โอเปอเรเตอร์สู้ตายมือถือต่ำ 3 พัน พะยี่ห้ออัดโปรแรงอัพสเป็ก

[brid.siriwan]

โอเปอเรเตอร์สู้ตายมือถือต่ำ 3 พัน พะยี่ห้ออัดโปรแรงอัพสเป็ก ชิงแชร์อินเตอร์แบรนด์

แฮนด์เซตแบรนด์โอเปอเรเตอร์เดือด ปั้นมือถือราคาถูกแถมโปรโทร.ฟรีเท่าค่าเครื่อง ชิงฐานลูกค้าจากอินเตอร์แบรนด์ ครองตำแหน่งผู้นำตลาดมือถือราคาต่ำ 3 พันบาทพร้อมดันยอดใช้ 3G "เอไอเอส" ปั๊ม "ซุปเปอร์คอมโบ" โกยยอดขาย 1 ล้านเครื่องใน 6 เดือน ฟาก "ดีแทค" ปั้น 2 แบรนด์ "ไตรเนทโฟน-แฮปปี้โฟน" จับมือ "เอเซอร์" ชูสมาร์ทโฟนต่ำ 2 พันบาท "ทรู" ลุยฟีเจอร์โฟน 3G แค่ 299 บาท

นายปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ผู้บริโภคเข้าใจเรื่อง 3G มากขึ้น หลังจากที่โอเปอเรเตอร์ทุกรายเร่งประชาสัมพันธ์ตั้งแต่เริ่มให้บริการ 3G บนคลื่น 2.1 GHz เมื่อ พ.ค.ปีก่อน และจูงใจผู้บริโภคให้ย้ายเข้ามาใช้งาน เช่น ราคาแพ็กเกจค่าบริการที่ถูกลง และร่วมมือกับผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือเกือบทุกราย เพื่อลดราคาเครื่องให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ ส่งผลให้ลูกค้าในระบบของบริษัทย้ายจาก 2G ไป 3G ถึง 90% จากทั้งหมด



โดย "เอไอเอส" เริ่มทำตลาดโปรโมชั่นดังกล่าวตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีก่อน ด้วยการร่วมมือกับเอเซอร์, แซดทีอี และไอ-โมบาย เพื่อจำหน่ายฟีเจอร์โฟนและสมาร์ทโฟนของทั้ง 3 แบรนด์ พร้อมสร้างแคมเปญพิเศษ "ซุปเปอร์คอมโบ" เน้นขายโทรศัพท์มือถือราคาต่ำกว่า 3 พันบาท ที่จะติดแบรนด์ "เอไอเอส" คู่เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคเพิ่มขึ้น

ต่อมาได้ร่วมมือกับแบรนด์ "ลาวา" ผู้ผลิต จากอินเดีย ส่งสมาร์ทโฟน "เอไอเอส แบล็ค ซีรีส์" 3 รุ่นออกมาทำตลาดในราคา 1,690-2,690 บาท และล่าสุดได้นำเข้ามาอีก 2 รุ่น ได้แก่ AIS Lava G 4.0 สมาร์ทโฟนจอ 4 นิ้ว ราคา 2,390 บาท กับ AIS Lava T 4.5 สมาร์ทโฟนจอ 4.5 นิ้ว ราคา 2,690 บาท ซึ่งทั้งหมดมีโปรโมชั่น ฟรีค่าโทร.เท่าราคาเครื่อง

"เฉพาะ 6 เดือนที่ผ่านมาขาย เอไอเอส แบล็ค ซีรีส์ ได้ 1 ล้านเครื่องแล้ว เพราะขายไม่ถึง 3,000 บาท แต่สเป็กเครื่องได้ระดับราคา 4,000 บาท รวมถึงให้โทร.ฟรีเท่าค่าเครื่อง จึงเป็นราคาที่ทุกระดับรับได้ ทำให้ใคร ๆ ก็ใช้งานสมาร์ทโฟนบนโครงข่าย 3G ของเราได้ จริง ๆ อินเตอร์แบรนด์ครองตลาดนี้อยู่เดิม แต่ทำราคาไม่ได้เท่าเรา ทำให้โอเปอร์เรเตอร์กลับมามีมาร์เก็ตแชร์ในตลาดนี้สูงกว่า และกลายเป็นคู่แข่งของอินเตอร์แบรนด์โดยปริยาย ซึ่งไม่ใช่แค่สมาร์ทโฟนเท่านั้น แต่ฟีเจอร์โฟนเราก็ทำราคาได้ถูกกว่า"

และในปีหน้า "เอไอเอส" จะนำเข้ารุ่นใหม่ที่ราคาไม่เกิน 3,000 บาท "ตลาดนี้ดุเดือดตั้งแต่ต้นปี เพราะโอเปอเรเตอร์ทุกรายต่างส่งเครื่องที่ติดยี่ห้อของตัวเองและใช้โปรโมชั่นคล้ายกันคือ ให้ฟรีค่าโทร.เท่าราคาเครื่อง ดังนั้นจุดเด่นของแต่ละรายคือสเป็ก"

ภาพรวมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมปีนี้มีมูลค่า 2.24 แสนล้านบาท โตขึ้น 1-2% จากผู้ใช้ 95 ล้านเลขหมาย (145% ของประชากร) ซึ่งกว่าครึ่งยังใช้งานเครื่อง 2G อยู่ แต่มี 38% ที่ใช้งานดาต้าผ่านสมาร์ทโฟนแล้ว ขณะที่ยอดการจำหน่ายโมบายดีไวซ์ มีราว 26 ล้านเครื่อง คิดเป็นมูลค่า 1.15 แสนล้านบาท

ด้าน นายปภาพรต ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบริหารอุปกรณ์สื่อสาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) เปิดเผยว่า ปีนี้คาดว่ายอดขายมือถือจะอยู่ที่ 20 ล้านเครื่อง ซึ่งราว 50% เป็นเครื่องราคาไม่เกิน 3,000 บาท และในจำนวนนี้กว่า 30% เป็นเครื่องที่บรรดาโอเปอเรเตอร์ผลิตออกมาทำตลาด ซึ่งถ้าใครสามารถครองตลาดในส่วนนี้จะกลายเป็นผู้นำตลาด

ปัจจุบันดีแทคมีแบรนด์มือถือของตัวเอง 2 แบรนด์คือ "ดีแทค ไตรเนท โฟน" เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีก่อน เน้นที่สมาร์ทโฟน โดยมีทั้งหมด 9 รุ่น (มีฟีเจอร์โฟนแค่ 1 รุ่น) ราคาอยู่ระหว่าง 1,990-5,590 บาท กับแบรนด์ "แฮปปี้โฟน" เป็นฟีเจอร์โฟน 3G แต่ถ่ายภาพและเชื่อมต่อโซเชียลเน็ตเวิร์กได้ ราคา 659 บาท เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ไตรมาส 3 ที่ผ่านมา วางขายในร้านของดีแทค, ตัวแทนจำหน่าย และร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น

"ยอดขายตอนนี้เกิน 1 ล้านเครื่องแล้ว และเปิดตัวรุ่นใหม่ ๆ เพิ่ม เช่น รุ่น Joey Fit 4.0 รุ่นแรกที่ร่วมกับเอเซอร์ ราคาเพียง 1,990 บาท ซึ่งถือว่าเป็นอินเตอร์แบรนด์ที่อยู่ในกลุ่มสมาร์ทโฟนต่ำกว่า 2,000 บาทเพียงไม่กี่รุ่น และในอนาคตจะมีการร่วมมือกับอินเตอร์แบรนด์อื่น ๆ แน่นอน หลังจากเคยร่วมกับแซตทีอีและหัวเว่ย"

โดยสมาร์ทโฟนกลุ่มราคา 1,900-2,900 บาท จะเป็นกลุ่มที่จำหน่ายได้มากที่สุดในตลาด รวมถึงในส่วนของดีแทคเองด้วย

"โอเปอเรเตอร์คู่แข่งต่างหันมาจับกลุ่มสมาร์ทโฟนราคาถูกกันมากขึ้น จากเดิมที่ให้อินเตอร์แบรนด์เป็นผู้นำตลาด ซึ่งแต่ละค่ายต่างชูจุดเด่นที่ต่างกัน เช่น เจ้าหนึ่งจะเน้นไปที่สมาร์ทโฟนราคาเกือบ 3 พันบาท ส่วนอีกรายจะเน้นไปที่ฟีเจอร์โฟนเป็นหลัก"

สำหรับลูกค้า "ดีแทค" ปัจจุบันอยู่ที่ 28 ล้านเลขหมาย ในจำนวนนี้ 40% ใช้งานดาต้าทุกเดือน และมีเป้าหมายที่จะทำให้จำนวนนี้กลายเป็น 80% ภายใน 2 ปี

ด้าน "ทรูมูฟ เอช" ได้ทำตลาดโทรศัพท์มือถือแบรนด์ตัวเองมาระยะหนึ่งเช่นกัน โดยนอกจากสมาร์ทโฟนและแท็บเลตราคาถูกแล้ว ยังมีฟีเจอร์โฟนที่ราคาถูกที่สุดในตลาด คือ รุ่น Super 1 ราคาเพียง 299 บาท พร้อมฟังก์ชั่นพื้นฐานครบ เช่น รับชมโทรทัศน์ผ่านแอปพลิเคชั่น "HTV" มีกล้องความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซล และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์กผ่านหน้าจอขนาด 2 นิ้วได้


ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
วันที่ 26 ต.ค. 2557