โอดเกณฑ์ประเมินสมศ.ไม่เป็นธรรมกับเด็กดอย

[brid.ladawan]

โอดเกณฑ์ประเมินสมศ.ไม่เป็นธรรมกับเด็กดอย

"อ๋อย"ลงพื้นที่ดูภาพรวมการศึกษาบนพื้นที่สูง โรงเรียนบนดอยโอดเกณฑ์ประเมิน สมศ.ไม่เป็นธรรมกับเด็กด้อยโอกาส วัดผลสัมฤทธิ์จากข้อสอบยังไงก็สู้ไม่ได้

วันนี้( 12 มี.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ(ศธ.) กล่าวระหว่างการลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายว่า ตนต้องการศึกษาสภาพปัญหาอุปสรรค ศักยภาพในการจัดการศึกษาของโรงเรียนและเขตพื้นที่การศึกษาบนพื้นที่สูงและบริเวณชายแดน เพื่อเป็นข้อมูลในการจัดเสวนาแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาการจัดการศึกษาในเขตพื้นที่สูงและชายแดนประจำปีงบประมาณ 2558-2561 ในวันที่ 13 มี.ค. ซึ่งเท่าที่ได้ลงพื้นที่พบว่ามีหลายประเด็นที่ต้องให้ความสนใจ เช่น การรักษาเอกลักษณ์ของชนเผ่า เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้มีเอกลักษณ์ที่หลากหลาย มีหลายชนเผ่าที่เมื่อจัดการศึกษาแล้วจะต้องคงความเป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าไว้ให้ได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องการสอนภาษาไทยสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาแม่ ที่จะต้องมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน อย่างไรก็ตามเท่าที่ดูศักยภาพของเด็กในพื้นที่แล้วคิดว่าจะสามารถพัฒนาและส่งเสริมได้อย่างหลากหลาย

นายสมสวัสดิ์ ทองประวิทย์ ผอ.โรงเรียนบ้านสันติคีรี ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย รักษาการ ผอ.รร.บ้านแม่เต๋อ ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวงกล่าวว่า ด้วยสภาพในพื้นที่ขณะนี้มีความเจริญมากขึ้น แต่ครู และผู้บริหารมาอยู่ได้ 1-2 ปีก็มักจะขอย้ายไปอยู่พื้นที่ที่เจริญกว่า ทำให้โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลไม่ค่อยมีผู้บริหารตัวจริง ซึ่งส่งผลถึงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็ก เช่นที่โรงเรียนบ้านแม่เต๋อถึงแม้จะสามารถเก็บเด็กในพื้นที่เข้าเรียนได้100% แต่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก็ยังไม่ผ่านเกณฑ์ของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(สมศ.)เพราะมีปัญหาเรื่องการอ่านออกเขียนได้ การวิเคราะห์ข้อสอบที่มีความซับซ้อนซึ่งเด็กจะตีความหมายผิดเพี้ยนไป ซึ่งเรื่องนี้เคยมีการเสนอต่อสมศ.แล้วว่าในการประเมินด้านผลสัมฤทธิ์นั้น จะใช้ผลประเมินของโรงเรียนในสัดส่วนร้อยละ 50 ได้หรือไม่ ซึ่งคำตอบคือไม่ได้ เพราะเกณฑ์การประเมินจะต้องเหมือนกันทั้งประเทศ

"โรงเรียนบ้านแม่เต๋อเข้ารับการประเมินของสมศ.ครบทั้ง 3 รอบ โดยรอบแรกไม่ผ่านเกณฑ์ รอบ2 มีพัฒนาการดีขึ้น ส่วนรอบ 3 ผลการประเมินอยู่ในระดับดีทุกด้าน แต่มาตกเรื่องผลสัมฤทธิ์เพราะดูจากคะแนนโอเน็ตที่เพิ่งกำหนดให้มีในการประเมินรอบ 3 จึงอยากเสนอว่าในการประเมินรอบต่อไปหากยังต้องดูผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนขอให้ประเมินบริบทหรือสภาพของโรงเรียนด้วย เพราะหากดูผลสัมฤทธิ์จากการทำข้อสอบอย่างเดียวก็จบ เด็กก็คงไม่ผ่าน แต่ถ้าดูผลสัมฤทธิ์ที่หมายถึงการนำไปใช้ประโยชน์ของเด็ก มั่นใจได้ว่าผ่านแน่นอน เพราะการจัดการเรียนของโรงเรียนจะเน้นเรื่องระเบียบวินัย คุณธรรมจริยธรรม และการสอนวิชาชีพเพื่อให้เด็กมีงานทำ เช่น มัคุเทศก์ เนื่องจากพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว"นายสมสวัสดิ์ กล่าว

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 12 มีนาคม 2557