น่าห่วง!เด็กรุ่นใหม่ยอมรับคอร์รัปชัน "สมพงษ์" ชี้ลงพื้นที่สำ

Post Reply
brid.ladawan
Posts: 7045
Joined: 29 Mar 2013, 13:36

น่าห่วง!เด็กรุ่นใหม่ยอมรับคอร์รัปชัน "สมพงษ์" ชี้ลงพื้นที่สำ

Post by brid.ladawan »

น่าห่วง!เด็กรุ่นใหม่ยอมรับคอร์รัปชัน "สมพงษ์" ชี้ลงพื้นที่สำรวจพบเยาวชนมองใครจ่ายเงินกู้กยศ.ตรงเวลา"โง่"

“รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ” ชี้เด็กเยาวชนความคิดติดลบ ยอมรับการคอร์รัปชันทุจริตมากขึ้น ลงพื้นที่สำรวจพบ มองใครจ่ายเงินกู้ยืม กยศ.ตรงเวลาเป็นคนโง่ กระตุ้นท้องถิ่นทำกิจกรรมนอกห้องเรียน สร้างสำนึกที่ดีและลดปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน
เครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงาน “เวทีฟื้นพลังชุมชนท้องถิ่นสู่การอภิวัฒน์ประเทศไทย ครั้งที่ 4 ประจำปี 2557" ที่ห้องประชุม EH 105 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา โดย รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวระหว่างบรรยายพิเศษในหัวข้อ “พลังชุมชนท้องถิ่นร่วมสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน” ว่า จากการลงพื้นที่ชุมชนพบปัญหาเด็กและเยาวชนปัจจุบันค่อนข้างวิกฤติในเรื่องพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงเรื่องเพศ ยาเสพติด ความรุนแรง และติดเกม ทัศนคติค่านิยมในทางที่ผิด โดยเฉพาะความคิดเห็นว่าการทุจริตคอร์รัปชันเป็นเรื่องรับได้ เช่น นักเรียนนักศึกษาที่กู้เงิน กยศ.กว่า 50% เมื่อถึงเวลาไม่ยอมคืนเงิน โดยมีความคิดเห็นว่าใครที่คืนเงินตรงเวลาแสดงว่าโง่ เด็กหญิงยอมรับเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานมากขึ้น และบางชุมชนเด็กบอกว่าโตขึ้นอยากเป็นโจร ซึ่งเป็นความคิดที่ติดลบ
ส่วนเรื่องที่เป็นด้านดีคือ 1.เด็กมีส่วนร่วมทางการเมือง 2.มีความเป็นสากล กล้าแสดงออก 3.มีความเป็นตัวของตัวเอง เชื่อมั่น มีแนวความคิดที่เป็นวิถีชีวิตของตัวเองมากขึ้น ฉะนั้น คนเป็นพ่อแม่ต้องออกแบบลูกว่าจะเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กดีหรือเด็กเก่ง เช่นเดียวกันผู้นำท้องถิ่น ต้องมานั่งคุยแบบเปิดใจว่าจะเปิดพื้นที่ดีหรือพื้นที่เสี่ยง เพราะถ้าต้องการให้เด็กเป็นคนดีก็ต้องปลูกฝังและออกแบบให้ดีตั้งแต่เด็ก มีกิจกรรมดีๆ ในชุมชน โดยภายในระยะเวลา 5 ปีจะแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนอย่างไร
“ผู้นำท้องถิ่นต้องเฉลียวใจ เกิด “ปิ๊งแวบ” เมื่อพบเด็กที่อยู่ราวสะพาน ข้างวัด เด็กก้าวร้าว ไม่ไปโรงเรียน ซึ่งผู้นำท้องถิ่นต้องยอมรับว่าพื้นที่มีเด็กกลุ่มเสี่ยง เด็กนอกกรอบ อย่ามองข้ามแล้วมัวแต่อนุรักษ์แต่สิ่งที่ดีงามในท้องถิ่นเท่านั้น ฉะนั้นต้องทำความเข้าใจธรรมชาติของเด็ก ฟังเสียงเด็กให้มากขึ้น เปิดใจ เปิดพื้นที่ หาปัญหาที่ใกล้ตัวเพื่อพัฒนาไปสู่กิจกรรม ก็จะทำให้เด็กได้รับการยอมรับ ซึ่งจะเป็นเรื่องที่ดี เด็กก็จะเป็นตัวขับเคลื่อน แต่เมื่อไรที่เด็กถูกต่อต้านจะกลายเป็นตัวสร้างปัญหาทันที ชุมชนก็จะอยู่อย่างลำบาก” รศ.ดร.สมพงษ์กล่าว
รศ.ดร.สมพงษ์ กล่าวต่อไปว่า อยากให้ทางโรงเรียนและชุมชนจัดการเรียนการสอน 2 รูปแบบ 1.โรงเรียนในระบบหลักสูตรท้องถิ่น 60:40 คือครูต้องบูรณาการการเรียนการสอนและจัดทำเป็นโครงงาน เพื่อเชื่อมโยงและลงมือปฏิบัติ 2.โรงเรียนชุมชน โดยการทำเป็นศูนย์การเรียนรู้ในชุมชน มีครูภูมิปัญญา เนื่องจากปัจจุบันวัยรุ่นปฏิเสธภูมิปัญญาท้องถิ่น มีการจัดค่ายให้เด็กอยู่ร่วมกัน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ให้เด็กได้แสดงออก จึงอยากให้มหาวิทยาลัยเป็นแม่ข่ายเข้าไปเป็นพี่เลี้ยงช่วยชุมชนทำวิจัย ถอดบทเรียน นำองค์ความรู้มาสร้างหลักสูตร แบบเรียน ตำรา ชุดความรู้ในพื้นที่ แต่ถ้าไม่รีบถอดบทเรียนที่เป็นภูมิปัญญาในท้องถิ่นจะหายไปอย่างแน่นอน และขอยืนยันว่าถ้าเด็กเรียนเฉพาะในห้องเรียน ความรู้จะไม่ขยับอย่างแน่นอน.

ที่มา ไทยโพสต์
วันที่ 5 มีนาคม 2557
-----------------------------------------
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”