ชี้องค์กรธุรกิจใหญ่ยังลอบใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์

[brid.siriwan]

ชี้องค์กรธุรกิจใหญ่ยังลอบใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์

ตำรวจ บก.ปอศ. เผยองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ยังคงละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์ที่คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาด้านซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง ปี 57 เข้าตรวจค้นแล้ว 158 แห่ง พบ ซอฟต์แวร์ที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ในคอมพิวเตอร์รวมทั้งหมด 1,800 เครื่อง

พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปี 2557 เป็นต้นมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นองค์กรธุรกิจไปแล้ว 158 แห่ง พบซอฟต์แวร์ที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ติดตั้งในคอมพิวเตอร์รวมทั้งหมด1,800เครื่อง องค์กรธุรกิจเหล่านี้ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์คิดเป็นมูลค่าของซอฟต์แวร์โดยเฉลี่ยราว 2.4 ล้านบาท โดยองค์กรธุรกิจในอุตสาหกรรมการผลิตและการก่อสร้างอยู่ในกลุ่มที่มีรายงานการใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายและไม่มีไลเซ้นต์มากที่สุด

“สถิติดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าองค์กรธุรกิจไทยจำเป็นต้องมีการปรับปรุงธรรมาภิบาลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างจริงจัง เพื่อให้แน่ใจว่าใช้ซอฟต์แวร์ถูกกฎหมายและมีไลเซ้นต์เท่านั้น โดยปัจจุบันซอฟต์แวร์ที่สร้างสรรค์โดยนักพัฒนาชาวไทยถูกละเมิดลิขสิทธิ์ด้วยเช่นกันคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 15 ของซอฟต์แวร์ที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ที่พบจากการเข้าตรวจค้นทั้งหมด”

พ.ต.อ.กิตติ กล่าวต่อว่า เชื่อว่ามีองค์กรธุรกิจหลายพันแห่งที่ใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายและไม่มีไลเซ้นต์และปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์กำลังส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในเวทีโลกด้านชื่อเสียง การค้า การลงทุนและมาตรฐานความปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์ ถือเป็นปัญหาที่เราจำเป็นต้องร่วมมือกับผู้นำองค์กรธุรกิจในการแก้ไขให้สำเร็จ โดยจนถึงวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นและดำเนินคดีกับองค์กรธุรกิจที่ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ไปแล้วในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ ปทุมธานี นครปฐม ชลบุรี นนทบุรี สุพรรณบุรี เชียงใหม่ เพชรบุรี กรุงเทพฯ สมุทรสาคร สมุทรปราการ ระยอง ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก นครราชสีมา ภูเก็ต และกระบี่

สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสการใช้งานซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายและไม่มีไลเซ้นส์ผ่านทางสายด่วนที่ 0-2714-1010 หรือรายงานทางช่องทางออนไลน์จะได้รับเงินรางวัลสูงสุด 250,000 บาท โดยข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสจะถูกปิดไว้เป็นความลับรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่ www.stop.in.th


ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2557