“โมโตโรล่า” จัดโซลูชันค้าปลีก ช่วยเสริมศักยภาพตลาดไทย

[brid.siriwan]

“โมโตโรล่า” จัดโซลูชันค้าปลีก ช่วยเสริมศักยภาพตลาดไทย

โมโตโรล่า โซลูชันส์ ร่วมสมาคมค้าปลีก ดึงเทคโนโลยีค้าปลีกแบบไร้สายผสานบริการหน้าร้าน จัดแสดงครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หวังอุตสาหกรรมค้าปลีกนำไปใช้ หลังได้รับความนิยมแล้วจากกว่า 3,000 ร้านค้าทั่วโลกใน 9 เดือน เบื้องต้นเล็งจับกลุ่มห้างสรรพสินค้าระดับบนก่อนกระจายสู่ร้านค้าปลีกทั่วไป

“โมโตโรล่า” จัดโซลูชันค้าปลีก ช่วยเสริมศักยภาพตลาดไทย
ดร.ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสมาคมผู้ค้าปลีกไทย
นีล โจเซฟ รองประธานฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและตะวันออกกลาง กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรซ์ บริษัท โมโตโรล่า โซลูชันส์ อิงค์ กล่าวว่า การนำเทคโนโลยีด้านค้าปลีกเข้ามาจัดแสดงเป็นครั้งแรกในไทย และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะเป็นการนำโซลูชันเกี่ยวกับระบบเชื่อมต่อไร้สาย มาผสานกับเทคโนโลยีที่ใช้ในการจัดการคลังสินค้า และซอฟต์แวร์บริหารจัดการของโมโตโรล่า ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการค้าปลีกสามารถนำไปใช้งานได้แบบครบวงจร

“โมโตโรล่า” จัดโซลูชันค้าปลีก ช่วยเสริมศักยภาพตลาดไทย
นีล โจเซฟ รองประธานฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและตะวันออกกลาง กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรซ์ บริษัท โมโตโรล่า โซลูชันส์ อิงค์
'โมโตโรล่า นำเสนอโซลูชันธุรกิจค้าปลีกภายใต้แนวคิด Connected Shopper ที่นำการเลือกซื้อสินค้าทั้งจากออนไลน์ ผ่านอุปกรณ์พกพา หรือหน้าร้านเข้ามาผสานรวมกัน เพื่อให้เกิดการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และที่สำคัญคือช่วยเพิ่มศักยภาพในการขายแก่ร้านค้าปลีก'

เบื้องต้นโมโตโรล่า โซลูชันส์ มองว่า กลุ่มลูกค้าที่จะนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้งานคือผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุกรายในประเทศไทย เพียงแต่ว่าช่วงแรกอาจจะเป็นการลงทุนจากผู้ประกอบการชั้นนำก่อน ที่จะนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้กับกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อสูง เพราะจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มยอดขายได้ด้วย

“โมโตโรล่า” จัดโซลูชันค้าปลีก ช่วยเสริมศักยภาพตลาดไทย
นายศิวัจน์ โรจนเต็มศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายขาย ประจำประเทศไทยและอินโอนีเซีย บริษัท โมโตโรล่า โซลูชันส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ดร.ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ให้ข้อมูลเสริมว่า ทิศทางของผู้ประกอบการค้าปลีกในประเทศไทยตอนนี้ คือต้องการนำระบบออนไลน์ และระบบหน้าร้าน มาผสมผสานกัน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้

'หน้าร้านค้าจะไม่ได้หายไป เพียงแต่ระบบออนไลน์จะเข้ามาช่วยเพิ่มความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้า แต่หน้าร้านยังให้ในแง่ของอารมณ์ในการเลือกซื้อสินค้า ซึ่งสุดท้ายทั้ง 2 ช่องทางก็จะผสานกันกลายเป็น “Omni Channelshopper” ที่เชื่อมโยงรูปแบบการซื้อขายที่หลากหลายเข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ'

“โมโตโรล่า” จัดโซลูชันค้าปลีก ช่วยเสริมศักยภาพตลาดไทย
ขณะที่ในแง่ของการตลาด พฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่จะเริ่มอยากมีความเป็นตัวตน ส่งผลให้ท้ายที่สุดจะกลายเป็นการตลาดแบบ วันทูวันมาร์เก็ตติง เพียงแต่ปัจจุบันเทคโนโลยียังไม่รองรับ แต่เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้จะสามารถตอบโจทย์ได้

