ผู้พิพากษา แนะ สนช. หาความสมดุล ปมภาษีที่ดิน-มรดก

[brid.siriwan]

ผู้พิพากษา แนะ สนช. หาความสมดุล ปมภาษีที่ดิน-มรดก


อธิบดีผู้พิพากษา ศาลภาษีอากรกลาง ไม่เห็นด้วยกฎหมายภาษีที่ดิน-มรดก เชื่อสร้างความยุ่งยาก แนะ สนช. หาความพอดี เป็นธรรมแก่ฝ่ายจัดเก็บ และประชาชนที่เสียภาษี...

เมื่อวันที่ 12 พ.ย. นายสนธิศาสตร์ เจตน์วราพงศ์ อธิบดีผู้พิพากษา ศาลภาษีอากรกลาง กล่าวถึงแนวคิดการจัดเก็บภาษีที่ดินและภาษีมรดก ว่า เมื่อกฎหมายภาษีที่ดินและภาษีมรดกผ่านบังคับใช้เป็นกฎหมาย เชื่อว่าคงจะมีข้อพิพาทเกี่ยวกับคดีภาษีอากรเพิ่มขึ้นแน่นอน เพราะคนจัดเก็บกับคนที่มีหน้าที่ชำระเห็นไม่ตรงกัน คดีก็จะเข้าสู่การพิจารณาของศาลเพิ่มขึ้นแน่นอน แม้จะพยายามหาทางแก้ไขให้ระงับข้อพิพาทก่อนฟ้องคดี เช่น การต้องผ่านคณะกรรมการอุทธรณ์ หรือการชี้ขาดของเจ้าพนักงานของรัฐ เมื่อมีคดีเข้ามา เชื่อว่าทุกฝ่ายจะต้องรอแนวบรรทัดฐานของศาลฎีกา ว่า แนวทางที่ถูกต้องจะเป็นอย่างไร แต่สำหรับคนที่มีคดีค้างอยู่ในศาลภาษี ก็ต้องใช้กฎหมายภาษีฉบับเดิมบังคับคดีต่อไป เพราะจุดความรับผิดทางภาษีได้เกิดขึ้นไปแล้ว

นายสนธิศาสตร์ กล่าวต่อว่า ส่วนกฎหมายมรดกใหม่ ตนเห็นว่าหากบังคับใช้จริง คงจะมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก อย่างเช่นบอกว่า ใครรับมรดกเกิน 50 ล้านบาท ต้องเสียภาษี ถามว่า ใครจะรับว่าตนเป็นทายาทที่ต้องเสียภาษี มูลค่าแห่งทรัพย์สินใครจะประเมิน ส่วนสังหาริมทรัพย์อื่น เช่น พระเครื่องมูลค่าที่แท้จริงคือเท่าใด ทองคำแท่ง ก็เช่นกัน ไม่มีความชัดเจน เพราะราคาขึ้นลง กฎหมายมรดกหลายประเทศได้ยกเลิกไปแล้ว เพราะไม่ได้อำนวยประโยชน์ให้รัฐอย่างแท้จริง ไม่เหมือนแวต หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม อีกทั้งขั้นตอนการจัดเก็บที่ยุ่งยากดังที่กล่าว เพื่อน สนช.บางท่านก็บอกว่าตอนนี้ คนที่คิดว่าต้องเสียภาษีมรดกมากๆ เริ่มมีการถ่ายเททรัพย์สินออกนอกประเทศแล้ว ก็มีปัญหาของภาษีมรดก คือเป็นการจัดเก็บซ้ำซ้อน เจ้ามรดกอาจเคยเสียภาษีไว้ก่อนตาย พอตายแล้วทายาทต้องมารับภาระภาษีมรดกที่เคยผ่านการจัดเก็บภาษีมาแล้ว ดังนั้น ขอฝาก สนช.ว่า ต้องหาความพอดี ความสมดุลที่เป็นธรรมแก่ฝ่ายจัดเก็บกับฝ่ายประชาชนที่เสียภาษี.


ทีมา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 12 พ.ย. 2557