รู้จัก “FireChat” ผู้อยู่เบื้องหลังการประท้วงของฮ่องกง

[brid.siriwan]

รู้จัก “FireChat” ผู้อยู่เบื้องหลังการประท้วงของฮ่องกง
นาทีนี้ ผู้ประท้วงนับแสนคนในฮ่องกงคงไม่มีใครไม่รู้จักแอปที่ชื่อ FireChat อย่างแน่นอน หลังแกนนำการชุมนุมอย่างโจชัว วอง ได้แนะนำให้ผู้ร่วมชุมนุมดาวน์โหลดแอปดังกล่าวเพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสาร และแจ้งข่าวระหว่างกัน

อาจกล่าวได้ว่า FireChat กลายเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างไม่เป็นทางการของการประท้วงทางการเมืองบนเกาะฮ่องกงไปแล้วอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยความสามารถของแอปที่ทำให้มันสามารถสื่อสารได้ในสภาวะที่ไร้สัญญาณอินเทอร์เน็ต หรือสัญญาณอินเทอร์เน็ตถูกบล็อก หรืออยู่ในจุดอับสัญญาณ โดยแอปดังกล่าวพัฒนาโดย Open Garden ซึ่ง Micha Benoliel ซีอีโอของ Open Garden ได้เคยเผยถึงแนวคิดในการพัฒนา FireChat เมื่อครั้งเปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้ว่า อินเทอร์เน็ตนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการติดต่อสื่อสาร แต่ด้วยการทำงานผ่าน Multipeer Connectivity Framework บน iOS ซึ่งทำให้ผู้ใช้ FireChat สามารถคุย ส่งภาพถ่ายถึงกันได้ผ่านบลูทูธ ไม่ต้องพึ่งพาสัญญาณอินเทอร์เน็ต และยิ่งมีผู้ใช้งานในบริเวณเดียวกันมากขึ้นเท่าไหร่ สัญญาณก็จะแรงมากขึ้นเท่านั้น

สำนักข่าวบีบีซี รายงานด้วยว่า ขณะนี้ FireChat ได้กลายเป็นแอปที่อยู่เบื้องหลังการประท้วงในฮ่องกงไปแล้ว โดยมีผู้ลงทะเบียนใช้งาน FireChat กว่า 1 แสนคนภายในเวลา 24 ชั่วโมง และมีข้อความสนทนากว่า 8 แสนข้อความเกิดขึ้นตามมา

การทำงานของแอปดังกล่าวไม่ต้องการสัญญาณไวไฟ ไม่ต้องการสัญญาณอินเทอร์เน็ต มันต้องการเพียงใครอีกคนที่ใช้แอปเดียวกัน และอยู่ในระยะรัศมี 70 เมตร ซึ่งเหมาะมากสำหรับการประท้วงในประเทศที่มีการบล็อกสัญญาณ

รู้จัก “FireChat” ผู้อยู่เบื้องหลังการประท้วงของฮ่องกง
ยูสเซอร์อินเทอร์เฟสของ FireChat
ปัญหาเพียงอย่างเดียวของ FireChat คือ ทุกข้อความที่โพสต์ลงใน FireChat นั้นจะได้รับการเปิดเผยออกสู่สาธารณะ ซึ่งผู้พัฒนาแอปดังกล่าวอย่าง Open Garden ได้ให้คำแนะนำว่า ผู้ใช้ไม่ควรใช้ชื่อจริงของตนเองอย่างเด็ดขาด

“ทุกอย่างที่คุณพิมพ์ลงบน FireChat จะได้รับการเผยแพร่ออกสู่สาธารณะ ซึ่งเรากำลังพัฒนาในส่วนของการเข้ารหัสเพิ่มเติมให้ เพราะได้รับการร้องขออย่างมากจากผู้ใช้งานในฮ่องกง” Christophe Daligault ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ Open Garden กล่าว

สำหรับการใช้งานในจีนนั้น การเข้ารหัสอาจมีประโยชน์มากกว่า เนื่องจากพบว่า ปัจจุบันผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนในจีนเริ่มมีการใช้งานผ่าน VPNS (virtual private networks) มากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการบล็อกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ดี ทาง Open Garden ยังไม่สามารถระบุได้ว่าฟีเจอร์การเข้ารหัสนั้นจะสามารถใช้งานได้เมื่อไร และก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่า ผู้ใช้งานแอปดังกล่าวจะปลอดภัยจากการถูกสะกดรอยหรือไม่ด้วย

จากการเปิดเผยของ Open Garden พบว่า FireChat เคยมียอดการดาวน์โหลดใหญ่ๆ เมื่อครั้งที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในไต้หวัน ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากมีนักศึกษาในไต้หวันได้กระตุ้นให้ผู้คนหันมาใช้ FireChat ในการติดต่อสื่อสารแทนสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ล่มไป แต่ในการประท้วงในฮ่องกงครั้งนี้ Daligault เผยว่า ยอดการดาวน์โหลดสูงกว่าไต้หวันกว่า 20 เท่า และทำให้ FireChat กลายเป็นแอปอันดับ 1 ในฮ่องกงในเวลานี้ไปโดยปริยาย

สำหรับความนิยมของ FireChat ในระดับโลกนั้น อันดับ 1 อยู่ที่ สหรัฐอเมริกา อินเดีย และบราซิล ตามลำดับ

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 2 ตุลาคม 2557