?เทคโนโลยีก้าวหน้าเพิ่มโอกาสรอดแก่เด็กผสมเทียม?

Post Reply
brid.ladawan
Posts: 7045
Joined: 29 Mar 2013, 13:36

?เทคโนโลยีก้าวหน้าเพิ่มโอกาสรอดแก่เด็กผสมเทียม?

Post by brid.ladawan »

?เทคโนโลยีก้าวหน้าเพิ่มโอกาสรอดแก่เด็กผสมเทียม?
นักวิทยาศาสตร์เผย เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ก้าวหน้า ช่วยให้เด็กที่เกิดจากการผสมเทียมมีโอกาสรอดมากขึ้น


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ว่า วารสารทางการแพทย์ 'ฮิวแมน รีโพรดักชัน' เผยผลการศึกษาการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ (เออาร์ที) ใน 4 ประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ได้แก่ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน จากการศึกษาของนางอันนา-คารินา แอริส เฮนนิงเซน แห่งมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เมื่อวันพุธ ระบุว่า เทคโนโลยีและแนวทางที่ได้รับการพัฒนา ช่วยให้เด็กที่เกิดจากการผสมเทียมมีโอกาสรอดชีวิตและมีสุขภาพแข็งแรงมากขึ้น

จากการสำรวจข้อมูลใน 4 ประเทศ ระหว่างปี 2531 - 2550 มีเด็กกว่า 92,000 คน เกิดจากการใช้เออาร์ทีในรูปแบบต่างๆ ในจำนวนนี้ กว่า 62,000 คน เกิดแบบเดี่ยว และอีกกว่า 29,000 คน เกิดแบบแฝด นักวิทยาศาสตร์ศึกษาโดยเปรียบเทียบสุขภาพในอายุช่วงปีแรกตั้งแต่แรกเกิด ของทารกในกลุ่มเออาร์ทีและทารกที่เกิดจากวิธีธรรมชาติ พบว่าความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดของกลุ่มเออาร์ทีลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเด็กเออาร์ทีที่เกิดเดี่่ยวและมีน้ำหนักตัวน้อยหรือน้อยมา ซึ่งหมายถึงต่ำกว่า 2,500 กรัม และ 1,500 กรับ ตามลำดับ ก็มีสัดส่วนที่ลดลงเช่นกัน

นอกจากนี้ยังพบว่า เด็กกลุ่มเออาร์ทีทั้งเดี่ยวและแฝด มีอัตราการเสียชีวิตตั้งแต่แรกเกิดและเสียชีวิตในช่วงอายุขวบปีแรกลดลง และเมื่อเปรียบเทียบเฉพาะเด็กแฝด อัตราการเสียชีวิตในขวบปีแรกของกลุ่มเออาร์ที มีน้อยกว่าเด็กแฝดธรรมชาติ ในช่วงระหว่างปี 2531 - 2535 อัตราการคลอดก่อนกำหนดของเด็กเกิดเดี่ยวในกลุ่มเออาร์ทีอยู่ที่ร้อยละ 13 ส่วน กลุ่มตั้งครรภ์ตามธรรมชาติอยู่ที่ร้อยละ 5 โดยข้อมูลของปี 2550 ระบุว่า อัตราส่วนของเออาร์ทีลดลงเหลือร้อยละ 8 ขณะที่กลุ่มตั้งครรภ์ตามธรรมชาติยังคงที่ที่ร้อยละ 5

ฮันนิงเซน กล่าวว่า มีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในทางบวกที่ปรากฏ ไม่ว่าจะเป็นการผสมเทียมที่มีคุณภาพมากขึ้นก่อนนำไข่ใส่กลับเข้าไปที่มดลูกของมารดา รวมถึงฮอร์โมนที่ใช้กระตุ้นการตกไข่ ก็ได้รับการพัฒนาให้มีกลไกการทำงานที่อ่อนโยนและเป็นมิตรต่อร่างกายมากขึ้น นอกจากนี้ แนวทางและนโยบายในการปฏิบัติก็มีส่วนสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะการปรับแนวคิดให้สนับสนุนการฝังตัวอ่อนเพียงหนึ่งเดียวในแต่ละครั้ง เพราะถึงแม้การฝังตัวอ่อนหลายตัว จะช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จ แต่ก็เสี่ยงต่อการกลายเป็นแฝด ซึ่งอาจส่งผลถึงน้ำหนักตัวแรกเกิดและปัญหาแทรกซ้อนทางสุขภาพของเด็กได้ โดยระหว่างปี 2532 - 2545 สัดส่วนเด็กแฝดเออาร์ทีใน 4 ประเทศนี้อยู่ที่ประมาณร้อยละ 23 ก่อนจะค่อยๆ ลดลง มาอยู่ที่ร้อยละ 11.6 ในปี 2550.

ขอบคุณภาพจาก www.vijaya-ivf.com


ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 22 มกราคม 2558
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”