สนามบิน"สุวรรณภูมิ" ติด1ใน10ของโลกได้แค่ฝัน : กัลยา ยืนยง

[brid.ladawan]

สนามบิน"สุวรรณภูมิ" ติด1ใน10ของโลกได้แค่ฝัน : กัลยา ยืนยง

ข่าวล่ามาแรงจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ว่าขณะนี้ ทอท.ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังสายการบินต่างๆ ที่ใช้บริการในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่าจะขอปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมการเช็กอินสนามบินอีกคนละ 5 บาท จากปกติ 25 บาท เป็น 30 บาท
ในการปรับขึ้นค่าทำเนียมนั้น จะมีผลกระทบหรือไม่นั้น ทอท.ให้เหตุผลว่า การขึ้นค่าเช็กอินจะกระทบต่อสายการบิน แต่ไม่กระทบต่อผู้โดยสารเพราะสายการบินจะเป็นผู้รับผิดชอบเองทั้งหมด โดยปัจจุบันสุวรรณภูมิมีผู้โดยสารใช้บริการไม่ต่ำกว่าปีละ 60 ล้านคน และหากมีการขึ้น 5 บาท จะทำให้ ทอท.มีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท เนื่องจากจะเรียกเก็บเฉพาะค่าโดยสารขาออกขาเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การขึ้นค่าธรรมเนียมครั้งนี้ สามารถทำได้ในเดือน พ.ค.2557 นี้ทันที เพราะผ่านการเห็นชอบคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ไปแล้วตั้งแต่ปลายปีก่อน และขณะนี้ก็เริ่มประกาศสายการบินรู้ล่วงหน้าแล้ว 4 เดือนก่อนที่จะมีการปรับขึ้นราคาค่าธรรมเนียม
ทั้งนี้ การปรับขึ้นค่าทำเนียมเช็กอินสนามบิน ที่ผ่านมาก็มีหลายฝ่ายตั้งคำถามว่ามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่จะต้องมีการปรับราคา เนื่องจากที่ผ่านมาการให้บริการดูจะไม่สอดคล้องกับการปรับขึ้นราคาสนามบิน จึงทำให้มีหน่วยงานภาคเอกชนออกมาสอบถามข้อเท็จจริง ว่าในการปรับขึ้นครั้งนี้มีความสมเหตุสมผลหรือไม่
จะเห็นได้ชัดเจนจากการที่ นางมาริสา พงษ์พัฒนพันธุ์ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานด้านธุรกิจการบิน (เอโอซี) ได้หารือ และประชุมเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้ร้องขอให้ ทอท.ช่วยแจกแจงถึงรายละเอียดของการปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมเช็กอินผู้โดยสารขาออกที่เรียกเก็บเพิ่มขึ้นจากสายการบินต่างๆ ที่ใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิอีก 5 บาทต่อคนว่าเพราะอะไร
เช่นเดียวกับ บมจ.การบินไทย ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า ในการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมดังกล่าว การบินไทยจะได้รับผลกระทบมากกว่าสายการบินอื่นๆ เพราะมีฐานการบินหลักอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิทั้งหมด ส่งผลให้บริษัทมีต้นทุนบริหารจัดการที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันการบินไทยมีผู้โดยสารใช้บริการประ มาณ 21 ล้านคน เฉพาะขาออกกว่า 10 ล้านคน เมื่อปรับขึ้นค่าเช็กอิน ทำให้การบินไทยมีต้นทุนเพิ่มขึ้นมากกว่าปีละ 50 ล้านบาท ส่วนจะมีการผลักภาระไปให้ผู้โดยสารหรือไม่นั้น ก็คงต้องพิจารณารายละเอียดและความเหมาะสมด้วย
และเมื่อมองย้อนกลับไปดูก่อนหน้านี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก็ดูเหมือนจะไม่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการเช็กอินดังกล่าว เนื่องจากมองว่าหากกลับไปพิจารณาตามผลประกอบการ ทอท.ก็ถือเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีกำไรมาก และที่อ้างว่าการเก็บค่าธรรมเนียมขาออกประสบผลขาดทุนขัดแย้งกัน และการอนุมัติให้ขึ้นครั้งนี้อาจโดนสังคมตั้งคำถามว่าเหมาะสมหรือไม่ ก็ต้องดูกันต่อไปหลังจากนี้ว่าจะมีสายการบินไหนบ้างที่จะออกมาคัดค้านแนวทางการปรับขึ้นค่าทำเนียมสนามบินสุวรรณภูมิ
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องดังกล่าวนั้น ทอท.ได้พยายามออกมาชี้แจงเพียงว่าการขอปรับเพิ่มค่าธรรมเนียม การเช็กอินของสายการบินต่างๆ เพื่อนำค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นไปพัฒนาระบบการเช็กอินต่างๆ ให้มีคุณภาพมากขึ้น หลังจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไม่เคยปรับขึ้นค่าเช็กอินมาตลอด 7 ปีนับตั้งแต่เปิดให้ใช้สนามบินเป็นต้นมา
แม้ว่า ทอท.จะระบุถึงต้นสายปายเหตุที่ต้องปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการเช็กอินว่าเพราะอะไร แต่สายการบินต่างๆ มองว่าทำให้มีต้นทุนในการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้น และก็คงข้องใจในเหตุผลของการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมดังกล่าวว่าเป็นการดำเนินการในเรื่องใดบ้าง สมเหตุสมผลหรือไม่ นอกจากนี้ยังเห็นว่าการแจ้งปรับขึ้นค่าธรรมเนียมควรบอกล่วงหน้านานกว่านี้
พร้อมทั้งสายการบินต่างๆ อยากเรียกร้องขอความเห็นใจจาก ทอท. เพราะสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทยขณะนี้ ที่ส่งผลให้เกิดการชะลอตัวของนักท่องเที่ยว ก็ทำให้จำนวนผู้โดยสารของสายการบินหลายสายได้รับผลกระทบตามไปด้วย
ไม่ว่าผลที่ออกมาในเดือน พ.ค.57 นี้จะเป็นอย่างไร สุดท้ายภาระที่เพิ่มขึ้นก็คงไม่หนีไปไหน ผลักให้ผู้บริโภครับภาระไปเช่นเดิม เพราะในโลกของนายทุนที่ทำธุรกิจไม่มีทางที่จะยอมรับภาระขาดทุนไว้เฉยๆ แทนคนอื่น หรือแม้กระทั่งยอมสูญเสียรายได้ไป สุดท้ายก็คงไม่หนีภาระนี้ ผู้โดยสารต้องรับไป
และต้องย้อนกลับไปถาม ทอท.ว่าเปิดให้บริการมากว่า 7 ปีแล้ว การบริการภายในได้ปรับปรุงคุณภาพให้มีความพร้อมให้บริการหรือยัง เพราะทุกวันนี้ร้านค้ายังเต็มพรึบ ว่างขายแทบไม่มีทางเดิน รถแท็กซี่ก็ยังบริการห่วย เลือกให้บริการเฉพาะชาวต่างชาติ เมินคนไทย ภายในอาคารผู้โดยสารก็แออัด เบียดเสียดกัน และอีกสารพัดปัญหาที่รอการแก้ไขเพียบ แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่ไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก จากปัจจุบันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิติดอันดับ 1 ใน 10 ของสนามบินดีเด่นของเอเชีย และอยู่ในอันดับที่ 26 ของโลก และการเป็นศูนย์กลางการบินของอาเซียนได้สักที.

ที่มา ไทยโพสต์
วันที่ 18 มีนาคม 2557