ร้าน “หนูณิชย์พาชิม” ทะลุ 2 พันแห่งทั่วไทย “พาณิชย์” เผยช่วย

[brid.siriwan]

ร้าน “หนูณิชย์พาชิม” ทะลุ 2 พันแห่งทั่วไทย “พาณิชย์” เผยช่วยลดค่าครองชีพประชาชนแล้ว 100 ล้าน
ร้าน “หนูณิชย์พาชิม” ทะลุ 2 พันแห่งทั่วประเทศ “พาณิชย์” เผยช่วยลดค่าครองชีพแล้วกว่า 100 ล้านบาท เตรียมเดินหน้าสนับสนุนร้านค้า ช่วยวัตถุดิบราคาถูกเพื่อให้ขายได้ราคาต่ำต่อไป

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้จำนวนร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการ “หนูณิชย์พาชิม” มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 2,019 ร้านค้าทั่วประเทศ แยกเป็นในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 1,368 ราย และในส่วนภูมิภาค 44 จังหวัด จำนวน 651 ราย ซึ่งตั้งแต่เปิดตัวโครงการตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.2557 จนถึงปัจจุบัน สามารถช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนได้แล้วประมาณ 107 ล้านบาท จากการที่ประชาชนสามารถบริโภคอาหารปรุงสำเร็จได้ในราคาถูกเมนูละ 25-35 บาท

“กรมฯ มีแผนที่จะผลักดันให้มีจำนวนร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการหนูณิชย์พาชิมให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นการหาร้านอาหารในพื้นที่ที่เป็นแหล่งเมือง แหล่งชุมชน พื้นที่ที่มีคนทำงานมาก และแหล่งท่องเที่ยว เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ประชาชนในการบริโภคอาหาร และช่วยดึงราคาอาหารปรุงสำเร็จในพื้นที่ให้ลดลงมา”

ทั้งนี้ ในส่วนของร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการ กรมฯ ยืนยันว่า จะสนับสนุนวัตถุดิบราคาถูกให้เพื่อช่วยลดต้นทุน โดยร้านค้าสามารถซื้อน้ำมันพืชมรกตได้ในราคาขวดละ 33-36 บาท จากปกติ 42 บาท และแบบถุง 31.67-32.50 บาท จากปกติ 40.50 บาท น้ำปลาตราทิพรส ฉลากเหลือง ราคา 23.33 บาท จากปกติ 26 บาท ฉลากชมพู ราคา 22 บาท จากปกติ 23 บาท ซองปรุงรสภูเขาทอง ฝาเขียว ราคา 38 บาท จากปกติ 43 บาท และฝาน้ำตาล ราคา 27 บาท จากปกติ 34 บาท เครื่องดื่มโค้ก เป็บซี่ และเอส ราคาขวดละ 6.67 บาท จากปกติ 10 บาท และน้ำดื่มขวดละ 5 บาท จากปกติ 7 บาท

ขณะเดียวกัน จะช่วยสนับสนุนก๊าซหุงต้ม โดยได้ประสานกับกระทรวงพลังงานให้ร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการสามารถซื้อก๊าซหุงต้มได้ในราคาเดิม ก่อนที่จะมีการปรับขึ้นราคา ซึ่งหากคิดตั้งแต่ขึ้นราคาเดือน ก.ย.2556 จนถึง 31 พ.ค.2557 เพราะหลังจากวันที่ 1 มิ.ย.2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ประกาศให้ตรึงราคาไว้ โดยสามารถลดต้นทุนได้ถังละ 67.50 บาทสำหรับถัง 15 กิโลกรัม (กก.) หากใช้เดือนละ 10 ถัง ก็จะประหยัดต้นทุนได้เดือนละ 675 บาท

นายบุณยฤทธิ์ กล่าวว่า กรมฯ ขอเชิญชวนให้ประชาชนแวะไปรับประทานอาหารในร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการหนูณิชย์พาชิม ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ว่ามีร้านตั้งอยู่ที่ใดบ้างในเฟซบุ๊กแฟนเพจ “หนูณิชย์พาชิม” หรือค้นหาได้รายละเอียดร้านค้าได้ที่เว็บไซต์ www.kapook.com www.mthai.com และเว็บไซต์ของทุกหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์

สำหรับร้านหนูณิชย์พาชิมในเขตกรุงเทพฯ มีครบทั้ง 50 เขตแล้ว โดยมีจำนวน 1,064 ร้าน ได้แก่ บางบอน 27 ร้าน บางแค 40 ร้าน บางกะปิ 31 ร้าน บางเขต 49 ร้าน บางคอแหลม 12 ร้าน บางขุนเทียน 30 ร้าน บางกอกน้อย 26 ร้าน บางกอกใหญ่ 24 ร้าน บางนา 16 ร้าน บางพลัด 38 ร้าน บางรัก 14 ร้าน บางซื่อ 7 ร้าน บึงกุ่ม 15 ร้าน จตุจักร 28 ร้าน คันนายาว 22 ร้าน ดุสิต 18 ร้าน จอมทอง 12 ร้าน ยานนาวา 12 ร้าน คลองสาน 18 ร้าน คลองเตย 11 ร้าน ลาดพร้าว 19 ร้าน หลักสี่ 35 ร้าน ลาดกระบัง 12 ร้าน มีนบุรี 33 ร้าน หนองจอก 12 ร้าน หนองแขม 23 ร้าน ภาษีเจริญ 30 ร้าน ป้อมปราบศัตรูพ่าย 23 ร้าน ประเวศ 13 ร้าน ราษฎร์บูรณะ 8 ร้าน สายไหม 26 ร้าน สะพานสูง 15 ร้าน สาทร 13 ร้าน ตลิ่งชัน 14 ร้าน ทวีวัฒนา 36 ร้าน ธนบุรี 20 ร้าน ทุ่งครุ 14 ร้าน วัฒนา 36 ร้าน คลองสามวา 11 ร้าน ดินแดง 36 ร้าน ดอนเมือง 25 ร้าน ห้วยขวาง 19 ร้าน พระโขนง 6 ร้าน พระนคร 19 ร้าน พญาไท 22 ร้าน ราชเทวี 21 ร้าน สวนหลวง 30 ร้าน สัมพันธวงศ์ 6 ร้าน วังทองหลาง 18 ร้าน และปทุมวัน 19 ร้าน

ส่วนปริมณฑล มี 310 ร้าน ได้แก่ นนทบุรี 113 ร้าน ปทุมธานี 89 ร้าน นครปฐม 46 ร้าน สมุทรปราการ 22 ร้าน และสมุทรสาคร 40 ร้าน

ในส่วนของต่างจังหวัดมีทั้งสิ้น 44 จังหวัด จำนวน 651 ร้าน ได้แก่ กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร จันทบุรี ชลบุรี ชัยนาท เชียงราย ตรัง ตาก ตราด พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี เพชรบูรณ์ แพร่ พังงา พะเยา พิษณุโลก มหาสารคาม มุกดาหาร ยะลา ยโสธร ร้อยเอ็ด ระนอง ระยอง ราชบุรี นครนายก นครพนม นครราชสีมา นครศรีธรรมราช น่าน บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี ลำปาง เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สงขลา สตูล สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี สมุทรสงคราม สุโขทัย อุทัยธานี อุตรดิตถ์ และอุบลราชธานี

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2557