บลจ.CIMB ชอบภูมิภาคเอเชีย เมกะโปรเจกต์หนุนรับ ศก.โลกฟื้น

[brid.siriwan]

บลจ.CIMB ชอบภูมิภาคเอเชีย เมกะโปรเจกต์หนุนรับ ศก.โลกฟื้น
บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ประเมินภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังมีศักยภาพในการเติบโตสูง เตรียมเดินหน้าเมกะโปรเจกต์รับเศรษฐกิจโลกฟื้น พร้อมหนุนการบริโภคภายในประเทศ ล่าสุดส่งกองทุน “ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เอเชีย แปซิฟิก ไดนามิก อินคัม อิควิตี้ ทริกเกอร์2x4” เล็งลงทุนในหุ้นบริษัทชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นญี่ปุ่น) คาดผลตอบแทนเป้าหมาย 8% ต่อปี เปิดจองซื้อระหว่าง 22-26 กันยายนนี้

นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่เป็นฐานการผลิตของโลกมีศักยภาพเติบโตไปพร้อมกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมมภูมิภาคนี้มีการเปลี่ยนแปลงทั้งเชิงโครงสร้างการเมืองและโครงสร้างเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย รวมทั้งประเทศไทย

ในขณะที่หลายประเทศประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น ธนาคารกลางของจีนเพิ่มเงินจำนวน 5 แสนล้านหยวนผ่านระบบธนาคารพาณิชย์ เพื่อปล่อยสินเชื่อสู่ระบบเศรษฐกิจสร้างสภาพคล่อง ประเทศเกาหลีใต้ใช้แผนผลักดันเศรษฐกิจโต 4% ต่อเนื่อง 3 ปี ประเทศอินเดียและไทยออกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านเมกะโปรเจกต์ รวมถึงประเทศต่างๆ ที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ต่างเน้นเพิ่มการลงทุนภาคเอกชน จากการที่เป็นฐานการผลิตโลกและเป็นกลุ่มผู้ส่งออก ซึ่งจะได้รับอานิสงส์จากการที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้บริษัทต่างๆ มีกำไรที่เติบโตอย่างชัดเจน และมีแนวโน้มที่นักวิเคราะห์จะปรับเพิ่มกำไร (Earning Upgrade) ในอนาคตอันใกล้ โดยที่มูลค่าของตลาดหุ้น Asia Pacific ex Japan ยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ได้แนะนำการลงทุนในครึ่งหลังปี 2557 เลือกลงทุนในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก (ยกเว้นญี่ปุ่น) ให้แก่นักลงทุน และมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากกองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ลูกค้า และเรายังคงเชื่อมั่นว่าการลงทุนในหุ้นในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก (ยกเว้นญี่ปุ่น) ยังคงเป็นภูมิภาคหนึ่งที่มีศักยภาพการเติบโตสูง ดังนั้นเราจึงเปิดเสนอขายกองทุนใหม่ ‘กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เอเชีย แปซิฟิก ไดนามิก อินคัม อิควิตี้ ทริกเกอร์ 2x4’ โดยตั้งเป้าหมายของผลตอบแทนที่ 8% ต่อปี เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ชอบการลงทุนในกองทุนประเภททริกเกอร์ฟันด์

ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนผ่านกองทุนหลัก (Master Fund) CIMB-Principal Asia Pacific Dynamic Income Fund บริหารโดย CIMB-Principal Asset Management Berhad, Malaysia เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นญี่ปุ่น) จุดเด่นอยู่ที่แนวทางการบริหารกองทุนเชิงรุกและปรับเปลี่ยนการลงทุนตามภาวะตลาด (Dynamic Asset and Dynamic Management) โดยสามารถลงทุนได้ทั้งหุ้น REITs ตราสารหนี้ และเงินสด และจุดเด่นเฉพาะของกองนี้คือ การตั้งเป้าหมายการบริหารในแต่ละปีให้ได้ผลตอบแทนอย่างน้อย 8% ซึ่งในช่วงที่ผ่านมากองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนสูงถึง 65.74% หรือเฉลี่ยปีละ 21.91% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ตั้งแต่ 16 พฤษภาคม 2554-31 กรกฎาคม 2557) โดยเป็นกองทุนที่ได้รับการจัดอันดับถึง 5 ดาวจาก Morningstar จากผลการดำเนินงานดีเด่นในช่วง 3 ปี

โดยตัวอย่างบริษัทชั้นนำในภูมิภาคที่กองทุนหลักลงทุนอยู่นั้น เช่น Digi.com Bhd ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านการจัดตั้งบริการโทรคมนาคมไร้สายผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของประเทศมาเลเซีย Geely Automobile Hldg Ltd ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนรายใหญ่ที่สุดของประเทศจีน Sydney Airport ท่าอากาศยานซิดนีย์รองรับการเป็นท่าอากาศยานหลักของออสเตรเลีย เป็นต้น

ทั้งนี้ กองทุนจะตั้งเป้าหมายสำหรับการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้แก่ผู้ลงทุน คือ เมื่อกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเทียบเท่า 10.20, 10.40, 10.60 บาทต่อหน่วย จะรับซื้อคืนในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย และครั้งสุดท้ายเมื่อกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.80 บาทต่อหน่วย จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทั้งหมดและให้ถือว่าการลงทุนสิ้นสุดลง

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 23 กันยายน 2557