จัดซื้อแท็บเล็ตคึก 10บริษัทไทย-เทศ ร่วมวงประมูล

[brid.ladawan]

จัดซื้อแท็บเล็ตคึก 10บริษัทไทย-เทศ ร่วมวงประมูล

ประมูลจัดซื้อแท็บเล็ตโซน 1, 2 คึก บริษัทไทย-เทศสนใจซื้อซองประมูล 10 ราย โดยมี "สโคป" ยักษ์ใหญรายเก่าจากจีนร่วมซื้อซองประมูลด้วย คาดเสร็จทันกำหนดที่ สพฐ.วางไว้
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า การจัดซื้อแท็บเล็ตครั้งใหม่สำหรับโซน 1 และ 2 ที่เคยมีปัญหานั้น ขณะนี้ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวยังไม่มีอะไรมาก เพราะสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพิ่งจะประกาศให้ผู้สนใจเข้ามาประกวดราคาครั้งใหม่อยู่ อย่างไรก็ตาม การประกวดราคาแท็บเล็ตครั้งใหม่นี้จะมีปัญหาอีกหรือไม่นั้น หากทุกอย่างดำเนินการไปตามขั้นตอนที่ถูกต้องก็ไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไร ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดสเปกของเครื่องแท็บเล็ตก็มีการประกาศไว้แล้ว ซึ่งคาดว่าหากทุกอย่างเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่วางไว้ และเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาตามมาอย่างแน่นอน
แหล่งข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ สพฐ.ยกเลิกสัญญาจัดซื้อคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) กับบริษัท เสิ่นเจิ้น อิงถัง อินเทลลิเจ้นท์ คอนโทรล จำกัด ซึ่งชนะการประมูลแท็บเล็ตระดับชั้น ป.1 ในโซน 1 (ภาคกลางและภาคใต้) มีจำนวน 431,105 เครื่อง มูลค่า 842 ล้านบาท และโซน 2 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) จำนวน 373,637 เครื่อง เป็นเงิน 786 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 ก.พ.นั้น ขณะนี้ สพฐ.ได้เริ่มเปิดประกวดราคาครั้งใหม่แล้ว โดยประกาศขายซองเอกสารการประกวดราคาแท็บเล็ตชั้น ป.1 โซน 1 และโซน 2 ตั้งแต่วันที่ 3-11 มี.ค.2557 ปรากฏว่าเปิดขายได้ 2 วัน มีบริษัทเอกชนสนใจมาซื้อทั้งหมด 10 บริษัท ในจำนวนนี้เป็นบริษัทชั้นแนวหน้า 5 บริษัท ได้แก่ 1.บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) 2.บริษัท สามารถ เทลคอม จำกัด (มหาชน) 3.บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด 4.บริษัท ไฮไฟ โอเรียนท์ ไทย จำกัด (มหาชน) เจ้าของคอมพิวเตอร์ยี่ห้ออะโคเนติค รวมทั้งบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลอปเมนต์ จำกัด (Shenzhen Scope Scientific Development Co., Ltd) จากประเทศจีน ซึ่งเคยเป็นผู้ผลิตและจัดส่งแท็บเล็ตนักเรียน ป.1 กว่า 800,000 เครื่อง ให้กับประเทศไทยในช่วงที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดตัวโครงการ 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน เป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2555
แหล่งข่าวจาก ศธ.กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ อาจจะมีบริษัทมาซื้อซองเพิ่มเติมอีก เพราะในการประมูลครั้งที่แล้วมีผู้มาซื้อซองทั้ง 4 โซนประมาณ 50 ราย แต่ยื่นซองจริงเพียง 13 ราย อย่างไรก็ตาม บริษัทที่มาซื้อซองในครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นบริษัทจากประเทศไทย มีเพียงบริษัท สโคปฯ เท่านั้นที่เป็นบริษัทต่างชาติ และอาจมียักษ์ใหญ่จากประเทศจีนมาซื้อซองเพิ่มเติมอีก เพราะฉะนั้นมีแนวโน้มสูงว่าการผลิตและจัดส่งแท็บเล็ตในโซน 1 และ 2 น่าจะเสร็จทันกำหนดที่ สพฐ.วางไว้ เพราะบริษัทที่เข้าประมูลหลายรายเป็นยักษ์ใหญ่ที่มีศักยภาพสูง
อนึ่งหลังจากเปิดขายซองแล้ว สพฐ.กำหนดวันอี-ออคชั่นไว้ในวันที่ 19 มีนาคม จะเปิดบริษัทยื่นซองเอกสารและเครื่องแท็บเล็ตของชั้น ป.1 โซน 1 และโซน 2 โดยในวันเดียวกัน สพฐ.จะทำการตรวจสอบเอกสาร ทดสอบคุณสมบัติทางเทคนิคของเครื่องแท็บเล็ต รวมทั้งทดสอบการตกกระแทก หรือ Drop Test ของเครื่องแท็บเล็ต และในวันที่ 26 มีนาคม จะเปิดให้มีการประกวดราคาบริษัทที่ผ่านระบบอี-ออคชั่นที่บริษัท สวนกุหลาบ จำกัด.

ที่มา ไทยโพสต์
วันที่ 5 มีนาคม 2557