ONE's View : แนะลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาด้วย Dollar Cost Av

Post Reply
brid.siriwan
Posts: 3942
Joined: 05 Apr 2013, 08:47

ONE's View : แนะลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาด้วย Dollar Cost Av

Post by brid.siriwan »

ONE's View : แนะลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาด้วย Dollar Cost Average
คอลัมน์ONE's View
ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ
Dr.win@one-asset.com

สวัสดีครับ เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาไตรมาสที่ 2/2557 ได้ประกาศออกมาค่อนข้างดี โดยขยายตัวประมาณ 4.0% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาที่หดตัวกว่า -2.9% ประกอบกับตัวเลขดัชนีการผลิตภาคบริการ (ISM Non-Manufacturing) และดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม (ISM Manufacturing) เดือน ก.ค. 57 ที่ออกมาเพิ่มสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าและสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ซึ่งสะท้อนเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาว่าน่าจะผ่านพ้นจุดต่ำสุด และเข้าสู่ภาวะการฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น

ขณะที่ในด้านตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) ดัชนี Dow Jones และ S&P500 ปรับตัวขึ้นกว่า 2.1% และ 7.2% ตามลำดับ นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 13.0% ในช่วงเวลาเดียวกัน

สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ด้วยปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวได้ค่อนข้างดีสะท้อนจากตัวเลขดัชนีเศรษฐกิจ ทั้งในส่วนของภาคอุตสาหกรรมและตลาดแรงงาน รวมถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ เช่น ตัวเลขยอดสร้างบ้านใหม่ (Housing Starts) และการขอใบอนุญาตสร้างบ้าน (Housing Permits) ที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือน ก.ค. 57 / ผลประกอบการของบริษัทสหรัฐอเมริกาในไตรมาสที่ 2/2557 ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ รวมทั้งประชากรเริ่มมีการจับจ่ายใช้สอยและลงทุนกันเพิ่มมากขึ้น และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกาที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปในอีกช่วงเวลาหนึ่ง จึงคาดว่าแนวโน้มการปรับตัวของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกายังมีโอกาสไปต่อในระยะถัดไป

นอกจากนี้ อานิสงส์จากการผ่อนคลายนโยบายการเงินเชิงปริมาณของธนาคารกลางประเทศหลักต่างๆ โดยเฉพาะธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ทำให้ยังมีสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ จะยังหนุนให้นักลงทุนมีความต้องการซื้อสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ระยะสั้นนักลงทุนต้องติดตามแนวโน้มท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังจากที่มาตรการ QE สิ้นสุดในเดือน ต.ค. 57 ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มพิจารณาการลด Balance Sheet และอาจทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาเกิดความผันผวนได้

รวมทั้งติดตามผลการประชุมสุดยอดผู้นำธนาคารกลางในประเทศต่างๆ ที่จะจัดขึ้นที่เมือง Jackson Hole ในวันที่ 21-22 ส.ค. 57 นี้ เนื่องจากน่าจะมีการส่งสัญญาณสำคัญของธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางยุโรปต่อมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะถัดไป ซึ่งโดยส่วนตัวผมมองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ น่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงกลางปี 2558 หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและตลาดแรงงานเติบโตได้อย่างแท้จริง เพราะหากไม่เป็นไปตามที่คาด การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายดังกล่าวอาจส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกากลับมาเปราะบางได้อีกครั้งและอาจนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจในระยะถัดไปได้

ทั้งนี้ ในระยะสั้น ดัชนี S&P500 น่าจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นแตะระดับที่ 2,000 จุดจากปัจจัยบวกดังกล่าว โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มปรับตัวได้ค่อนข้างดี ได้แก่ หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีทั้ง Semiconductor และ Hardware เนื่องจากปัจจุบันบริษัทต่างๆ มีการเพิ่มในส่วนของการใช้จ่ายเพื่อลงทุนค่อนข้างมาก และราคาหุ้นก็ยังคงต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของตลาดที่ไม่นับรวมหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี (Average ex. Tech) / กลุ่มธนาคารพาณิชย์ จากอานิสงส์ของเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวซึ่งส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์สามารถปล่อยสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ทยอยมีรายได้สุทธิที่เพิ่มขึ้นตาม โดยล่าสุดรายได้สุทธิของธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับในช่วงก่อนวิกฤตการเงินปี 2552 ขณะที่มูลค่าหุ้นยังคงไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับช่วงเฉลี่ยที่ผ่านมา และกลุ่มเวชภัณฑ์และสุขภาพ (Healthcare) จากการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐในส่วนของ Obama Care และระดับราคาหุ้นยังไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 18 ปีที่ผ่านมา

สำหรับท่านที่สนใจการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา บลจ.วรรณมีกองทุนเปิด วรรณ ยูเอส ออพพอร์ทูนิตี้ ฟันด์ (1US-OPP) ซึ่งมีการเน้นกระจายการลงทุนในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวเป็นส่วนใหญ่ และกระจายการลงทุนในหน่วยลงทุนใน ETF เป็นทางเลือกสำหรับกระจายการลงทุน และหากนักลงทุนต้องการลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาในกรณีที่หากธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มพิจารณาปรับลด Balance Sheet แล้วนั้น อาจพิจารณาการเลือกลงทุนโดยใช้แบบ Dollar Average Cost หรือที่รู้จักกันในนาม “Auto Millionaire Program (AMP)”

โดยการซื้อหน่วยลงทุนผ่านการตัดเงินจากบัญชีที่นักลงทุนแจ้งความประสงค์ในแต่ละรอบระยะเวลานักลงทุนกำหนด (โดย บลจ.วรรณเปิดให้นักลงทุนสามารถตั้งคำสั่งซื้อหน่วยลงทุนได้ทุกวันที่ 1 และ 16 ของแต่ละเดือน) เพื่อลงทุนตามที่นักลงทุนกำหนดไว้ในจำนวนที่เท่ากันทุกเดือน ซึ่งการลงทุนในลักษณะนี้มีโอกาสที่จะช่วยทำให้ต้นทุนเฉลี่ยต่อหุ้นของนักลงทุนลดลง และสามารถช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องของการลงทุนผิดจังหวะได้ หากนักลงทุนสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.วรรณ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่การตลาดได้ที่หมายเลข 0-2659-8888 กด 1 ครับ

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 22 สิงหาคม 2557
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”