"สุภัค ลายเลิศ" ดัน "ยิบอินซอย" ผงาดอินโดไชน่า

Post Reply
brid.kavee
Posts: 256
Joined: 05 Apr 2013, 08:51

"สุภัค ลายเลิศ" ดัน "ยิบอินซอย" ผงาดอินโดไชน่า

Post by brid.kavee »

ladawan
Hero Member
*****
Posts: 824


View Profile Email


"สุภัค ลายเลิศ" ดัน "ยิบอินซอย" ผงาดอินโดไชน่า
« on: February 13, 2013, 09:56:56 am »

"สุภัค ลายเลิศ" ดัน "ยิบอินซอย" ผงาดอินโดไชน่า


กรุงเทพไอที สัมภาษณ์พิเศษ "นายสุภัค ลายเลิศ" รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท ยิบอินซอย จำกัด ที่ปรึกษาและผู้ให้บริการด้านธุรกิจซอฟต์แวร์ "นายสุภัค" เป็นลูกชายคนโตของ "นายเทียนชัย ลายเลิศ" ผู้ก่อตั้งบริษัท ที่ปัจจุบันนั่งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ เขาได้รับมอบหมายให้ดูส่วนงานด้านไอทีทั้งหมดของบริษัท ที่ปัจจุบันเป็นฐานรายได้สำคัญยิบอินซอย

นายสุภัค ถือเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ที่นำความเปลี่ยนแปลงมากมายมายังบริษัท พร้อมกับสายสัมพันธ์ในการทำธุรกิจกับภาครัฐ เชี่ยวชาญเรื่องกฏระเบียบต่างๆ นั่นทำให้ยิบอินซอยสามารถกุมฐานลูกค้าภาครัฐไว้ได้อย่างแน่นหนา ถือเป็นฐานสร้างรายได้หลักให้บริษัทไม่ต่ำกว่า 80%

หากแต่ปีนี้ ยิบอินซอย พร้อมขยายฐานลูกค้าไปในภาคธุรกิจเอกชนมากขึ้น รวมถึงแผนขยายตลาดเจาะ "อินโดไชน่า" เป็นครั้งแรก พร้อมทั้งผนึกกำลังกับยักษ์ฟ้า "ไอบีเอ็ม" ให้บริการระบบวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ลุยลูกค้าในกลุ่มใหม่ๆ

ผนึกพาร์ทเนอร์ขยายลูกค้า

"ยิบอินซอย คงไม่ไปเทียบกับบริษัทอื่นที่ดำเนินธุรกิจโดยครอบครัวเหมือนกัน คงไม่ผงาดเทียบชั้นกับเขา แต่ยิบอินซอย คือ บริษัทไอทีสัญชาติไทย100% เน้นความเป็นวิชาชีพด้านไอที เราไม่ใช่เป็น money engine ที่มุ่งเน้นแต่เรื่องเงินอย่างเดียว เน้นบริหารงานแบบมืออาชีพ ผนึกกำลังร่วมกับพาร์ทเนอร์ผู้นำด้านซอฟต์แวร์ และให้บริการสิ่งที่ดีที่สุดไปยังลูกค้า"

นายสุภัค กล่าวว่า ปีนี้ธุรกิจของยิบอินซอยอาจต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย โดยเฉพาะการเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีใหม่ พฤติกรรมความต้องการของลูกค้าที่ไม่เหมือนเดิม ผู้ให้บริการเทคโนโลยีจึงควรหาวิธีใหม่ ขยายฐานไปยังลูกค้ากลุ่มอื่นมากขึ้น

"ปีนี้ เรายังเดินหน้าเป็นผู้ให้บริการติดตั้งระบบซอฟต์แวร์ หรือเอสไอ ซึ่งในอดีตยิบอินซอย อาจเน้นลูกค้าในกลุ่มราชการถือเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้หลัก ขับเคลื่อนการเติบโตของยิบอินซอยแต่ระยะหลัง เราหันมาเน้นบริษัทเอกชนมากขึ้น คิดเป็นสัดส่วนอย่างละครึ่ง โดยเฉพาะในกลุ่มสถาบันการเงิน ธนาคาร ผู้ให้บริการโทรคม กลุ่มแมนูแฟคเจอริ่ง ซึ่งผมถือว่า เป็นกลุ่มที่ยังมีความต้องการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์เพื่อการบริหารจัดการข้อมูล ที่ปัจจุบันถือเป็นความท้าทายของธุรกิจต่างๆ ที่ต้องมีวิธีจัดการข้อมูลในลักษณะข้อมูลเชิงวิเคราะห์"

