สวธ.สร้างภูมิคุ้มกันเด็กไทยห่วงอารมณ์รุนแรงขึ้น

[brid.siriwan]

สวธ.สร้างภูมิคุ้มกันเด็กไทยห่วงอารมณ์รุนแรงขึ้น

อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรมเผย เยาวชนไทย อารมณ์รุนแรงปราศจากเหตุผลเพิ่มขึ้น เร่งจัดค่ายสร้างสุข สมานฉันท์ ใช้หลักพอเพียงของในหลวง ปลูกฝังจิตสำนึกเด็กรุ่นใหม่ ให้มีสติ มีสมาธิในการคิด พร้อมเปิดพื้นที่ให้แสดงออกอย่างเหมาะสม

วันนี้ (8 ก.ค.) นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กล่าวว่า ตามที่มีการสำรวจสภาวการณ์ของเยาวชนไทย พบว่า ขาดค่านิยมในการดูแลและสืบสานวัฒนธรรมที่ดีของชาติ ขณะเดียวกันสังคมไทยอยู่ในช่วงวิกฤติที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนมีการใช้อารมณ์และความรุนแรง ความโหดร้ายมากขึ้น โดยปราศจากเหตุผล ในการแก้ปัญหา ดังนั้น ตนจึงมอบหมายให้ สวธ.จัดกิจกรรมโครงการค่ายเยาวชน สร้างความสุข ความสมานฉันท์ เพื่อร่วมเดินหน้าประเทศไทยด้วยมิติวัฒนธรรม ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) โดยประสานความร่วมมือกับศิลปินแห่งชาติ และผู้ทรงคุณวุฒิทางวัฒนธรรมในสาขาต่างๆ ทั้งภาพยนตร์ ภาพถ่าย วรรณศิลป์ ทัศนศิลป์ และสื่อผสม มาให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชนทั่วประเทศ ทั้งในเชิงวิชาการ ภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ที่สำคัญยังได้มุ่งเน้นหลักคิดตามกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเรื่องเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา รวมทั้งหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้วยซึ่งจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม ให้เยาวชนได้มีสติ และสมาธิในการคิด วิเคราะห์ ในการดำเนินชีวิต

อธิบดี สวธ. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังมีการประชุมวิชาการทางวัฒนธรรมระดับชาติวิจัยวัฒนธรรม ครั้งที่ 4 พลังทางวัฒนธรรมในกระแสสังคมอาเซียน เพื่อวางรากฐานและดึงการมีส่วนร่วมของกลุ่มคนต่างๆ มาร่วมกันสร้างความหมายของวัฒนธรรมไทย ในรูปแบบเหมาะสม และเพื่อสร้างความพร้อมต่อการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558 ในส่วนนี้จะเน้นการเปิดเวทีประชาคม ให้ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้บริหารหน่วยงาน นักวิชาการภาครัฐและเอกชน นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป เข้าร่วมแลกเปลี่ยนและนำเสนอผลงานวิจัยทางวัฒนธรรมมากกว่า 20 เรื่องที่มีส่วนช่วยนำไปใช้ขับเคลื่อนสังคมและวัฒนธรรมให้สู่ความปรองดอง สมานฉันท์ และนำไปสู่การอนุรักษ์อัตลักษณ์ความเป็นไทย ให้เกิดขึ้นทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ

“ ผมคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องช่วยกันสร้างภูมิคุ้มกันให้แด็กไทย ด้วยการเปิดพื้นที่สำหรับแด็กได้แสดงออกตามความสามารถที่มี สร้างกิจกรรม ให้มีความเหมาะสมกับเด็กๆในแต่ละท้องถิ่น พร้อมรับฟังความคิดเห็นให้เด็กได้เปิดใจ กล้าพูด กล้าแสดงออกให้มากขึ้น โดยจะขอความร่วมมือกับสภาวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด และองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น มาร่วมกันหาแนวทางดูแลเด็กไทย ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ เพราะหากเรายังมองข้ามและวางเฉย สังคมก็จะยิ่งบอบช้ำมากขึ้น” นายชาย กล่าว.

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 8 กรกฎาคม 2557