เร่งหามาตรการดันไทยเป็นฮับการค้าการลงทุน
คสช.สั่งสภาพัฒน์-กระทรวงการคลัง หามาตรการ หวังดันกทม.และประเทศไทยขึ้นเป็นศูนย์กลางแห่งการค้าการลงทุน
น.ส.ปถมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคสช. เพื่อขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปเร่งหาแนวทางเพื่อส่งเสริม และผลักดันให้กรุงเทพมหานค รและประเทศไทย เป็นศูนย์กลาง (ฮับ) ของการค้า และการลงทุน โดยให้หามาตรการที่เหมาะสมสร้าง แรงจูงใจให้เอกชนต่างประเทศเข้ามาใช้ศักยภาพของกรุงเทพฯ ในการติดต่อธุรกิจ และตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทชั้นนำ
ทั้งนี้หน.คสช.ระบุว่า ก่อนหน้านี้ ได้มีโอกาสได้พบกับบรรดานักธุรกิจชั้นนำจากต่างประเทศจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เห็นว่ากรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการทำธุรกิจอย่างมาก แต่อาจมีปัญหาในหลายด้าน ที่เป็นอุปสรรคต่อการค้า และการลงทุน ดังนั้นหากสามารถหามาตรการ และจูงใจให้นักธุรกิจเข้ามาดำเนินกิจการได้ จะเป็นผลดีต่อไทยอย่างมาก
ด้านนายยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษ กคสช. กล่าวเพิ่มเติมว่า หน.คสช. ยังสั่งการในที่ประชุม ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลคุ้มครองประชาชน ทั้งสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ สมอ. ให้ไปกำกับ ดูแล แจ้งเตือน ประชาชนอย่างใกล้ชิด กรณีการนำเข้าสินค้าต่าง ๆ ให้มีมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อดูแลความปลอดภัย ให้ประชาชน ขณะเดียวกันยังกำชับให้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เร่งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เข้ามากำกับดูแลอย่างเข้มงวด หลังจากที่พบว่าสถานการณ์เรื่องธนบัตรปลอมระบาดจำนวนมาก
นอกจากนี้ ที่ประชุมคสช. ยังเห็นชอบแผนการปรับลดการก่อหนี้สาธารณะปี 57 ครั้งที่ 2 ลงอีก 6,314.74 ล้านบาท ล้านบาท โดยเหลือเพียง 1.316 ล้านล้านบาท หลังจากที่รัฐวิสาหกิจ 3 แห่ง สามารถปรับลดการก่อหนี้ลงได้ เช่นกรณีที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ปรับแผนการจัดหารถเมล์เอ็นจีวี 3,183 คัน วงเงิน 4,133 ล้านบาท ออกไป เพราะไม่สามารถดำเนินการได้ทันปี 57 รวมทั้งกรณีที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ใช้รายได้แทนการกู้เงิน ไปลงทุน 2,000ล้านบาท เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การปรับลดการก่อหนี้ของรัฐวิสาหกิจครั้งนี้ ยังทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลผลิตมวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ยังอยู่ในกรอบความยั่งยืนทางการคลังโดยมีสัดส่วนที่ 47.9%
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคสช.ยังเห็นชอบตามข้อเสนอของสำนักงบประมาณ ที่ให้ปรับลดงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 58 ในส่วนของงบกลางลงอีก 7,700 ล้านบาท เพื่อเกลี่ยให้กับหน่วยงานอื่ นเพื่อนำไปใช้บูรณาการตามแผนทั้ง 14 ด้าน และให้สอดคล้องต่อเนื่อง ตามแผนทั้งงบประมาณปี 57-58 โดยเฉพาะการนำไปใช้ในการพัฒนาระบบคมนาคม เพื่อเชื่อมโยงประตูเมืองหลัก กับกรุงเทพฯ และปริมณฑล อีกทั้งเห็นชอบให้ใช้งบกลางประจำปี 57 ในรายการสำรองฉุกเฉิน 166 ล้านบาท เพื่อนำไปคืนให้เอกชน 94 ราย
ที่มา เดลินิวส์
วัน 29 กรกฎาคม 2557
- Board index การใช้งานบอร์ด และข่าวสาร ERP ไทย / PlanetOne ERP / งานบัญชี / Linux แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ
เร่งหามาตรการดันไทยเป็นฮับการค้าการลงทุน
-
- Posts: 3942
- Joined: 05 Apr 2013, 08:47
Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”
Jump to
- การใช้งานบอร์ด และข่าวสาร ERP ไทย / PlanetOne ERP / งานบัญชี / Linux
- ↳ กฏการใช้บอร์ด
- ↳ แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ
- คำถาม คำตอบเกี่ยวกับระบบ ไทย ERP: AdvanceBusinessSystem - PlanetOne และ ERP ระบบบัญชี
- ↳ ข้อมูลหลัก (Master Data)
- ↳ ระบบสินค้าคงคลัง (Inventory)
- ↳ ระบบบัญชีเจ้าหนี้ (Account Payable)
- ↳ ระบบบัญชีลูกหนี้ (Account Receivable)
- ↳ ระบบขาย (Sales System)
- ↳ ระบบจัดซื้อ (Purchasing System)
- ↳ ระบบบัญชีทั่วไป (General Ledger and Financial Statement)
- ↳ ระบบผลิตและวางแผนการผลิต (Manufacturing / Shop Floor Control / Production Planning)
- ↳ ระบบบริหารงานบุคคล (Human Resource Management / HRM)
- ↳ ระบบบริหารสินทรัพย์ (Assets Management)
- ↳ ระบบลูกค้าสัมพันธ์ และบริการ (CRM / Service Center / Call Center)
- ↳ ระบบต้นทุนสินค้า (Product / Job Costing)
- ↳ หัวข้อทั่วไป
- การติดตั้ง ใช้งาน Linux, OSX และ OpenSource Softwares
- ↳ การใช้งาน PostgreSQL
- ↳ การใช้งาน Java และ JVM
- ↳ การใช้งาน Dart
- ↳ การใช้งาน Linux
- ↳ การใช้งาน Mac และ OSX
- AdvanceBusinessSystem Developer Forum
- ↳ Java Programming Techinics
- ↳ ABS Developer Exchange
- ↳ การ admin ระบบ