LTE 4G แข่งกันที่แบนด์วิธคุณภาพ

[brid.ladawan]

LTE 4G แข่งกันที่แบนด์วิธคุณภาพ

ในช่วง 1-2 ปีก่อน ทุกป้ายโฆษณาทั้งเล็ก-ใหญ่ ต่างก็โชว์หลาคำว่า "3G" ก่อนจะมีการใช้งานจริงเสียอีก แล้วตามมาด้วยคำว่า "LTE 4G" คนที่ใช้มือถือแค่โทร.เข้า-ออก คงไม่เข้าใจว่า 3G กับ LTE 4G มันคืออะไร สำคัญมากจนต้องเปลี่ยนจากมือถือธรรมดาที่คนในวงการโทรคมนาคมเรียกว่า ฟีเจอร์โฟน มาเป็นสมาร์ทโฟน เพื่อรองรับการใช้งานเลยหรือ ถ้ามีสมาร์ทโฟนขั้นเทพ แต่แบนด์วิธไม่มากพอ การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตจะเป็นยังไง คำถามนี้อยู่ในใจใครหลายคน
หลังจากที่ไทยมี 3G ซึ่งเป็นการพัฒนาจาก 2G ให้มีช่องสัญญาณความถี่และความจุในการรับ-ส่งข้อมูลที่มากกว่า ซึ่งใช้อย่างเป็นทางการในปีที่แล้ว ก็มีผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือหลายรายสนใจทำ LTE 4G (LTE - Long Term Evolution) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบให้สามารถส่งผ่านข้อมูลได้มากและเร็วขึ้น ส่งผลให้ตลาดสมาร์ทโฟนในไทยตื่นตัวมาก ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยเปลี่ยนมือถือใหม่เพื่อรองรับ 3G ทำให้เกิดการใช้งานมัลติมีเดีย การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตบนมือถือทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งสมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่เติบโตจากการมี 3G โดยแนวโน้มการเติบโตอาจเป็นทิศทางเดียวกับทั่วโลก จากผลการสำรวจของบริษัท อีริคสัน จำกัด คาดว่า จะมีผู้ใช้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อการสื่อสารเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า หรือ 50,000 ล้านคน ภายในปี 2563 จาก 5,000 ล้านคน ของปี 2553
ส่วนจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์ทั้งหมดในอีก 5 ปีข้างหน้า จะมีถึง 9,300 ล้านคน ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟน 5,600 ล้านคน และแท็บแล็ตราว 750 ล้านคน ทั้งนี้ ในปี 2556 ที่ผ่านมา ยอดหมายเลขโทรศัพท์มือถือทั่วโลกอยู่ที่ 6,700 ล้านเลขหมาย เพียงในไตรมาส 4 มีผู้ใช้เพิ่มขึ้น 109 ล้านเลขหมาย ถือว่ามีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นชัดเจน ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้งานประมาณ 4,500 ล้านคนเท่านั้น
สำหรับยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกในปีที่ผ่านมามีจำนวน 1,000 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 60% ทำให้ปริมาณการใช้งานดาต้าบนมือถือมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากคอนเทนต์ดิจิตอลที่เติบโตขึ้นด้วย ซึ่งการดาวน์โหลดมัลติมีเดียที่เป็นวิดีโอ คาดว่าจะมีสัดส่วนเกิน 50% ใน 5 ปีข้างหน้า ในสหรัฐอเมริกาได้เริ่มให้บริการ 4G แล้ว มีสัดส่วนการใช้งานคอนเทนต์วิดีโอถึง 48% นอกจากนี้ อีริคสันยังพบว่า คนที่ใช้งานสมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยด์ 1 ล้านคน จะดาวน์โหลด 100 ล้านแอพพลิเคชั่น
นายบัญญัติ เกิดนิยม ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารและองค์กรสัมพันธ์ บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด มองว่า ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือต้องวางแผนแล้วว่า จะทำอย่างไร ให้เครือข่ายครอบคลุมการใช้งานให้ได้มากที่สุด การใช้งานดาต้าบนมือถือที่เติบโตมาก อาจทำให้ในบางพื้นที่มีการใช้งานหนาแน่น และพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปแล้ว การดูวิดีโอจะต้องมีแบนด์วิธที่มากกว่าการใช้เล่นเฟซบุ๊ก ต่อไปคนใช้สมาร์ทโฟนจะมองที่คุณภาพของเครือข่ายมาก่อน รองลงมาคือราคา ความคุ้มค่าของแพ็กเกจ และสุดท้ายเรื่องการบริการ รวมทั้งศูนย์บริการคอลเซ็นเตอร์
ดังนั้น เทรนด์ของตลาดโดยรวมก็เปลี่ยนไปด้วย คือ ผู้ใช้งานจะไม่ได้สนใจที่ขีดสัญญาณบนหน้าจอโทรศัพท์ว่าเต็มหรือไม่เต็ม แต่ดูว่าแบนด์วิธที่ส่งมาให้ในเครื่องเพียงพอต่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตหรือเปล่า ปัญหาการใช้งานหนาแน่นมักเกิดขึ้นในตัวเมือง และในส่วนขององค์กรก็เริ่มสนใจในอุปกรณ์สื่อสารไร้สายมากขึ้น และอุตสาหกรรมจะมองโครงสร้างพื้นฐานให้กลายเป็นระบบ ที่มีการรวมกันของเทเลคอม ดาต้าคอม และมีเดีย เข้าด้วยกัน
นายบัญญัติเล่าต่อว่า อีริคสันตั้งเป้าทำตลาดอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยในปีนี้ โดยเน้นกลุ่ม LTE 4G ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นตัวทำรายได้หลัก เนื่องจากเทคโนโลยีดังกล่าวถือเป็นพื้นฐานของบริการอีกหลายด้าน ทั้งบนมือถือ แท็บแล็ต รวมถึงแนวคิดทีวี เอนีแวร์ (TV Anywhere) ที่สามารถชมรายการทีวีได้จากอุปกรณ์สื่อสารไร้สายได้ทุกที่ ซึ่งเชื่อว่าภายใน 1-2 ปีข้างหน้า เทคโนโลยีการสื่อสารจะมีการนำไปใช้แบบก้าวกระโดดเพื่อเชื่อมโยงผู้คนเข้าหากัน
ปัจจุบัน อีริคสันมีความร่วมมือกับดีแทค และทรูมูฟ เอช ด้านเทคโนโลยีการให้บริการ 3 จี และ 4 จี ในบางพื้นที่ ซึ่งมั่นใจว่าการลงทุนในส่วนดังกล่าวของโอเปอเรเตอร์ทั้ง 2 รายจะยังคงมีต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการใช้งานของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรืออาจพัฒนาสู่เทคโนโลยี 5 จี ในอนาคต เนื่องจากความต้องการใช้งานของผู้บริโภคในปัจจุบันนั้นหลากหลายขึ้น ประกอบกับคลื่นความถี่ในปัจจุบันถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานกับคลื่นความถี่ต่ำ ซึ่งในอนาคตจำเป็นต้องขยายเพื่อรองรับการใช้งานที่มากขึ้น.

ที่มา ไทยโพสต์
วันที่ 16 มีนาคม 2557