'ไอซีที' ลั่น3ปี ดันไทยติด10อันดับรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์โลก

[brid.ladawan]

'ไอซีที' ลั่น3ปี ดันไทยติด10อันดับรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์โลก


ไอซีที ประกาศขอติดท็อป 10 รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์โลก ชูยุทธศาสตร์รวมศูนย์ระบบไอที พร้อมตั้งกรมทะเบียนกลางดูแลทะเบียนประเทศ 91 หมวด...

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า การจัดการสัมมนาวิชาการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศนานาชาติ ครั้งที่ 1 และการสัมมนาวิชาการนานาชาติเชิงปฏิบัติการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของสถาบันการศึกษา ครั้งที่ 1 ในงาน ITU Telecom World 2013 โดยสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีจีเอ ในครั้งนี้ถือเป็นยุทธศาสตร์หนึ่งที่จะขยับการจัดอันดับของรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ของไทยจากอันดับที่ 20 ของโลกขึ้นไปติดอันดับ 1 ใน 10

อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนทั้งระบบภาครัฐจะต้องเข้ามาใช้ทรัพยากรส่วนกลางที่จัดวางไว้ ตั้งแต่ระบบคลาวด์คอมพิวติ้งไปจนถึงระบบบิ๊กดาต้าที่กำลังจะเกิดขึ้น ผสานกับการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอื่นอย่างระบบ Government Information Network (GIN) ที่กำลังขยายเข้าสู่หน่วยงานท้องถิ่นมากขึ้น ขณะเดียวกัน ผู้ให้บริการระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งได้รับสัมปทานระบบ 3จี ก็ยังสามารถวางระบบครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น ก็จะส่งผลให้อันดับของประเทศไทยจะขยับขึ้นได้อย่างแน่นอน

"การเร่งสร้างกลุ่ม CIO หรือผู้บริหารระบบไอทีภาครัฐ ให้มีความสามารถควบคุมระบบ e-government ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ถือเป็นหนึ่งในหมวดที่ทางผู้จัดอันดับให้ความสำคัญ ซึ่งขณะนี้บุคลากรด้านนี้ของไทยถือว่าเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมาก และมีประสิทธิภาพที่ดี" น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

นายสุรชัย ศรีสารคาม ปลัดกระทรวงไอซีที กล่าวว่า ในภาคปฏิบัติของการขยับอันดับของ e-government ประเทศไทยขึ้นสู่อันดับ 1 ใน 10 ของโลกนั้น คาดว่าภายใน 3 ปีทางกระทรวงฯ จะดำเนินการให้สำเร็จ โดยจะผลักดันปัจจัยต่าง ๆ ไปพร้อมกันตั้งแต่การใช้ทรัพยากรด้านไอทีแบบรวมศูนย์ หรือ Centralization ผ่านระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง และอื่น ๆ ซึ่งจากนี้ไปภาคราชการจะไม่สามารถลงทุนในระบบคอมพิวเตอร์ส่วนองค์กรได้เอง แต่ต้องมาใช้ทรัพยากรส่วนกลางโดยไม่มีการตัดงบประมาณเท่ากับหน่วยงานต่าง ๆ สามารถนำงบลงทุนด้านไอทีไปใช้ในส่วนอื่น ๆ ขณะเดียวกัน การรวมศูนย์ครั้งนี้ยังทำให้การดูแลรักษาความปลอดภัยทำได้ง่ายขึ้น เนื่องจากเป็นการดูแลจากจุดเดียวและทำให้การขยายระบบไปยังส่วนภูมิภาคเกิดประสิทธิภาพผ่านทางศูนย์ไอซีที ชุมชน ทั้งหมดสามารถเกิดขึ้นได้ภายใน 1 ปี

ปลัดกระทรวงไอซีที กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญที่จะเป็นตัวเร่งให้เกิดขึ้นได้รวดเร็ว คือ การตั้งกรมทะเบียนกลางให้เกิดขึ้นและใช้งานได้จริง โดยหน่วยงานดังกล่าวจะรวบรวมงานทะเบียนจำนวน 91 เรื่องที่มีอยู่ในประเทศไทยเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งนอกจากจะทำให้ประเทศไทยเกิดผู้เชี่ยวชาญในเรื่องระบบทะเบียน ยังสามารถนำระบบทะเบียนทั้งหมดเข้ามาอยู่จุดเดียวทำให้บริการประชาชนได้ง่ายขึ้น โดยในขั้นต้นจะให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาสนับสนุนแล้วค่อยโอนย้ายบุคลากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดูแลในที่สุด

นายโตชิโอ โอบิ ประธาน IAC , ผู้อำนวยการโครงการจัดลำดับรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยวาเซดะ กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ทางวาเซดะได้เพิ่มดัชนีชี้วัดตัวใหม่สำหรับรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ จากเดิมใช้ตัวชี้วัดเพียง 7 ชนิด ได้เพิ่มตัวชี้วัดขึ้นอีก 3 ชนิดคือ ระบบ Cyber Security หรือการวางระบบความปลอดภัยโลกไซเบอร์ของภาครัฐ , Open Government หรือรัฐบาลระบบเปิด ซึ่งภาครัฐจะต้องเปิดเผยทั้งข้อมูลและ api ให้ภาคประชาชนเข้าถึงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ง่ายขึ้น และสุดท้ายคือการเชื่อมโยงภาครัฐจากส่วนกลางและท้องถิ่นเข้าหาพื้นที่ในส่วนต่างๆ.

โดย ไทยรัฐออนไลน์
21 พฤศจิกายน 2556