สสว.ยกเครื่องเอสเอ็มอีเข็นรายได้โต 1%

[brid.siriwan]

สสว.ยกเครื่องเอสเอ็มอีเข็นรายได้โต 1%

สสว.เผยแผนเร่งด่วนปี 58 ยกระดับเอสเอ็มอีไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น เล็งตั้งศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จเพิ่มเติม

น.ส.วิมล กานต์ โกสุมาส รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ปี 58 สสว.มีแผนเร่งด่วน ที่จะยกระดับให้เอสเอ็มอีไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น ตามยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลประกาศให้เอสเอ็มอีเป็นวาระแห่งชาติ โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้ของเอสเอ็มอีทั้งระบบ ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวม ในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 1% ในปี 59 คิดเป็นมูลค่า 3 แสนล้านบาท

ปีหน้า สสว.จะเร่งจัดตั้งศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (โอเอสเอส) เพื่อให้คำแนะนำ คำปรึกษาด้านกฎหมาย การลงทุน และความช่วยเหลือด้านเงินทุน เช่น อัตราเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำพิเศษ รวมถึงการวางแผนด้านการตลาดในสื่อออนไลน์ เพื่อเป็นช่องทางการขายสินค้าได้ มากขึ้น เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันมีศูนย์ให้บริการแล้ว 5 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ รองรับเอสเอ็มอี ที่เป็นผู้ผลิต และจำหน่ายสินค้าในประเทศเป็นหลัก มีเพียง28% ของเอสเอ็มอีที่มีอยู่กว่า 2.7 ล้านราย ที่ผลิตและจำหน่ายสินค้าเพื่อส่งออก

นอกจากนี้ สสว.และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)ยัง ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ทันสมัยจากการศึกษาวิจัยของสถาบันอุมดมศึกษาต่าง ๆ ที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ รวมทั้งจะจัดให้ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่วประเทศเพื่อให้เข้าถึงความช่วยเหลือและได้รับสนับสนุนจากภาครัฐได้อย่างทั่วถึง

นอก จากนี้ สสว. ยังร่วมกับองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง สมาคมการค้าไทย-ฮ่องกง ดำเนินโครงการผู้ประกอบการไทยก้าวสู่ตลาดนานาชาติ เพื่อกระตุ้นผู้ประกอบการให้ขยายตลาดสินค้างานสร้างสรรค์สู่นานาชาติ โดยโครงการดังกล่าวนี้ เป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางโทรศัพท์มือถือ และโซเชียลมีเดีย ในรูปแบบของการประกวดวีดิทัศน์ผลงานสร้างสรรค์ เกี่ยวกับสินค้าของผู้ประกอบ การเอสเอ็มอีไทย โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องใช้ในครัวเรือน ของขวัญ และของที่ระลึก งานหัตถกรรม ซึ่งผู้ประกอบการส่งผลงานเข้าร่วมประกวด ด้วยการอัพโหลดวีดิโอแนะนำสินค้าของตนเองผ่านโซเชียลมีเดีย พร้อมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานสู่สาธารณชนผ่านเฟสบุ๊ก และเปิดให้โหวตผลงานที่ชื่นชอบผ่านช่องทางดังกล่าว

ทั้งนี้ จะเปิดรับสมัครผลงานตั้งแต่วันนี้ จนถึงเดือนธ.ค. 57 โดยผลงานที่ดีที่สุด 10 อันดับ ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย จะได้รับการอบรมความรู้เรื่องการสร้างแบรนด์และการตลาดออนไลน์ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าร่วมงานแสดงสินค้าใน สมอลล์ ออเดอร์ โซน ซึ่งเป็นโซลูชั่นการตลาดแบบ บี2บี (ออนไลน์ -ทู -ออฟฟิต) ที่รวมการแสดงสินค้าในงานและช่องทางการทำการค้าแบบออนไลน์เข้าไว้ด้วยกัน โดยจะจัดอยู่ในงานแสดงสินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือน ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเซีย และงานของขวัญและของที่ระลึก ที่ประเทศฮ่องกง ในช่วงปลายเดือนเม.ย.58


ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2557