กูเกิล ผุดโครงการ “Google Ignite” สร้างต้นน้ำดิจิตอลมาร์เกตต

[brid.siriwan]

กูเกิล ผุดโครงการ “Google Ignite” สร้างต้นน้ำดิจิตอลมาร์เกตติ้ง

พรทิพย์ กองชุน และไมเคิล จิตติวาณิชย์
“กูเกิล” เล็งผลระยะยาวหวังสร้างบุคลากรทางด้านการตลาดดิจิตอล ผุดโครงการ “Google Ignite” เพื่อเป็นหลักสูตรสร้างนักการตลาดออนไลน์ ก่อนป้อนเข้าสู่ดิจิตอลเอเยนซี เพื่อให้ลูกค้าที่เป็นกลุ่มองค์กรธุรกิจหันมาให้ความสำคัญต่อการตลาดออนไลน์มากขึ้น

น.ส.พรทิพย์ กองชุน หัวหน้าฝ่ายการตลาด กูเกิล ประเทศไทย ให้ข้อมูลถึงพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคในประเทศไทย มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากข้อมูลล่าสุดของ กสทช. ระบุว่า ปัจจุบันมีผู้ใข้งานสมาร์ทโฟนที่เข้าถึง 3G แล้วประมาณ 43 ล้านราย

นอกจากนี้ ยังมีผลสำรวจถึงปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตถึง 23 ชั่วโมง 30 นาที ต่อสัปดาห์ในขณะที่การรับข่าวสารผ่านโทรทัศน์จะอยู่ที่ 16.37 ชั่วโมง สื่อหนังสือพิมพ์ 3.25 ชั่วโมง และสื่อนิตยสารที่ราวๆ 2 ชั่วโมง

ในขณะที่การเติบโตของธุรกิจในส่วนของตลาดดิจิตอล มีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากปีที่ผ่านมา (2013) มูลค่าตลาดจะอยู่ที่ 4,248 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 53% และคาดว่าในปีนี้ก็จะมีอัตราการเติบโตที่ใกล้เคียงกัน

“ปัญหาที่เกิดขึ้นในวงการตลาดดิจิตอลคือ ไม่มีบุคลากร เพราะจากการสำรวจกว่า 86% ของเอเยนซี และบริษัทชั้นนำมีปัญหาขาดแคลนบุคลากร โดยแบ่งเป็น 3 เหตุลผลหลักๆ คือ บุคลากรไม่มีประสบการณ์ 77% ไม่มีความรู้ทางด้านดิจิตอล 47% และ 33% ไม่มีโอกาสเข้าถึงบุคลากรที่มีความรู้”

ที่สำคัญคือ ทั้งบริษัทเอเยนซี และบริษัทขนาดใหญ่กว่า 80% ต้องการบุคลากรที่มีประกาศนียบัตรทางด้านที่เกี่ยวข้องกับการตลาดออนไลน์ ทำให้โครงการ “Google Ignite” ถือเป็นทางออกที่สำคัญในการพัฒนาเพราะกูเกิลมีพาร์ตเนอร์ที่มีองค์ความรู้ค่อนข้างมาก

นายไมเคิล จิตติวาณิชย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดด้านธุรกิจ กูเกิล ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า กูเกิลหันไปให้ความสำคัญต่อต้นน้ำมากขึ้น จากเดิมที่เน้นเข้าไปหาองค์กรธุรกิจขนาดกลางและย่อย เพื่อให้เข้ามาทำตลาดออนไลน์มากขึ้น แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จึงหันมาทำตลาดควบคู่กับทางดิจิตอลเอเยนซีมากขึ้น และได้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นในกลุ่มของดิจิตอลเอเยนซี ส่งผลให้มองย้อนไปถึงการสร้างบุคลากร เพื่อให้ท้ายที่สุดกลายเป็นต้นน้ำส่งถึงปลายน้ำเพื่อให้ธุรกิจทำการตลาดดิจิตอลมากขึ้น

โดยโครงการ “Google Ignite” จะแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลักๆ คือ การเปิดลงทะเบียนให้นักศึกษาทั้งปริญญาตรี ปริญญาโท หรือบุคคลทั่วไปสมัครเข้าไปเรียน ถัดมาคือ ส่วนของการให้ความรู้ที่มีทั้งแบบออนไลน์ และออฟไลน์ ด้วยการที่กูเกิลเข้าร่วมกับ 2 มหาวิทยาลัย คือ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มีการเปิดสอนวิชาเฉพาะให้แก่นักศึกษา

ในขณะที่ยังมีอีก 38 มหาวิทยาลัยที่เข้าไปเชิญชวนให้นักศึกษาสามารถเข้าไปหาความรู้ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ รวมกับบุคคลทั่วไป โดยมีผู้ที่มาให้ความรู้ทั้งจากพันธมิตรต่างๆในวงการธุรกิจ และดิจิตอลเอเยนซี

ตอนนี้ Google Ignite เปิดสอน 3 หัวข้อหลัก คือ ความรู้พื้นฐานการตลาดออนไลน์ การทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มการค้นหา และการทำโฆษณาแบนเนอร์ ซึ่งแต่ละวิชาใช้เวลาเรียนประมาณ 8 ชั่วโมง

ถัดมาเป็นส่วนของการสอบ เพื่อให้ได้รับประกาศนียบัตร (Certification) ที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลกในแต่ละวิชา และสุดท้ายการสร้างประสบการณ์ ให้โอกาสนักศึกษาได้ฝึกงาน ได้ทดลองทำงานจริงๆ รวมถึงโอกาสในการเข้าร่วม Career Fair

ทั้งนี้ ตั้งแต่เปิดตัวโครงการในเดือนกันยายน 2557 มีนักศึกษาที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกว่า 4,000 ราย ในจำนวนนี้ 2,500 ราย ได้รับการฝึกฝนแล้ว และมีนักศึกษาที่ผ่าน 1 ข้อสอบ 220 คน ผ่านการรับรองมากกว่า 2 ข้อสอบ 150 คน

“เป้าหมายของ Google Ignite ในปีหน้าจะเน้นไปที่การเพิ่มจำนวนมหาวิทยาลัยที่เปิดสอน พร้อมไปกับเพิ่มวิชาเรียนที่ถือเป็นเทรนด์การตลาดดิจิตอล อย่าง วิดีโอมาร์เกตติ้ง รวมไปถึงการเพิ่มกิจกรรมเวิร์กชอป โดยเป้าหมายหลักยังอยู่ที่กลุ่มนักศึกษาอยู่เช่นเดิม เพียงแต่จะมีการโปรโมตผ่านช่องทางออนไลน์ให้บุคคลทั่วไปด้วย”

นายอรรถวุฒิ เวศรานุรักษ์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อแดปเตอร์ ดิจิตอล เอเจนซี ให้ข้อมูลถึงเทรนด์การตลาดที่จะมาในปีหน้าคือ เรื่องของการทำครอสแชนเนล ที่ผู้บริโภคมีการใช้งานร่วมกันหลากหลายแพลตฟอร์ม จะมาเป็นส่วนสำคัญในการทำตลาด

ขณะที่แนวโน้มการลงทุนทางด้านสื่อดิจิตอลจะมีการเติบโต 50-100% เพราะหลายองค์กรเริ่มมองหาการวางแผนธุรกิจในระยะยาวจากเดิมที่ทำตลาดออนไลน์เป็นแต่ละแคมเปญ ที่สำคัญคือเป็นทิศทางที่มาจากผู้บริหารระดับสูง ไม่ใช่มาจากส่วนการตลาดของแต่ละบริษัท

Company Relate Link :
Google

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2557