เค-เอสเอ็มอีร่วมทุนมีเดีย-อุปกรณ์ทำสวน

[brid.siriwan]

เค-เอสเอ็มอีร่วมทุนมีเดีย-อุปกรณ์ทำสวน

เค-เอสเอ็มอีเข้าร่วมลงทุนกับ 2 บริษัท วงเงิน 49 ล้านบาท หวังเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ พร้อมร่อนหนังสือถึงธปท.ขยายเวลาเป็น 10 ปี

นายพิภวัตว์ ภัทรนาวิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า บริษัท ร่วมทุน เค-เอสเอ็มอีได้เข้าไปลงทุนกับ 2 บริษัท วงเงิน 49 ล้านบาท เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ คือบริษัท ตี๋ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ดำเนินธุรกิจหลักรับจัดกิจกรรม-คอนเสิร์ต ที่ปรึกษาด้านการตลาดรวมทั้งธุรกิจการจัดการด้านการตลาดผ่านสื่อดิจิตอลและสื่อออนไลน์ พร้อมทั้งยังประกอบธุรกิจร้านขายก๋วยเตี๋ยวเรือ “สะบัดเส้น” และร้านอาหารตลอด 24 ชั่วโมง ภายใต้แบรนด์ “ที24” โดย เข้าถือหุ้น 33.83% คิดเป็นวงเงิน 45 ล้านบาท นอกจากนี้ได้ลงทุนกับบริษัท ซินโค่ ลิฟวิ่ง จำกัด ในวงเงิน 4 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 31.01 % ซึ่งทำธุรกิจออกแบบและจำหน่ายอุปกรณ์ทำสวนภายใต้ตราสินค้าดูโก้

“ธนาคารฯ ถือเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งเดียวที่มีการร่วมทุนแบบเวนเจอร์ แคปปิตอล ด้วยการจัดตั้ง บริษัท ร่วมทุน เค-เอสเอ็มอี จำกัด เพื่อร่วมลงทุนกับเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพและต้องการหาเงินทุนขยายธุรกิจ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการเงินร่วมลงทุน ข้าวกล้า จำกัด (บลท.ข้าวกล้า) เป็นผู้บริหารเงินลงทุนและคัดเลือกเอสเอ็มอีตั้งแต่ปี 50 ซึ่งที่ผ่านมาได้เข้าร่วมลงทุนในธุรกิจเอสเอ็มอีไปแล้ว 19 ราย คิดเป็นวงเงินลงทุน 430 ล้านบาท มีเอสเอ็มอีที่ซื้อหุ้นคืนไปแล้ว 6 ราย อีก 3 ราย นำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ และยังมีวงเงินที่เหลือจะเข้าร่วมทุนอีกไม่เกิน 100 ล้านบาท”

สำหรับผลตอบแทนจากการเข้าไปถือหุ้นในเอสเอ็มอี จะสูงกว่าผลตอบแทนจากการปล่อยกู้ เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงกว่า ซึ่งระยะเวลาการเข้าไปร่วมลงทุนจะใช้เวลา 3-5 ปี ขณะที่เกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดไว้ 7 ปี แต่อยู่ระหว่างยื่นเรื่องธปท.ขอขยายระยะเวลาเป็น 10 ปี ส่วนธุรกิจเอสเอ็มอีที่เข้าไปช่วยเหลือเป็นธุรกิจที่ธนาคารมองแล้วว่า มีอนาคต แต่มีหนี้สินต่อทุนสูง หากปล่อยเป็นเงินกู้เพิ่มอีก ธนาคารจะมีความเสี่ยง ดังนั้นจึงเป็นรูปแบบของการร่วมทุน ใส่เงินทุนจดทะเบียน ทำให้หนี้สินต่อทุนลดลงและธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อได้อีก และเมื่อเจ้าของมีศักยภาพก็สามารถซื้อหุ้นคืนได้ ธนาคารก็จะนำเงินไปช่วยเหลือเอสเอ็มอีรายอื่น ๆ ต่อไป


ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2557