"ภาครัฐ" ฐานรายได้สำคัญ

กลุ่มภาครัฐที่ถือว่า มีความสัมพันธ์อย่างยาวนานกับ "ยิบอินซอย" คือ กรมศุลกากร ระบบแบ็คออฟฟิศ ระบบริหารจัดการใบขน เกตเวย์ต่างๆ ยิบอินซอยเป็นคนดูแล รวมไปถึงเทคโนโลยีด้านอาร์เอฟไอดี ที่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างพัฒนา ยิบอินซอยก็มีบทบาทสำคัญอีกเช่นกัน รวมไปถึงลูกค้าหลัก อย่างกระทรวงการคลัง การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)

"กับกรมศุลกากร ถือว่า เป็นโครงการต่อเนื่อง บริษัทมีทีมงานประจำอยู่ที่กรมศุลฯ กว่า 100 คน ในการดูแลระบบหลังบ้าน ระบบจัดการใบขนเพื่อให้สามารถเชื่อมต่อการทำงานระหว่างกรมศุลฯ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ให้เป็นไปอย่างราบรื่น เฉพาะกรมศุลฯ เรามีรายได้จนถึงปัจจุบันมากกว่า 100 ล้านบาท รวมถึงกระทรวงการคลัง และกฟน.เอง ลูกค้ากลุ่มนี้ ยิบอินซอยมีความสัมพันธ์เชิงลึก เราดูแลระบบไอทีให้เขาเต็มที่ ดังนั้นกลุ่มภาครัฐปีนี้ยังต้องเน้นอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการต่อเนื่อง"

รวมถึงการดูแลระบบแบ็ค ออฟฟิศให้กลุ่มลูกค้าธนาคาร เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะระบบช่วยบริหารจัดการความเสี่ยงภาคธนาคาร ที่ถือว่ายังมีพื้นที่ให้ทำตลาดได้อยู่ ซึ่งลูกค้าต้องการความชำนาญเฉพาะด้าน ยิบอินซอย จึงเน้นจับคู่ร่วมพาร์ทเนอร์ที่มีความแข็งแกร่งในด้านนั้นๆ เพื่อสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ตรง

ชู "เพียวดาต้า" ลุยลูกค้าองค์กร

ล่าสุด ยิบอินซอย จับมือกับไอบีเอ็ม ให้บริการเทคโนโลยีใหม่ เพียวดาต้า ซิสเต็ม (PureData System) หนุนองค์กรเตรียมความพร้อมรับมือความท้าทายยุค "บิ๊ก ดาต้า" ที่ข้อมูลปริมาณมหาศาลกำลังส่งผลต่อการบริหารงาน ชูจุดแข็งเป็นระบบที่กลั่นกรองข้อมูลเชิงลึกได้ฉับไว ช่วยลูกค้าจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลหลายเพทาไบต์ได้มีประสิทธิภาพ

"ธุรกิจยุคนี้มีความท้าทายเรื่องข้อมูลปริมาณมหาศาล ต้องวิเคราะห์และจัดการเป็นระบบ โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีก การเงินธนาคาร ซึ่งเราขายระบบนี้ให้ลูกค้าแล้ว 2 ราย คือ กลุ่มค้าปลีก และการเงิน กำลังเข้าไปคุยกับลูกค้ากลุ่มอื่นๆ เพิ่มที่มองไว้ คือ ผู้ให้บริการโทรคม ถือเป็นกลุ่มที่มีความท้าทายมาก โดยเฉพาะการเปิดให้บริการ 3จี ทำให้กลุ่มโทรคมต้องปรับเปลี่ยนระบบเพื่อรองรับลูกค้ามากพอสมควร อาจต้องขยายสตอเรจ พัฒนาระบบหลังบ้านให้พร้อมมากขึ้นในการรับลูกค้าใหม่"

