ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส.คาดปี 57 จีดีพีขยายตัว 1.6-2.4%
ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส.คาดว่าเศรษฐกิจไทยทั้งปี 57 ขยายตัวได้ 1.6-2.4% ต่อปี เหตุเศรษฐกิจไทยครึ่งหลังปีหลังปรับตัวได้ดีกว่าครึ่งปีแรก ส่งผลให้การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนสามารถขยายตัวได้ดีขึ้น
นางอภิรดี ยิ้มละมัย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส.คาดว่าเศรษฐกิจไทยทั้งปี 57 จะสามารถขยายตัวได้ 1.6-2.4% ต่อปี เพราะเศรษฐกิจไทยครึ่งหลังปีหลังปรับตัวได้ดีกว่าครึ่งปีแรก ขยายตัวอยู่ที่ 2.5-3.5% ต่อปี เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยดีขึ้น ส่งผลให้การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนสามารถขยายตัวได้
นอกจากนี้ การขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ส่วนหนึ่งมาจากความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ทางการเมือง การเร่งรัดจ่ายเงินโครงการจำนำข้าว ปีการผลิต 56/57 ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ใช้จ่ายในการลงทุนทางการเกษตรและการบริโภคภาคชนบท รวมทั้ง ผลจากการใช้จ่ายภาครัฐที่เร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณปี 57 และการอนุมัติแผนงบประมาณรายจ่ายปี 58 ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ สนับสนุนให้วงเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจการเกษตรไทยครึ่งหลังปี 57 มีแนวโน้มจะขยายตัว 2.6-3.2% เนื่องจากการขยายตัวของผลผลิตพืชสำคัญ ได้แก่ ข้าวนาปี อ้อย ยางพารา ปาล์มน้ำมันและผลไม้ ในครึ่งหลังของปี รวมถึงแนวโน้มผลผลิตไก่เนื้อ สุกร ไข่ไก่ ที่เพิ่มมากขึ้น และกุ้งขาวแวนนาไม มีแนวโน้มที่ดีในการแก้ปัญหาโรคกุ้งตายด่วน (อีเอ็มเอส) ทำให้ผลผลิตจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน
“ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส. คาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ความต้องการสินค้าเกษตรในครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าเกษตรและส่งผลต่อเนื่องให้รายได้ของภาคเกษตรเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ราคาน้ำมัน ภัยแล้ง ภาวะน้ำท่วม และโรคระบาดที่อาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรเสียหายได้”
ขณะที่ สินค้าเกษตรที่จะมีราคาสูงขึ้น ในครึ่งหลังปี 57ได้แก่ มันสำปะหลัง มีราคาอยู่ในช่วงกิโลกรัมละ 2.15-2.20 บาท, อ้อยโรงงานและน้ำตาลทราย 12.20-13 บาท, ไก่เนื้อ มีราคาอยู่ในช่วงกิโลกรัมละ 42.80-44 บาท และสุกร มีราคาอยู่ในช่วงกิโลกรัมละ 69-72 บาท สำหรับสินค้าเกษตรที่คาดว่าราคาจะลดลงเล็กน้อย ได้แก่ ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และกุ้งขาวแวนนาไม
ทั้งนี้ คาดว่าราคาข้าวเปลือกเจ้า 15 % ที่ความชื้น 15 % จะอยู่ที่ 7,700 - 7,800 บาทต่อตัน แต่หากความชื้นสูงกว่า 20 % ราคาอาจลดลงเหลืออยู่ที่ 6,000 ล้านบาท ส่วนข้าวหอมมะลิราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ตันละ 14,000-15,000 บาท ซึ่งต้องรอดูว่าหลังจากนี้ภาครัฐจะมีมาตรการอะไรออกมาช่วยเหลือเกษตรกรอีกหรือไม่
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 23 ก.ค 2557
- Board index การใช้งานบอร์ด และข่าวสาร ERP ไทย / PlanetOne ERP / งานบัญชี / Linux แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ
ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส.คาดปี 57 จีดีพีขยายตัว 1.6-2.4%
-
- Posts: 3942
- Joined: 05 Apr 2013, 08:47
Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”
Jump to
- การใช้งานบอร์ด และข่าวสาร ERP ไทย / PlanetOne ERP / งานบัญชี / Linux
- ↳ กฏการใช้บอร์ด
- ↳ แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ
- คำถาม คำตอบเกี่ยวกับระบบ ไทย ERP: AdvanceBusinessSystem - PlanetOne และ ERP ระบบบัญชี
- ↳ ข้อมูลหลัก (Master Data)
- ↳ ระบบสินค้าคงคลัง (Inventory)
- ↳ ระบบบัญชีเจ้าหนี้ (Account Payable)
- ↳ ระบบบัญชีลูกหนี้ (Account Receivable)
- ↳ ระบบขาย (Sales System)
- ↳ ระบบจัดซื้อ (Purchasing System)
- ↳ ระบบบัญชีทั่วไป (General Ledger and Financial Statement)
- ↳ ระบบผลิตและวางแผนการผลิต (Manufacturing / Shop Floor Control / Production Planning)
- ↳ ระบบบริหารงานบุคคล (Human Resource Management / HRM)
- ↳ ระบบบริหารสินทรัพย์ (Assets Management)
- ↳ ระบบลูกค้าสัมพันธ์ และบริการ (CRM / Service Center / Call Center)
- ↳ ระบบต้นทุนสินค้า (Product / Job Costing)
- ↳ หัวข้อทั่วไป
- การติดตั้ง ใช้งาน Linux, OSX และ OpenSource Softwares
- ↳ การใช้งาน PostgreSQL
- ↳ การใช้งาน Java และ JVM
- ↳ การใช้งาน Dart
- ↳ การใช้งาน Linux
- ↳ การใช้งาน Mac และ OSX
- AdvanceBusinessSystem Developer Forum
- ↳ Java Programming Techinics
- ↳ ABS Developer Exchange
- ↳ การ admin ระบบ