ่งขึ้นและรู้วิธีที่จะดูแลเอาใจใส่มันให้ดีได้อย่างไร

ณ ตอนนี้ท่านผู้อ่านคงจะพอเข้าใจกับคำว่า “อุปกรณ์แบบสวมใส่ได้” ขึ้นมาบ้างแล้ว จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีได้เข้ามามีปัจจัยต่อการใช้ชีวิตมากขึ้น ช่วยให้ชีวิตเราสะดวกสบายมากขึ้น แต่อย่างไรก็ดีอุปกรณ์เหล่านี้เป็นเพียงแค่เครื่องอำนวยความสะดวกเท่านั้น แต่พื้นฐานการใช้ชีวิตของเรานั้น เราไม่ได้เพียงคุยกับแค่อุปกรณ์ของเรา เรายังคงต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนทั่วไปที่อยู่ร่วมกัน รวมถึงธรรมชาติรอบตัวและสัตว์ร่วมโลกของเรา อย่ามัวรอให้อุปกรณ์รายงานพฤติกรรมสุนัขของท่านแต่เพียงอย่างเดียว ออกไปวิ่งเล่นกับมันบ้างน่าจะดีกว่า.

นันทพร วุฒิพันธุ์
ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์
วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 2556