ยังไม่บังคับสังกัดอื่นใช้ข้อสอบกลาง

[brid.ladawan]

ยังไม่บังคับสังกัดอื่นใช้ข้อสอบกลาง

สพฐ.แจงช่วงแรกยังไม่บังคับหน่วยจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานใช้ข้อสอบกลาง เชื่อทดลองใช้สักระยะถ้าเห็นประโยชน์จะขอมาใช้เอง
วันนี้ (17 มี.ค.) ดร.กมล รอดคล้าย รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงการใช้แบบทดสอบกลางสำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่า เป็นการจัดขึ้นเพื่อให้สามารถทราบถึงการจัดการศึกษาของโรงเรียนทั้งประเทศ เพื่อใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาการเรียนการสอนให้มีคุณภาพมากขึ้น โดยการประเมินผลด้วยข้อสอบกลางดังกล่าวจะใช้เฉพาะกับหน่วยงานที่จัดการศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 เต็มรูปแบบเท่านั้น เพราะฉะนั้นบางหน่วยงานที่ไม่ได้จัดการศึกษาตามหลักสูตรนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเข้ามาใช้แบบทดสอบกลางนี้ก็ได้ เช่น สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.) วิทยาลัยนาฏศิลป์ โรงเรียนนานาชาติ หรือโรงเรียนพระปริยัติธรรม เป็นต้น

รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า มีการถามกันมามากว่าจะนำผลการสอบดังกล่าวไปทำอะไรได้บ้าง คำตอบคือเรานำมาใช้ 2 เรื่อง คือ โรงเรียนเอาผลไปตัดสินการได้หรือตกของเด็ก แต่แนวโน้มก็ไม่ได้เป็นผลหลักที่ทำให้เด็กตกเพราะมีการเก็บคะแนนระหว่างภาคอยู่แล้วถึง70% แต่ที่สำคัญคือนำมาใช้สำหรับเทียบระดับของเด็กทั้งประเทศว่า เด็กโรงเรียนไหน เขตพื้นที่การศึกษาไหน ได้คะแนนสูง ต่ำ อย่างไร เพื่อจะได้แก้ปัญหาได้ตรงจุด โดยจะไม่ได้นำข้อมูลไปใช้ในการจัดอันดับโรงเรียน แต่จะใช้เพื่อการแก้ปัญหาและพัฒนาโรงเรียนเป็นหลัก

"จากการหารือกับหลายหน่วยงานที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามหลักสูตรแกนกลางแบบเต็มรูปแบบ เช่น กรุงเทพมหานคร โรงเรียนเอกชน โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พบว่า ลึก ๆ แล้วเขาไม่ต้องการให้บังคับมาร่วมสอบด้วย อยากให้สอบเฉพาะโรงเรียนสังกัด สพฐ. แต่อยากให้ใช้วิธีการเชิญชวน ถ้าโรงเรียนไหนอยากสอบก็ส่งข้อสอบไปให้ ถ้าไม่อยากสอบก็ไม่ต้องบังคับ แต่นโยบายของนายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ คือ อยากให้สอบทั้งหมดจะได้เห็นภาพรวมของทั้งประเทศ ดังนั้น คิดว่าอาจจะแบ่งทำเป็นระยะ เช่น ระยะแรกอาจสอบเฉพาะโรงเรียนสังกัด สพฐ.เป็นหลัก ระยะที่สองก็อาจเชิญชวนให้หน่วยงานสถานศึกษาอื่น ๆ เข้ามาร่วมสอบ ซึ่งเมื่อทำไปจนเห็นประโยชน์ร่วมกันแล้วระยะที่สามจึงค่อยบังคับให้เข้ามาสอบทั้งประเทศ" ดร.กมล กล่าว.

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 17 มีนาคม 2557