การเมืองไม่นิ่งส่งผลดีต่อการศึกษา

[brid.ladawan]

การเมืองไม่นิ่งส่งผลดีต่อการศึกษา

"ไพฑูรย์"ชี้ปฏิรูปการศึกษาทำยากถ้าการเมืองยังแทรกแซง ขอให้เป็นแค่แรงกระตุ้นและผลักดันก็พอ

วันนี้ (17 มี.ค.) ศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์(มธบ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์การเมืองยังไม่มีข้อยุติที่ชัดเจน และบทบาทของรัฐบาลยังเป็นรัฐบาลรักษาการอยู่ ซึ่งเข้าใจว่าการเป็นรัฐบาลรักษาการไม่สามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆได้ เพราะจะต้องขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หากทำอะไรโดยมิชอบด้วยกฎหมายก็อาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่ตนเชื่อว่าการขับเคลื่อนงานด้านการศึกษาจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะคนที่ทำงานด้านการศึกษาโดยตรงยังสามารถขับเคลื่อนงานการศึกษาไปได้เอง ซึ่งคิดว่าเป็นเรื่องดีที่จะทำให้การศึกษาปลอดจากการเมืองอย่างแท้จริง เพราะงานด้านการศึกษาหากจะให้การเมืองเข้ามาแทรกแซงมากเกินไปก็จะทำให้เกิดความวุ่นวายได้ โดยเรื่องการศึกษามีขั้นตอนและทิศทางที่สามารถขับเคลื่อนไปได้ด้วยตนเองอยู่แล้ว

ศ.ดร.ไพฑูรย์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนการปฎิรูปการศึกษา หากสถานการณ์เมืองยังไม่รู้ว่าจะออกมาในทิศทางไหนก็น่าเป็นห่วงว่าการปฎิรูปการศึกษาจะขับเคลื่อนไปได้อย่างไร เพราะหากจะต้องหยุดชะงักลงก็จะกลายเป็นประเด็นว่าเราปฎิรูปการศึกษายังไม่จบสิ้นสักที แต่หากการผลักดันในเชิงปฎิรูปการศึกษาในรูปแบบเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น ให้การศึกษานำเศรษฐกิจสังคม ให้การศึกษามีบทบาทยกระดับประเทศก็น่าจะทำให้การปฎิรูปการศึกษาเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งหากเราได้รัฐบาลที่นิ่งและได้ผู้ที่มาดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ คนเดียวไปตลอดโดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนรัฐมนตรีอีกก็จะเป็นเรื่องที่ดี อย่างไรก็ตามตนยังเห็นว่าระบบการศึกษาจะต้องแก้ด้วยการศึกษาเองไม่ใช่ด้วยการเมือง แต่การเมืองจะเป็นเพียงแรงกระตุ้นผลักดันเท่านั้น เพราะมีตัวอย่างจากต่างประเทศว่า ครูต้องมีอิสระเสรีในการทำงานวิชาชีพของตนเองได้อย่างเต็มที่ และพิสูจน์แล้วว่ากระบวนการนี้ทำให้ระบบการศึกษามีการพัฒนาไปได้ด้วยดี

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 17 มีนาคม 2557