“ประวิตร” จี้ส่วนราชการเร่งเบิกจ่าย

[brid.siriwan]

“ประวิตร” จี้ส่วนราชการเร่งเบิกจ่าย

ครม.ไล่บี้หน่วยงานภาครัฐเร่งรัดการเบิกจ่ายและจ่ายเงินให้ชาวนาโดยเร็ว หลังเห็นแผนกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปียังอืด

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมครม. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมซึ่งรักษาการประธานที่ประชุมครม.ได้สั่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านเศรษฐกิจเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้รวดเร็วและรอบคอบ หลังจากเห็นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกไปในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 58 ยังไม่เห็นผลออกมาชัดเจนโดยเฉพาะการจ่ายเงินให้กับชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ ยังล่าช้า ขณะที่การช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางก็ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบบัญชีเกษตรกรอยู่

“มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลออกไปยังไม่เห็นผลออกมาชัดเจน ทั้งการจ่ายเงินชาวนาที่ยังได้น้อยอยู่และตรวจสอบบัญชีของชาวสวนยางจึงอยากให้ทุกหน่วยงานทำด้วยความรวดเร็วให้เห็นผลโดยเร็วแต่ก็ต้องทำด้วยความรอบคอบรัดกุม ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องประสานการทำงานร่วมกันให้ประสบผลสำเร็จและให้เกิดผลออกมา”

ก่อนหน้านี้ม.ร.ว.ปรีดิยาธรเทวกุล รองนายกฯ ได้รายงานให้ที่ประชุมร่วมระหว่างครม. และคสช. ครั้งที่ 2 รับทราบถึงความคืบหน้าผลการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใน3 เดือนแรก ระหว่างเดือนต.ค.-ธ.ค. 57 ที่กำหนดให้แต่ละกระทรวงเร่งรัดทำสัญญาจ้างงานภายในวงเงินที่ได้รับอนุมัติแล้วให้แล้วเสร็จภายในเดือนธ.ค.57 เพื่อช่วยกระจายการสร้างงานและรายได้ทั่วประเทศโดยในส่วนของมาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อยในการจ่ายเงินชดเชยให้ชาวนาไร่ละ1,000 บาท ล่าสุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ได้นำเงินเข้าบัญชีให้กับชาวนาแล้ว 1.42 แสนราย คิดเป็นวงเงิน 1,730 ล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการได้ครบทั้ง 3.4 ล้านครอบครัวภายในเดือนพ.ย.นี้

ขณะที่ผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณตั้งแต่วันที่1-31 ต.ค. 57 ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีงบประมาณ 58 เบิกจ่ายได้ทั้งสิ้น 3.67 แสนล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 1.08 แสนล้านบาท หรือสูงกว่า 10% ถือว่า เป็นผลงานของคสช.และรัฐบาลที่ได้เตรียมพร้อมให้ส่วนราชการและหน่วยงานอื่นเร่งเบิกจ่ายเงินงบประมาณให้เร็วขึ้นโดยเฉพาะการเร่งเบิกจ่ายในส่วนที่เบิกจ่ายได้ง่ายก่อน เช่น การซ่อมแซมและการบำรุงตึกอาคารส่วนราชการ การประชุมสัมมนาในประเทศ

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2557