โซนี่ชูความเป็นผู้นำเรื่องเสียงเร่งขยายตลาด Hi-Res Audio

[brid.siriwan]

โซนี่ชูความเป็นผู้นำเรื่องเสียงเร่งขยายตลาด Hi-Res Audio

โซนี่เชื่อตลาดเครื่องเล่นเพลงและหูฟังระดับ Hi-Res Audio กำลังอยู่ในช่วงเติบโต ซึ่งอาจจะใช้เวลาอีก 2-3 ปี เพื่อให้ค่ายเพลง และผู้ผลิตคอนเทนต์ เร่งปล่อยไฟล์ระดับสูงออกสู่ตลาด หลังได้รับความนิยมในสหรัฐฯ และยุโรปแล้ว พร้อมอัดไลน์สินค้าให้คลุมทุกช่วงราคามากขึ้น

ซูนาโอะ ซากาตะ ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด กล่าวว่า เทรนด์ของผู้บริโภคที่นิยมการฟังเพลงเริ่มเปลี่ยนไป ผู้บริโภคเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพของเสียงมากขึ้น (High Resolution Audio : Hi-Res Audio) และมีความต้องการเข้าถึงหูฟังคุณภาพสูงมากขึ้นไปพร้อมๆ กับการเติบโตของ สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต

“มีการคาดการณ์ว่าในปี 2015 มูลค่าของตลาดหูฟังจะสูงถึง 2.97 แสนล้านบาท โดยในช่วง 2-3 ปีหลังถือว่ามีอัตราการเติบโตที่ก้าวกระโดดไปพร้อมกับยอดขายของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ซึ่งปัจจุบันโซนี่มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในแง่ของมูลค่าในตลาดเอเชียแปซิฟิก 9 ประเทศ รวมประเทศไทย ด้วยส่วนแบ่งกว่า 16%”

สำหรับ 9 ประเทศในเอเชีย ประกอบไปด้วยออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ไต้หวัน เกาหลีใต้ ฮ่องกง สิงคโปร์ อินโดนีเชีย มาเลเซีย และไทย ซึ่งคาดว่าตลาดนี้ยังเติบโตได้อีกมาก เพราะในหลายประเทศยังไม่มีการเผยแพร่คอนเทนต์ที่เป็นระดับ Hi-Res Audio ทำให้ยังมีช่องว่างให้สามารถเติบโตได้อีกมาก

สิ่งที่ทำให้โซนี่มั่นใจว่าจะสามารถรักษาอันดับ 1 ในตลาด พร้อมๆ ไปกับการเติบโตที่สูงขึ้นคือตัวผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ใช้งาน ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก คือ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Hi-Res Audio ที่ให้คุณภาพเสียงดีที่สุด ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพรีเมียมระดับราคา 5,000 บาทขึ้นไป และการทำตลาดหูฟังบลูทูธ ที่มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน

โดยสินค้าในกลุ่มหูฟังของโซนี่จะแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มด้วยกัน โดยมีกลุ่ม Ultimate เป็นแฟลกชิป นำเสนอในเรื่องคุณภาพของเสียง ความสบายในการสวมใส่ และคุณภาพของการดีไซน์และโครงสร้างของหูฟัง อย่างในรุ่น MDR-Z7 ที่รองรับช่วงเสียงระหว่าง 4-100,000 Hz ผ่านไดร์ฟเวอร์ขนาด 70 มม. ให้ความสมจริงเหมือนอยู่ในคอนเสิร์ต

รองลงมาจะเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Premium และ BalanceAmature ที่ยังยึดว่าเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ Hi-Res Audio เช่นเดียวกัน แต่มีระดับราคาที่ลดลงมา ส่วนในกลุ่ม Sport Extrabass และ Noise-Canceling ก็จะจับตลาดที่แตกต่างกันไป

“การแข่งขันในตลาดหูฟังและเครื่องเล่น Hi-Res Audio จะดุเดือดขึ้นเมื่อผู้ให้บริการเพลงออนไลน์ หรือค่ายเพลงเริ่มปล่อยคอนเทนต์ที่เป็น Hi-Res Audio ออกสู่ตลาดเหมือนในสหรัฐฯ หรือยุโรป ทำให้ตอนนี้สิ่งที่โซนี่สามารถทำได้คือการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการแปลงคุณภาพ เสียงจาก MP3 ให้กลายเป็น Hi-Res Audio ได้ด้วย”

นอกจากสินค้าในกลุ่มหูฟังแล้ว โซนี่ ยังมองถึงการเติบโตในตลาดเครื่องเล่นเพลง Hi-Res Audio ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์อย่าง Sony A10 ซีรีส์ ชูจุดเด่นที่เป็นเครื่องเล่นเพลงที่ขนาดบางที่สุด ทำจากอะลูมิเนียมชิ้นเดียว ที่สำคัญคือวางจำหน่ายในราคา 6,990 บาท พร้อมๆ ไปกับขยายตลาดเครื่องเล่นที่เป็น Wearable อย่างหูฟังที่ใช้ขณะออกกำลังกาย

สำหรับ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มหูฟัง Hi-Res Audio จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงกลางเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ในระดับราคาตั้งแต่ 9,900 บาท ในรุ่น MDR-1A และ XBA-A2 ไปจนถึง 24,900 บาท ของ XBA-Z5 ส่วนเครื่องแปลงสัญญาณเสียงให้กลายเป็น Hi-Res Audio อย่าง PHA-3 จะอยู่ที่ 29,900 บาท ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Hi-Res Audio จะครอบคลุมราคาตั้งแต่ 2,490-9,900 บาท


ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 14 ตุลาคม 2557