เฉพาะมูลค่าตลาดสตอเรจ ที่ต้องรองรับข้อมูลมหาศาล ผู้บริหารยิบอินซอย ประเมินว่า ปีนี้มูลค่าตลาดจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 30-40% โดยเฉพาะเอ็นเตอร์ไพร์ส สตอเรจ

เขากล่าวว่า ระบบเพียวดาต้า จะสามารถช่วยวิเคราะห์ หรือกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึกได้เรียลไทม์ ซึ่งเชื่อว่า กลุ่มโทรคม มีความจำเป็นที่ต้องใช้ระบบดังกล่าว เช่นเดียวกับกลุ่มลูกค้าในภาคบริการ อย่างค้าปลีก การเงิน ธนาคาร เฮลธ์แคร์

"ผมเชื่อว่า กลุ่มธุรกิจในไทยยังใช้ระบบบีไอ (Business Intelligence) หรือระบบวิเคราะห์ธุรกิจอัจฉริยะ ไม่เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น ยังมีลูกค้าอีกมากพอสมควรในตลาดนี้"

ขณะที่ ระบบซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก จะเป็นเทรนด์สำคัญของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์นับจากนี้ คาดว่าจะเติบโตเป็น 100%

ตั้งทีมบุกตลาด "อินโดไชน่า"

นายสุภัค กล่าวด้วยว่า ปีนี้ ยิบอินซอย ยังวางแผนที่จะบุกตลาดในกลุ่ม "อินโด ไชน่า" อย่าง ลาว พม่า กัมพูชา และเวียดนาม โดยเบื้องต้นเข้าไปคุยกับบริษัทไอทีในเวียดนามบ้างแล้ว จะเข้าไปในลักษณะเป็นดิสทริบิวเตอร์ขายของก่อน พร้อมเล็งขยายตลาดไปยังประเทศที่เหลือ ส่วน "พม่า" อยู่ระหว่างศึกษาตลาด เพราะโครงสร้างพื้นฐานยังไม่พร้อมมาก

"ถือว่าเป็นปีแรกของยิบอินซอย ที่มีแผนเจาะไปตลาดต่างประเทศ ที่เลือกอินโดไชน่า เพราะแม้ว่าตลาดจะมีขนาดเล็ก แต่ถือว่ายังมีพื้นที่ให้เข้าไปขยายธุรกิจได้มาก สำหรับตลาดต่างประเทศ ยิบอินซอยตั้งทีมเฉพาะขึ้นมาดูตลาดนี้ ซึ่งอนาคต หวังว่า ตลาดนี้จะช่วยขยายฐานธุรกิจยิบอินซอยต่อยอดออกไปได้อีก"

ขณะที่ ภาพรวมของตลาดไอทีปีนี้ ผู้บริหารยิบอินซอย ประเมินว่า จะเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว จากอดีตวงจรการมีอยู่ของเทคโนโลยีอยู่ได้เป็น 10 ปี แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ธุรกิจต้องปรับตัว โดยเฉพาะธุรกิจด้านเอสไอ ต้องมีเทคนิคที่ดี ดูแลลูกค้าระยะยาวให้มากขึ้น ลูกค้าจะดูความเป็นมืออาชีพของผู้ให้บริการมากขึ้น จากเดิมไม่เน้น รวมทั้งต้องมีทีมขายที่ดี และเลือกโปรดักส์ บริการที่เหมาะสมกับลูกค้า

ปัจจุบัน ยิบอินซอย มีผลประกอบการราว 3,500 ล้านบาท มาจากกลุ่มธุรกิจไอทีราว 2,800 ล้านบาท โดยปีนี้จากการเดินหน้าโครงการต่อเนื่องในภาครัฐ การเงิน การผนึกกับไอบีเอ็มเข้าไปเจาะในตลาดภาคเอกชนที่มีการเติบโตอย่าง กลุ่มโทรคม รีเทล ฯลฯ รวมถึงการบุกเข้าไปในตลาดอินโดไชน่า คาดว่าจะมีรายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15%


ที่มา : ไอที-นวัตกรรม
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2556 11:30
เอกรัตน์ สาธุธรรม

Tags : สุภัค ลายเลิศ
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”