ประจิน"จี้สุวรรณภูมิเฟส 2

[brid.siriwan]

"ประจิน"จี้สุวรรณภูมิเฟส 2

เตรียมลงพื้นที่จี้ตรวจสุวรรณภูมิเฟส 2 วันที่ 20 พ.ย.นี้ หลังไจก้า-แบงก์จีน สนใจปล่อยกู้สร้างระยะ2 วงเงิน 6.6 หมื่นล้านบาท หวังขยายอาคารเป็น 65 ล้านคน

พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า วันที่ 20 พ.ย.นี้ จะไปตรวจเยี่ยมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปดำเนินการการลงทุนจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. โดยกระทรวงคมนาคมมีนโยบายให้ทอท.เร่งขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 วงเงิน 6.6 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังจากการดำเนินงานช่วงที่ผ่านมา ล่าช้ามาก

ทั้งนี้เงินลงทุนโครงการสุวรรณภูมิระยะ2 มาจาก 3 ส่วน คือ เงินทุนของ ทอท. ,เงินกู้จากสถาบันการเงินในประเทศ และเงินกู้จากสถาบันการเงินต่างประเทศ เบื้องต้นมีสถาบันการเงินต่างชาติอย่างน้อย 2 ราย คือ องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น(ไจก้า) และธนาคารสัญชาติจีน ที่ให้ความสนใจปล่อยกู้โครงการนี้ เบื้องต้นจะพิจารณาแหล่งเงินทุนในประเทศเป็นหลักก่อน แต่หากกู้เงินในประเทศเพียงพอ ก็ไม่จำเป็นต้องกู้ต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ ทอท.กำลังพิจารณาสัดส่วนแหล่งเงินทุนที่เหมาะสม คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้

​พลอากาศเอกประจิน กล่าวว่า การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 การก่อสร้างช่วงแรกจะมี 3 โครงการ กำหนดแล้วเสร็จปี 61 รองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 65 ล้านคน เพิ่มจากปัจจุบัน 45 ล้านคน ประกอบด้วย การก่อสร้างลานจอดอากาศยาน 28 หลุมจอด แบ่งเป็นหลุมจอดระยะไกล 8 หลุมจอด ซึ่งจะรองรับเครื่องบินแอร์บัส เอ -380 ส่วนอีก 20 หลุมจอด จะรองรับเครื่องบินโบอิง 747-400 รวมทั้งระบบทางขับเข้าสู่ลานจอด และสิ่งอำนวยความสะดวก อุโมงค์ส่วนต่อขยาย เพื่อเป็นถนนเชื่อมต่อในเขตปฏิบัติการบิน ระบบไฟฟ้า และระบบสาธารณูปโภค สถานีไฟฟ้าย่อย ระบบประปา ระบบน้ำเสีย และระบบจัดการขยะ วงเงินรวม 1.8 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ก่อสร้างทางวิ่งสำรองความยาว 2,900 เมตร วงเงิน 1.9 หมื่นล้านบาท เพื่อลดความแออัดจากการปิดซ่อมทางวิ่งที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ขณะนี้กำลังว่าจ้างบริษัทศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ และโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ด้านทิศเหนือของอาคารเทียบเครื่องบินเอพื้นที่ 214,000 ตารางเมตร ซึ่งจะให้บริการ ทั้งผู้โดยสารภายในประเทศ ผู้โดยสารระหว่างประเทศ และพื้นที่สำนักงานสายการบิน รวมทั้งติดตั้งสายพานลำเลียงสัมภาระเชื่อมต่อระหว่างอาคารผู้โดยสารหลักกับระบบสายพานลำเลียงในปัจจุบัน และปรับปรุงลานจอดอากาศยานให้สอดคล้องกับอาคารผู้โดยสารหลังใหม่

ขณะเดียวกันจะต้องปรับปรุงหลุมจอดอากาศยานออกแบบ และก่อสร้างระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติเพื่อเชื่อมการเดินทางจากอาคารผู้โดยสารหลังเดิมกับอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ และเชื่อมการเดินทางไปยังสถานีรถไฟฟ้า แอร์พอร์ต เรล ลิงค์ รวมทั้งการออกแบบและก่อสร้างอาคารจอดรถยนต์ 2,500 – 3,000 คัน ก่อสร้างระบบถนนภายในท่าอากาศยาน ระบบสาธารณูปโภควงเงิน 2.9 หมื่นล้านบาท

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2557