สนข.ลั่นเดินหน้าลงทุนเมินศาล ยอดต่างชาติขอBOIหด สสว-พาณิชย์ช่วยSME
สนข.ไม่กังวลศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน พร้อมเดินหน้าดันทุกโครงการที่บรรจุในแผน ด้านบีโอไอยอมรับปัญหาการเมืองทุบสถิติยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติลดลง 40% ด้าน สสว.-พาณิชย์ เร่งช่วยเหลือเอสเอ็ม นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยถึงการพิจารณาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 12 มี.ค.2557 เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญั ติ(พ.ร.บ.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครง สร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ.... วงเงินไม่เกิน 2 ล้านล้านบาท ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 และ 170 หรือไม่นั้น ทาง สนข.ก็จะเดินหน้าต่อโครงการ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ แต่อาจเปลี่ยนมาใช้เงินงบประมาณหรืองบกลาง หรือให้กระทรวงการคลังจัดหาเงินกู้ให้ยืนยันไม่ล้มเลิกโครงการ
"ถ้าไม่มีเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ก็หมายความว่าจะต้องล้มเลิกทุกโครงการ ซึ่งเรายืนยันว่าโครงการที่บรรจุใน พ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาท เป็นโครงการที่มีความสำคัญในการที่จะช่วยผลักดันให้ไทยสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ ถ้าเราไม่ทำวันนี้ ก็จะทำให้ประเทศเสียโอกาส" นายจุฬากล่าว
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า การยื่นขอรับส่งเสริมของโครงการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.2557 มีโครงการลงทุนจากหลายประเทศที่มีมูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้น แต่ในด้านโครงการลงทุนที่ยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 121 โครงการ ลดลง 40% เมื่อเทียบกับจำนวนโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมในช่วงเดียวกันของปี 2556 ที่ผ่านมา ส่วนมูลค่าเงินลงทุนในปี 2557 นี้ มีมูลค่า 47,296 ล้านบาท ลดลง 43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2556 ที่ผ่านมา โดยกลุ่มหลักยังคงเป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น 61 โครงการมูลค่า 17,379 ล้านบาท จำนวนโครงการลดลง 42% ส่วนมูลค่าเงินลงทุนลดลง 63%
“ภาพรวมการยื่นขอบีโอไอช่วง 2 เดือนแรกของปี 2557 (ม.ค.-ก.พ.2557) มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริม 188 โครงการมูลค่า 63,100 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วจำนวนโครงการลดลง 46% รวมถึงมูลค่าเงินลงทุนลดลง 58%” นายอุดมกล่าว
นายปฏิมา จีระแพทย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า หลังจากที่ได้เปิดคลินิกเอสเอ็มอี เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานและรับขึ้นทะเบียนเอสเอ็มอีที่ต้องการขอรับความช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.2557 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีแสดงความสนใจที่จะขอรับความช่วยเหลือมากกว่า 10,000 ราย โดย 89.5% เป็นการขอความช่วยเหลือทางด้านการเงิน รองลงมาคือด้านการตลาด และการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการธุรกิจ
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำแผนช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง โดยเน้นการให้ความช่วยเหลือ SMEs ให้มีความเข้มแข็งเพิ่มมากขึ้น ซึ่งได้บูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ในกระทรวงฯ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น และผลักดันให้ SMEs มีความเข้มแข็ง ทั้งการสร้างความพร้อมให้กับผู้ประกอบการ และให้ความช่วยเหลือเพื่อผลักดันการส่งออก
“ในเดือน ม.ค.2557 ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบรุนแรง 38% พอมาเดือน ก.พ.2557 ผลกระทบเพิ่มมากขึ้น โดยกระทบรุนแรงเพิ่มเป็น 56% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นปัญหาด้านสภาพคล่องทางการเงิน ปัญหาด้านภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น การนำเข้าส่งออก และธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมาก คือภาคการท่องเที่ยว ซึ่งมียอดจองห้องพักลดลง 25-30% ธุรกิจรถเช่าลดลง 10-15% ธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ ยอดขายลดลง 30-40%“ นางศรีรัตน์กล่าว
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 11 มีนาคม 2557
สนข.ลั่นเดินหน้าลงทุนเมินศาล ยอดต่างชาติขอBOIหด สสว-พาณิชย์ช
-
- Posts: 7045
- Joined: 29 Mar 2013, 13:36