‘เบ็นคิว’ ออกจอมอนิเตอร์แอลอีดี ชูเทคโนโลยีลดแสงสีฟ้าถนอมสาย

[brid.siriwan]

‘เบ็นคิว’ ออกจอมอนิเตอร์แอลอีดี ชูเทคโนโลยีลดแสงสีฟ้าถนอมสายตา

เบ็นคิว ออกจอมอนิเตอร์ใหม่ ชูจุดเด่นมีเทคโนโลยีช่วยถนอมสายตา จับกลุ่มคนที่ต้องนั่งทำงานหน้าจอนาน ๆ และกลุ่มคนเล่นเกม ตั้งเป้าหมายทำยอดขายได้ 1 แสนเครื่องในปีนี้

เบ็นคิว ออกจอมอนิเตอร์ใหม่ ชูจุดเด่นมีเทคโนโลยีช่วยถนอมสายตา จับกลุ่มคนที่ต้องนั่งทำงานหน้าจอนาน ๆ และกลุ่มคนเล่นเกม ตั้งเป้าหมายทำยอดขายได้ 1 แสนเครื่องในปีนี้

นายพันธกร พรศิริธิเวช ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัทเบ็นคิว(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวจอมอนิเตอร์ใหม่ เบ็นคิว อาย แคร์ มอนิเตอร์ ซึ่งเป็นจอแอลอีดี ที่มีเทคโนโลยีโลว์ บูล ไลท์ และฟิงค์เกอร์ ฟรี มีคุณสมบัติลดแสงสีฟ้าช่วยถนอมสายตาให้กับผู้ใช้งาน เป็นการลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรค คอมพิวเตอร์ วิชั่น ซินโดรม สำหรับผู้ที่ต้องนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานและกลุ่มเกมเมอร์ ที่ชอบเล่นเกมคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน โดยจอมอนิเตอร์ที่เปิดตัวใหม่ แบ่งเป็น จอมอนิเตอร์เกม รุ่น RL 2240 HE และ XL 2420 Z และจอมอนิเตอร์สำหรับการใช้งานทั่วไป และเพื่อความบันเทิงรุ่น EW2440 L ซึ่งทั้งหมดหน้าจอมีความคมชัดสูง

“ปัจจุบันผู้บริโภคหันมาใส่ใจในเรื่องสุขภาพมากขึ้น ผลิตภัณฑ์ของเบ็นคิวที่จะออกมาใหม่ ๆ จะให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวสินค้าและเป็นผลดีต่อผู้บริโภค โดยนอกจากจอมอนิเตอร์ 3 รุ่นใหม่นี้ ในครึ่งปีหลังยังมีแผนออกจอมอนิเตอร์ใหม่อีก 5 รุ่นด้วย ทำให้ในปีนี้จะมีผลิตภัณฑ์จอมอนิเตอร์ทำตลาดทั้งหมด 15 รุ่น”

นายพันธกร กล่าวต่อว่า สำหรับกลยุทธ์ทำตลาด จะเน้นการสร้างประสบการณ์จริงให้กับผู้ใช้งาน การร่วมงานแสดงสินค้าต่าง ๆ และให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ผ่านโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ทั้ง เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ยูทูบ ฯลฯ นอกจากนี้จะร่วมมือกับร้านขายคอมพิวเตอร์แบบประกอบหรือดีไอวายเพื่อทำตลาดร่วมกันด้วย โดยตั้งเป้าหมายยอดขายจอมอนิเตอร์ไว้ที่ 1 แสนเครื่องในปีนี้ โดย 50% หรือประมาณ 5 หมื่นเครื่องจะเป็นจอเบ็นคิว อายแคร์ มอนิเตอร์ สำหรับตลาดรวมจอมอนิเตอร์ในปีนี้ที่

คาดว่าจะมีจำนวน 1.6 ล้านเครื่อง เติบโต 10 % จากปีที่แล้วที่มีจำนวน 1.5 ล้านเครื่อง ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 6%ในปีหน้าตั้งเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้ได้ 10 % ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถทำได้เนื่องจากเชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัว หลังจากการชุมนุมประท้วงทางการเมืองไม่มีแล้ว และมีการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ.

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 13 มิถุนายน 2557