โดยในกลุ่มของผู้ประกอบการค้าปลีก จะแบ่งลูกค้าออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆคือ คอนซูเมอร์ คือลูกค้าทุกรายที่เดินผ่านหน้าร้าน ถัดมาคือคัสตอมเมอร์ หรือลูกค้าที่เดินเข้ามาในร้าน และสุดท้ายคือ ชอปเปอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่สำคัญที่สุด คือลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าภายในร้าน

“โมโตโรล่า” จัดโซลูชันค้าปลีก ช่วยเสริมศักยภาพตลาดไทย
'ธุรกิจค้าปลีกต้องให้ความสำคัญกับตัวตนของลูกค้ามากขึ้น ซึ่งตรงนี้ทางสมาคมผู้ค้าปลีกมองว่า โซลูชัน ค้าปลีกของโมโตโรล่า มีแนวคิดที่น่าสนใจ เพราะถือเป็นรูปแบบการให้บริการค้าปลีกสมัยใหม่ที่น่าจะเข้ามามีบทบาทใน ประเทศไทยต่อไป'

นายศิวัจน์ โรจนเต็มศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายขาย ประจำประเทศไทยและอินโอนีเซีย บริษัท โมโตโรล่า โซลูชันส์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้ข้อมูลเสริมถึง โซลูชัน ค้าปลีกของโมโตโรล่าว่า จะช่วยส่งเสริมให้ร้านค้าปลีก สามารถเชื่อมโยงกับผู้ซื้อได้มากขึ้น ผ่านระบบการเชื่อมต่อไวไฟภายในร้าน เพื่อแจ้งข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ และยังสามารถทำกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือจะใช้ร่วมกับระบบระบุพิกัดเพื่อให้พนักงานสามารถรับรู้ได้ว่ามีลูกค้า ประจำเดินเข้ามาในร้าน

อีกส่วน หนึ่งคือการเสริมศักยภาพของพนักงานในร้าน เพื่อช่วยให้สามารถนำเทคโนโลยีมาช่วยในการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ เช็กรายการสินค้า และปิดการขายได้ ณ จุดที่มีการตัดสินใจด้วยอุปกรณ์ชำระเงินแบบพกพาทันที หรือจะใช้ในการติดต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญในต่างสถานที่เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ลูกค้า

“โมโตโรล่า” จัดโซลูชันค้าปลีก ช่วยเสริมศักยภาพตลาดไทย
นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถของแผนกไอที ด้วยการทำงานร่วมกับโมโตโรล่า ในการวางแผน บริหารจัดการข้อมูล รวมไปถึงการสนับสนุน การรักษาความปลอดภัย และการกำกับดูแลที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมในการค้าปลีกผ่านหลาก หลายช่องทาง (omni-channel)

ปัจจุบันมีร้านค้าปลีกกว่า 3,000 ร้านค้าทั่วโลก นำโซลูชันดังกล่าวของโมโตโรล่าไปใช้งาน แต่ถ้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะมีอยู่ราว 5 ร้านค้าเตรียมพร้อมเปิดให้บริการ และอีก 11 ร้านค้าที่ให้ความสนใจ ซึ่งท้ายที่สุดถ้าร้านค้าในประเทศไทยมีการนำโซลูชันนี้มาใช้ ก็จะช่วยเพิ่มความทันสมัยทางด้านธุรกิจค้าปลีกของประเทศให้ดูทันสมัยมากขึ้น

ทั้งนี้ ในส่วนของธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทยในปีที่ผ่านมามีมูลค่ารวมประมาณ 2.5 ล้านล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้งบประมาณในการลงทุนด้านไอทีเฉลี่ยราว 0.1% หรือคิดเป็น 2.5 หมื่นล้านบาทเท่านั้น จากผู้ประกอบการค้าปลีกทั่วประเทศ ดังนั้นจึงเชื่อว่ากลุ่มธุรกิจค้าปลีกที่สนใจจะเข้ามาใช้งานโซลูชันดังกล่าว ในช่วงแรกน่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ใจกลางเมืองมากกว่า ร้านค้าปลีกทั่วไป

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 24 มิถุนายน 2557