ชายไทยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากพุ่ง

Post Reply
brid.siriwan
Posts: 3942
Joined: 05 Apr 2013, 08:47

ชายไทยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากพุ่ง

Post by brid.siriwan »

ชายไทยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากพุ่ง

แพทย์เผยสถิติชายไทย เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากพุ่ง เหตุกินอาหารฟาสต์ฟูด-นม-เนย "สมาคมศัลยแพทย์" เปิดตัวนวัตกรรมตรวจคัดกรองมะเร็งต่อลูกหมาก เชื่อถือได้มากขึ้น 3.5 เท่า

เมื่อวันที่ 4 พ.ย. นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ ประธานฝ่ายวิชาการสมาคมศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงสถานการณ์โรคมะเร็งต่อมลูกหมากว่า ขณะนี้พบว่าชายไทยป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากเพิ่มขึ้น เป็นอันดับ 4 จากอันดับ 7-8 มีอัตราการเกิด 2.5-3 คนต่อแสนประชากร ส่วนมากพบในกลุ่มอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะผู้ที่มีคนในครอบครัวเป็นโรคดังกล่าว จะมีความเสี่ยงมากกว่าคนอื่นถึง 3 เท่า ทั้งนี้การพบโรคนี้เพิ่มขึ้นเป็นเพราะคนนิยมรับประทานอาหารฟาสฟู๊ด นม เนย และชีส ซึ่งเป็นสาเหตุของการก่อโรคเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงขอแนะนำให้รับประทานอาหารไทยที่มีไลโคปีน เช่น แตงโม มะเขือเทศสุก ผักตระกูลกะหล่ำ ผลิตภัณฑ์จากเต้าหู้และถั่วเหลือง ลดอาหารมัน ควบคุมคลอเรสเตอรอล

นพ.บรรณกิจ กล่าวว่า โรคนี้หากตรวจพบในระยะที่ 1-2 สามารถรักษาให้หายขาด ลดการเสียชีวิตได้ 21% แต่ถ้าเป็นระยะที่ 3-4 มะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ เช่น กระดูก ตับ ไต ปอดและต่อมน้ำเหลือง อาการจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ บางรายถึงขั้นเป็นอัมพาต รักษาได้เพียงลดภาวะแทรกซ้อน ให้ยาฉีดประคับประคอง ทั้งนี้การพบต่อมลูกหมากผิดปกติสามารถสังเกตได้จากการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะไม่หมด กลั้นปัสสาวะไม่ค่อยได้ ปวดเวลาปัสสาวะหรือมีเลือดปนออกมา รวมทั้งไม่มีแรง อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดหลัง ปวดกระดูก น้ำหนักลด หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัย

นพ.บรรณกิจ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการพัฒนาชุดน้ำยาตรวจคัดกรองสารจำเพาะต่อโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้แล้ว เรียกว่าการตรวจแบบพีเอชไอ เป็นการเจาะเลือดเพียง 5 ซีซี จากผู้ที่มีค่าพีเอสเออยู่ระดับกลาง 4-10 นาโนกรัมต่อมิลลิกรัม โดยจะให้ผลที่น่าเชื่อถือกว่าวิธีการเดิมที่ตรวจจากชิ้นเนื้อทวารหนัก 3.5 เท่า อีกทั้งยังไม่ก่อให้เกิดผลแทรกซ้อนเหมือนวิธีเดิม ที่ทั้งเจ็บปวด และเสี่ยงต่อการติดเชื้อรูทวารหนัก และติดเชื้อในกระแสเลือดได้ อย่างไรก็ตามในวิธีการใหม่ถ้าได้ค่าพีเอชไอมากกว่า 40 ก็ต้องทำการตรวจชิ้นเนื้อทวารหนักไปตรวจยืนยันผลอีกครั้งเหมือนกัน แต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องเจาะคนที่มีค่าพีเอชเอกลางๆ ทั้งหมด ซึ่งมีประมาณ 70% ค่าใช้จ่ายในการตรวจด้วยนวัตกรรมใหม่อยู่ที่หลักหมื่นบาท แต่หากมีการผลิตมากขึ้นจนราคาถูกลง น่าจะมีการบรรจุในสิทธิประโยชน์ในกองทุนหลักประกันสุขภาพต่าง ๆ ได้.

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2557
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”