เปิดแล้ว BIG 2014! มั่นใจซื้อขายทะลุ 3 พันล้าน

Post Reply
brid.siriwan
Posts: 3942
Joined: 05 Apr 2013, 08:47

เปิดแล้ว BIG 2014! มั่นใจซื้อขายทะลุ 3 พันล้าน

Post by brid.siriwan »

เปิดแล้ว BIG 2014! มั่นใจซื้อขายทะลุ 3 พันล้าน

ด้านหน้าการจัดงาน “BIG+BIH” ณ ไบเทค บางนา

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
เปิดแล้ว BIG 2014! มั่นใจซื้อขายทะลุ 3 พันล้าน
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

เปิดแล้ว BIG 2014! มั่นใจซื้อขายทะลุ 3 พันล้าน
บรรยากาศภายในงาน


ก.พาณิชย์ เปิดงาน“BIG+BIH” ครั้งที่ 38ณ ไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 19-23 ต.ค.นี้ เชื่อเป็นเวทีผลักดันนักออกแบบรุ่นใหม่ มั่นใจส่งออกสินค้ากลุ่มกิฟต์โตร้อยละ 2 เผยไฮไลท์ 'โฉมใหม่...ใหญ่กว่า...ดีกว่า' ด้าน "จิรบูลย์" ระบุคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงาน และเจรจาธุรกิจกว่า 12,000 คน และมียอดการสั่งซื้อกว่า 3,000 ล้านบาท

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในการเปิดงานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน (Bangkok International Gift Fair 2014 and Bangkok International Houseware Fair 2014 หรืองาน “BIG+BIH” ) ครั้งที่ 38 ซึ่งจัด ณ ไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 19-23 ต.ค.นี้ ว่า งานดังกล่าว กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ร่วมกับสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทยและสมาคมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์แนวดีไซน์ จัดงานเพื่อสร้างประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกสินค้าของขวัญของตกแต่งบ้านและของใช้ในบ้านที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และงานระดับนานาชาติ ที่ผู้ซื้อจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกจะเดินทางมาพบผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทย

สำหรับการจัดงานครั้งนี้จะเป็นส่วนช่วยผลักดันนักออกแบบรุ่นใหม่ของไทยให้ออกสู่ตลาดโลก โดยในปีที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายสินค้าในกลุ่มดังกล่าวสูงขึ้น 330,000 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าในปีนี้ยอดการสั่งซื้อสินค้ากลุ่มของขวัญและของใช้ในบ้านจากทั่วโลก จะสูงขึ้นอีกร้อยละ 2

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า งานแสดง BIG+BIH ในครั้งนี้มีไฮไลต์มากมายทั้งของภาครัฐและเอกชน โดยรูปแบบของงานจะเน้นคอนเซ็ปต์ 'โฉมใหม่...ใหญ่กว่า...ดีกว่า' นำเสนอสินค้าไลฟ์สไตล์ดีไซน์รุ่นใหม่มากมาย โดยผู้เข้าชมงานจะได้พบสินค้าที่มีนวัตกรรมใหม่ งานดีไซน์ใหม่ๆ และสินค้าที่ตอบสนองต่อความต้องการเฉพาะกลุ่มอีกด้วย ในส่วนของกรมฯ ได้จัดเตรียมพื้นที่แสดงและนิทรรศการมากมาย อาทิ โซน Design Hall ที่คัดสรรสินค้าคุณภาพทุกหมวดหมู่มารวมไว้ที่เดียวกัน ยังมีโซน DEmark เป็นนิทรรศการผลงานการออกแบบยอดเยี่ยม สินค้า 40 รายการที่ได้รับรางวัล Design Excellence Award ปี 2013 และในจำนวนนี้ 25 รายการได้รับรางวัล G-Mark จากประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย” ร้อยเอก สุวิพันธุ์ กล่าว

ทั้งนี้ ผู้เข้าชมงานจะได้พบกับสินค้า 1,600 คูหาบนพื้นที่ทั้งหมด 40,000 ตารางเมตรของไบเทค บางนา ประกอบด้วย 6 ประเภทสินค้าหลักนับพันรายการ ได้แก่ สินค้าของขวัญ ของที่ระลึก ของตกแต่งบ้านและงานหัตถกรรม สินค้าดอกไม้ ต้นไม้ประดิษฐ์ เครื่องหอมและสบู่ สินค้าเคหะสิ่งทอ ของขวัญและของตกแต่งทำจากผ้า สินค้าเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน สินค้าเครื่องประดับตกแต่งในเทศกาลคริสต์มาส เทียน สินค้าของเล่น สินค้าของใช้ในครัวเรือน และสินค้า GREEN AND ECO เพื่อนำมาให้ผู้ซื้อจากทั่วโลกสั่งซื้อ

