ปปง.ยึดทรัพย์รีสอร์ทบ้านทะเลหมอก

[brid.siriwan]

ปปง.ยึดทรัพย์รีสอร์ทบ้านทะเลหมอก

บอร์ด ปปง. มีมติยึดและอายัดทรัพย์คดีรีสอร์ทบ้านทะเลหมอก รุกที่อุทยานแห่งชาิตทับลาน และคดีลักทรัพย์ต่อเนื่องในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 6

เมื่อวันที่ 20 พ.ย. พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม โดยมีมติยึดและอายัดทรัพย์สิน 2 คดี จำนวนกว่า 2,000 รายการ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ประกอบด้วย คดีบุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติ และเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ส่งเรื่องให้ ปปง. ตรวจสอบทรัพย์สินห้างหุ้นส่วนจำกัดบ้านทะเลหมอกรีสอร์ทกับพวก มีพฤติการณ์ร่วมกันปลูกสร้างอาคารโรงแรม บ้านพัก จำนวน 11 หลัง ฝายน้ำ 4 ฝาย และปักเสาคอนกรีตโครงสร้างอาคาร 1 หลัง เพื่อประกอบกิจการให้บริการสถานที่พักตากอากาศรีสอร์ท บริเวณป่าแก่งดินสอ ป่าแก่งใหญ่ และป่าเขาสะโตน ซึ่งเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ และเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเป็นมูลฐานความผิดตามมาตรา 3(15) ของ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ทั้งนี้การตรวจสอบธุรกรรมพบทรัพย์สินที่มีเหตุอันควรเชื่อว่าเป็นทรัพย์สินทีได้มาจากการกระทำความผิด รวม 14 รายการ มูลค่า 8 ล้านบาท ประกอบด้วยรถยนต์ 3 คัน บัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆ 5 บัญชี และสลากออมสินพิเศษ 6 ใบ จำนวน 7,540,000 บาท

เลขาธิการ ปปง. กล่าวต่อว่า กรมอุทยานฯมีหน้าที่ในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง แต่ ปปง.มีหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรม เพื่อยึดและอายัดทรัพย์ทั้งหมดที่ได้มาจากการกระทำผิด ซึ่งกรณีนี้คือการบุกรุกที่ดินรัฐเพื่อประกอบธุรกิจ โดยกรณีดังกล่าว ปปง.พบประกอบธุรกิจตั้งแต่ปี 2542-2555 ขณะนี้ได้ปิดกิจการและถูกรื้อถอนไปแล้ว ปปง.ขอให้อุทธาหรณ์สำหรับผู้ประกอบการที่ร่ำรวยจากการทำผิดกฎหมาย เพราะจะต้องถูกยึดเงินในบัญชีทุกบัญชี พร้อมเตือนผู้ประกอบการที่ยังฝ่าฝืนทำธุรกิจบุกรุกว่า ยิ่งทำธุรกิจต่อไปเรื่อยๆ ปปง.ก็จะยึดและอายัดทรัพย์ต่อไปเรื่อยๆ ตามผลประโยชน์ที่มากขึ้น ที่ผ่านมาผู้ประกอบธุรกิจคิดว่า เมื่อถูกรื้อถอนก็สร้างใหม่ได้ หลังจากนี้ต้องคิดใหม่ เพราะ ปปง.เน้นยึดทรัพย์จากความร่ำรวย โดยขณะนี้ยังมีคดีบุกรุกในลักษณะเดียวกันอีกหลายพื้นที่เฉพาะที่เขตอุทยานแห่งชาติทับลานมีอีกกว่า 10 แห่ง

พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวอีกว่า อีกคดีที่ ปปง.มีมติยึดทรัพย์ เป็นคดีที่สืบเนื่องจากการร้องขอของตำรวจภูธรภาค 6 คือ คดีลักทรัพย์อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่องหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง ตั้งแต่ปี 2539-2556 มีนายจิรทีปต์ รอดพงษ์ นายจักรพันธ์ รอดพงษ์ และนายอดิศักดิ์ คงเมือง และพวกเป็นผู้ต้องหา โดยทั้งหมดมีประวัติก่อคดีลักทรัพย์โชกโชน อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ เข้าข่ายมูลฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน พบทรัพย์สินของกลาง จำนวน 1,983 รายการ ประเมินมูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินสด พระเครื่อง วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง ทองคำ ปลัดขิก จตุคาม พระพุทธรูปบูชาขนาดหน้าตักต่างๆ เครื่องประดับ นาฬิกา กล้องถ่ายภาพ ของกลางบางส่วนได้ให้ผู้เสียหายนำหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์เพื่อรับคืนไปแล้ว ส่วนที่เหลือหากไม่มีผู้แสดงความเป็นเจ้าของเพื่อรับคืน จะตกเป็นทรัพย์ของแผ่นดิน.

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2557