ปีหน้า Tesla หวังขายรถที่ผู้ขับสามารถ “นั่งเฉยๆ” ได้ 90% ของ

[brid.siriwan]

ปีหน้า Tesla หวังขายรถที่ผู้ขับสามารถ “นั่งเฉยๆ” ได้ 90% ของระยะทาง

แฟ้มภาพ อีลอน มัสค์ (Elon Musk) หัวเรือใหญ่แห่ง Tesla ประกาศชัดเจนว่ารถ Tesla ที่วางจำหน่ายในปีหน้าจะทำให้ผู้ขับขี่สามารถ”นั่งเฉยๆ”ได้ 90% ของระยะทาง
อีลอน มัสค์ (Elon Musk) หัวเรือใหญ่แห่งบริษัทยานยนต์พลังไฟฟ้าอเมริกันดาวรุ่งอย่าง “เทสลา (Tesla)” ประกาศชัดเจนว่า รถแบรนด์เทสลาที่วางจำหน่ายในปีหน้าจะทำให้ผู้ขับขี่สามารถ “นั่งเฉยๆ” ได้ช่วงหนึ่ง เพราะรถจะมาพร้อมคุณสมบัติขับขี่ตัวเอง หรือ self-drive ชนิดเต็มรูปแบบซึ่งครอบคลุมช่วงเวลา และระยะทางในการขับขี่มากกว่า 90% โดยอีก 10% เป็นหน้าที่ของผู้ขับที่อาจต้องดูแลความเรียบร้อยในการเริ่มต้น หรือจบการเดินทาง

ความเคลื่อนไหวของบริษัทยานยนต์ดาวรุ่งอย่างเทสลานี้ถูกเผยแพร่ในคำให้สัมภาษณ์ระหว่างสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นมันนี่ (CNNMoney) และผู้กุมบังเหียนเทสลา โดยอีลอน มัสค์ เรียกคุณสมบัติการขับขี่ตัวเองของรถเทสลาว่า “ออโต้ไพล็อต (autopilot)” พร้อมยืนยันว่า คุณสมบัตินี้จะพร้อมให้บริการในรถที่วางจำหน่ายช่วงไม่กี่เดือนนับจากนี้

คำให้สัมภาษณ์นี้เรียกเสียงตื่นเต้นอย่างมากจากตลาด เนื่องจากที่ผ่านมา โลกเชื่อว่ารถยนต์ที่สามารถขับเคลื่อนตัวเองได้จะพร้อมจำหน่ายแก่ผู้บริโภคในช่วง 5-6 ปีนับจากนี้ (ประมาณปี 2020) ซึ่งการประกาศพร้อมวางจำหน่ายในช่วงปีหน้า ถือเป็นการรวบรัดในไม่กี่เดือนที่หักปากกานักวิเคราะห์ทั่วโลก

ในบทสัมภาษณ์ มัสค์ ระบุว่ารถที่เทสลามีแผนวางจำหน่ายในปี 2015 จะมีความสามารถ autopilot ซึ่งทำให้การเดินทาง 90% ของระยะทางเป็นการขับเคลื่อนของระบบรถเทสลาโดยอัตโนมัติ จุดนี้จะเหมาะต่อการใช้งานบนทางด่วน หรือ highway ที่ไม่ต้องการความชำนาญและละเอียดอ่อนในการควบคุมรถ

ปีหน้า Tesla หวังขายรถที่ผู้ขับสามารถ “นั่งเฉยๆ” ได้ 90% ของระยะทาง
ตัวอย่างรถแบรนด์ Tesla ที่วางจำหน่ายในสหรัฐฯ
“เราใช้เซ็นเซอร์มากมายทำงานร่วมกันกับกล้องดิจิตอล และระบบวิเคราะห์ภาพ ซึ่งประกอบด้วยเรดาร์ และระบบนำทางด้วยคลื่นอัตราโซนิคระยะไกล” เจ้าพ่อเทสลา ให้ความเห็นพร้อมเชื่อว่าบริษัทรถรายอื่นจะเดินตามพัฒนาการของเทสลาในครั้งนี้

ในขณะที่ค่ายรถ และบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนหลายรายออกมาประเมินว่า รถขับเคลื่อนด้วยตัวเองแบบเต็มรูปแบบจะพร้อมใช้งานในปี 2020 แต่ความเคลื่อนไหวในตลาดยานยนต์ขณะนี้สะท้อนว่าความสามารถในการ “ขับเคลื่อนตัวเองได้ช่วงหนึ่ง” ของรถยนต์จะพร้อมบุกตลาดได้ก่อน ตัวอย่างเช่น แบรนด์ใหญ่อย่าง “จีเอ็ม (GM)” ที่ประกาศว่าจะเร่งพัฒนาให้รถแบรนด์จีเอ็มมีคุณสมบัติขับเคลื่อนอัตโนมัติภายในปี 2017 เช่นเดียวกับแบรนด์ “ออดี้ (Audi)” ที่มีการประชาสัมพันธ์คุณสมบัติชื่อ “ไพล็อต ไดรฟ์วิง (piloted driving)” ในช่วงที่ผ่านมา

ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า ค่ายรถเริ่มเห็นด้วยว่าไม่จำเป็นต้องรอให้เทคโนโลยีรถขับเคลื่อนตัวเองถูกพัฒนาจนสำเร็จเต็มขั้น 100% เนื่องจากการเพิ่มคุณสมบัติให้รถสามารถขับเคลื่อนตัวเองในช่วงเวลาหนึ่งนั้นสามารถทำได้ง่ายกว่าการพัฒนาระบบที่สามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวาง หรือระบบที่รองรับความยืดหยุ่นของระบบจราจรบนท้องถนน แถมจุดนี้ยังตอบโจทย์นักขับที่ต้องการปล่อยมือจากพวงมาลัยในบางช่วง ซึ่งอาจจะนำไปสู่กระแสพฤติกรรมใหม่ของพลขับทั่วโลกที่เรียกว่า Hands-free highway driving หรือการขับรถบนทางด่วนโดยไม่ต้องใช้มือควบคุม

ปีหน้า Tesla หวังขายรถที่ผู้ขับสามารถ “นั่งเฉยๆ” ได้ 90% ของระยะทาง
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นมันนี่ (CNNMoney)โพสต์บางส่วนของคำให้สัมภาษณ์จากผู้บริหาร Tesla

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 5 ตุลาคม 2557