ด้านนายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ไลฟ์สไตล์ไทย กล่าวว่า จากการลงทะเบียนผู้ซื้อต่างชาติที่จะเข้าชมงาน BIG+BIH ปีนี้มีจำนวนประมาณ 2,500 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่ทรงตัวจากปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคุณภาพมีกำลังซื้อสูง ส่วนใหญ่มาจากสหรัฐฯ เอเชีย และยุโรป ตามลำดับ โดยคาดว่าจะมีต่างชาติเข้าร่วมงานมากกว่าครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากต่างชาติกังวลเหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกง ซึ่งจัดงานแสดงสินค้าเวลาใกล้เคียงกับไทย ทำให้ต่างชาติเข้ามาร่วมงาน BIG+BIH ในไทยมากขึ้น โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงาน และเจรจาธุรกิจกว่า 12,000 คน และมียอดการสั่งซื้อกว่า 3,000 ล้านบาท

เขากล่าวด้วยว่า สำหรับการส่งออกสินค้ากลุ่มของขวัญและของใช้ในบ้าน ช่วง 7 เดือนแรกอยู่ในภาวะเสมอตัว มูลค่าประมาณ 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 96,000 ล้านบาท สินค้าส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มกิฟต์ชอป เฟอร์นิเจอร์ สิ่งทอ ฯลฯ ยอดส่งออกยังเติบโตได้เล็กน้อย มีเพียงกลุ่มของใช้ในบ้านที่ยอดส่งออกลดลง ปัจจัยมาจากมีผู้ผลิตรายใหญ่รายหนึ่งย้ายฐานผลิตออกไป กลายเป็นตัวดึงให้ยอดส่งออกสินค้ากลุ่มกิฟต์ในช่วง 7 เดือนแรกแค่เสมอตัว

ส่วนช่วงที่เหลือในปีนี้ เชื่อว่ายอดส่งออกจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากบรรยากาศการใช้จ่ายของผู้บริโภคเริ่มกลับมาฟื้นตัว รวมถึงมีปัจจัยเสริมจากค่าเงินบาทอ่อนตัวและเศรษฐกิจในทวีปยุโรปเริ่มกลับมาฟื้นตัวเช่นกัน คาดว่าสุดท้ายยอดส่งออกสินค้ากิฟต์ในปีนี้จะขยายตัวประมาณ 2% หรือมีมูลค่าเกิน 100,000 ล้านบาทแน่นอน

ขณะที่การคาดการณ์ส่งออกสินค้ากลุ่มกิฟต์ปีหน้า (2558) เชื่อว่าอัตราการเติบโตยังอยู่ในระดับเดิมคือประมาณร้อยละ 2 มีปัจจัยหนุนจากแพกเกจกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ใส่มาในระบบทำให้การใช้จ่ายในประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้สินค้ากิฟต์ชอปของผู้ประกอบการไทยมียอดขายดีขึ้น หลังจากนั้น ในรายที่แข็งแรงแล้วจะเริ่มมองถึงการขยายตลาดส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้าน ช่วยดึงยอดส่งออกให้สูงขึ้น

ทั้งนี้ ตลาดส่งออกที่สำคัญยังเป็นสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนสูงที่สุดถึง 22% ดังนั้น ควรเป็นตลาดหลักที่ต้องรักษาไว้ ควบคู่กับให้ความสำคัญต่อตลาดรอง โดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่น ซึ่งตอบรับสินค้าไทยดีขึ้นเรื่อยๆ และตามด้วยตลาดจีน ซึ่งขณะนี้คนจีนยุคใหม่มีรายได้สูง นิยมใช้สินค้าคุณภาพ ทำให้เป็นโอกาสของสินค้าไทยเช่นกัน ส่วนปัจจัยเสี่ยงนั้น ปัจจุบันผู้ประกอบการของเวียดนามและอินโดนีเซียมีศักยภาพสูงขึ้นเรื่อยๆ และรัฐบาลของทั้งสองชาติให้การสนับสนุนเอสเอ็มอีเต็มที่ จึงถือเป็นคู่แข่งที่จะมาแย่งลูกค้าไปจากเอสเอ็มอีไทย


ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 19 ตุลาคม 2557
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”