อสังหาฯไม่ยั่นล้ม2ล้านล. แต่คาดเก็งกำไรต่างจังหวัดวูบ ม็อบทำ

[brid.ladawan]

อสังหาฯไม่ยั่นล้ม2ล้านล. แต่คาดเก็งกำไรต่างจังหวัดวูบ ม็อบทำธุรกรรมที่ดินลด10%


กรมที่ดินเผยปัญหาการเมืองทำธุรกรรมที่ดินลด 10% ส่วนการล้ม พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน อาจทำให้ราคาที่ดินต่างจังหวัดปรับลด 5-10% ด้านผู้ประกอบการอสังหาฯชี้ไม่กระทบ เหตุไม่ได้บรรจุไว้ในแผน แต่คาดการเก็งกำไรที่ดินต่างจังหวัดลดลงแน่

นายปราโมทย์ ยามาลี รองอธิบดีกรมที่ดิน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงาน "มหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 30" ซึ่งจัดโดยสมาคมอาคารชุดไทย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ว่า การทำธุรกรรมเกี่ยวกับที่ดินทั้งหมดผ่านกรมที่ดินในปีงบประมาณ 2556 มีจำนวนกว่า 6 ล้านรายการ สามารถเก็บค่าธรรมเนียมได้มูลค่ากว่า 70,000 ล้านบาท และในช่วงต้นปี 2557 การทำธุรกรรมชะลอไปบ้าง เนื่องจากผลกระทบทางการเมือง โดย 5 เดือนของปีงบประมาณ 2557 (ตุลาคม 2556-กุมภาพันธ์ 2557) การทำธุรกรรมลดลงประมาณ 10% โดยเชื่อว่าหลังการเมืองคลี่คลายการทำธุรกรรมน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนกรณีที่ศาลวินิจฉัยว่า พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ขัดรัฐธรรมนูญนั้น อาจจะส่งผลต่อราคาที่ดิน โดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่อยู่ในแนวรถไฟความเร็วสูง ที่มีการปรับราคาที่ดินขึ้นสูงไปก่อนหน้านี้ในหลายจังหวัดโดยเฉพาะหัวเมืองหลัก ก็คาดว่าหลังจากนี้การลงทุนต่างๆ จะชะลอออกไปก่อน ทำให้ราคาที่ดินอาจปรับตัวลดลงประมาณ 5-10%

นายอิสระ บุญยัง ที่ปรึกษา สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ในช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ มียูนิตเปิดใหม่ประมาณ 13,200 ยูนิต แบ่งเป็น แนวราบประมาณ 4,400 ยูนิต คอนโดมิเนียมประมาณ 8,800 ยูนิต ซึ่งถือว่าปรับลดลง เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา คาดว่าทั้งปีจะมีที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ไม่เกิน 1 แสนยูนิต

นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมบ้านจัดสรร กล่าวว่า การไม่เกิดขึ้นของโครงการ 2 ล้านล้าน ไม่กระทบต่อการลงทุนของผู้ประกอบการมากนัก เพราะไม่ได้นำมาบรรจุไว้ในแผนการลงทุนอยู่แล้ว แต่ประเมินว่ามีผลทำให้การเก็งกำไรราคาที่ดินลดลง มาอยู่ที่ระดับเดิม หรือขึ้นเฉลี่ย 10% ทั่วประเทศ จากเดิมที่เคยปรับขึ้นมา 50-100% ในบางทำเลที่อยู่ในแนวรถไฟความเร็วสูงผ่าน โดยเฉพาะจังหวัดที่มีสถานี เช่น นครราชสีมา พิษณุโลก เชียงใหม่ รวมถึงจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินมากสุด ทั้งที่ขอนแก่น อุบลราชธานี และอุดรธานี ส่วนในกรุงเทพฯอาจได้รับผลกระทบกับการลงทุนรถไฟฟ้า คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง บางส่วนรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงที่ 3 ที่ต้องเบิกจ่ายในเดือนนี้ และรถไฟฟ้าสายสีเขียว แบริ่ง ที่จะต้องจ่ายเงินภายในปีนี้ ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ ทำให้เกิดการหยุดชะงัก และอาจเปิดบริการล่าช้าออกไป

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ส่วนเรื่อง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านนั้น เชื่อว่ารัฐบาลใหม่จะเข้ามาจะสานต่อเพราะเป็นโครงการที่สำคัญ โดยอาจใช้งบประมาณประจำปีในการดำเนินการ แต่อาจจะทำให้โครงการล่าช้าออกไป 2-3 ปี ส่งผลให้ตลาดอสังหาฯในต่างจังหวัดชะลอความร้อนแรงลง แต่เชื่อว่าการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะมาเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดต่างจังหวัดแทน

นายวิสิฐษ์ โมไนยพงศ์ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและการเมืองที่ยืดเยื้อ โดยกลุ่มที่กระทบมากสุดคือกลุ่มบ้านระดับราคา 3-5 ล้านบาท เพราะต้องการที่จะเก็บเงินไว้ก่อน

ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 14 มีนาคม 2557