อันตรายของการติดจอ พร้อมคำแนะนำและวิธีป้องกันจากจักษุแพทย์

Post Reply
brid.ladawan
Posts: 7045
Joined: 29 Mar 2013, 13:36

อันตรายของการติดจอ พร้อมคำแนะนำและวิธีป้องกันจากจักษุแพทย์

Post by brid.ladawan »

อันตรายของการติดจอ พร้อมคำแนะนำและวิธีป้องกันจากจักษุแพทย์


ทุกวันนี้ คนใช้เทคโนโลยี และ ไอทีกันมากมาย…จนลืมห่วงใยสุขภาพ มีผลสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2557 โดยส่วนงานดัชนีและสำรวจ สำนักยุทธศาสตร์ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) สังกัดกระทรวงไอซีที รายงานว่า ค่าเฉลี่ยของการใช้อินเตอร์เน็ตและระบบการสื่อสารออนไลน์ต่อสัปดาห์ของคนไทยอยู่ที่ 50.4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือเฉลี่ยประมาณ 7.2 ชั่วโมงต่อวัน

เพิ่มขึ้น 2.6 ชั่วโมงต่อวันจากปี 2556 ที่พบว่าคนไทยใช้ชีวิตติดจออยู่ที่ประมาณ 4.6 ชั่วโมงต่อวัน แน่นอนส่งผลของสายตาด้วย
“ การจ้องคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตนานเกินไป จะเกิดปัญหาต่างๆตามมาโดยเฉพาะสุขภาพตา”

computer-vision-syndrome
รศ.นพ.นริศ กิจณรงค์ กรรมการราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ it24hrs on radio ว่า “ปัจจุบัน ยุคสังคมออนไลน์ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเยอะมากเป็นเวลานานด้วย ทำให้เกิดการใช้สายตามากเกินไป ทำให้เกิดปัญหาขึ้นตามมา คืออาการ computer vision syndrome ยิ่งคนใช้มือถือ จะดูตัวหนังสือที่แสดงในจอมีขนาดเล็ก คนที่สูงอายุ ที่มองใกล้ไม่ชัด ต้องเพ่งจอ ยิ่งเพ่งมากๆทำให้ปวดศรีษะ มีอาการเมื่อยล้าจากการใช้สายตาได้ หากคนเมาอ่านหนังสือ จ้องจอคอมพิวเตอร์ จะกระพริบตาน้อยลง กระพริบตาน้อย น้ำตาก็ระเหยออกไปเยอะ”
โรค computer vision syndrome

computer-vision-syndrome-01
เป็นโรคที่เกิดจากการใช้คอม และอุปกรณ์ไอทีทั้งหลายเช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เป็นเวลานานมากเกินไป จะมีอาการปวดศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน สายตาพร่ามัว มีอาการเมื่อยคอ ปวดหลัง ปวดแขน ปวดไหล่ ข้อเท้าเสื่อม
เราทราบได้เลยว่าเรามีอาการแบบนี้ ได้จาก การที่เราจ้องหน้าจอเป็นเวลานานแล้วเกิดอาการดังกล่างข้างต้น แสดงว่าคุณเป็น computer vision syndrome แล้ว

วิธีป้องกันอาการ computer vision syndrome
ให้นั่งในท่าที่เหมาะสม ผ่อนคลาย จอหงายขึ้น ให้เราสามารถก้มหน้าลงนิดนึง ( ก้มประมาณ 15 องศา ) กรณีนอนไม่ควรเอาหมอนมาหนุนคอ เพราะจะอันตรายมีโอกาสคอพับได้ และควรปรับความสว่างของจอให้เหมาะสม ถ้าสว่างมากไป ควรลดความสว่างหน้าจอลง

นอกจากนี้ สำหรับผู้สูงอายุและผู้มีปัญหาสายตาอยู่แล้ว เช่นสายตาสั้น สายตายาว ต้องปรับระยะในการมองมือถือหรือแท็บเล็ต ให้อยู่ในระยะที่ชัด หรือ ควรใส่แว่นให้เหมาะสม รวมทั้งการปรับความสว่างของจอ เพราะการใช้อุปกรณ์ไอทีในที่มืด จะทำให้มีความแตกต่างระหว่างรอบๆตัวเราที่มืดกับจอที่สว่างมาก สายเราก็จะล้ามากขึ้นได้ ไม่ควรใช้สายตาในการมองจอสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป โดยทั่วไปถ้าใช้อุปกรณ์ไอทีนาน 1-2 ชั่วโมง ควรพักสายตาบ้าง โดยหลับตา หรือมองวิวไกลๆ ก็ช่วยแก้ปัญหาอาการนี้ได้
ผลไม้ตระกูลเบอรี่สามารถบรรเทาปัญหาทางสายตาได้จริงหรือไม่ ?

berry
รศ.นพ.นริศ กล่าวว่า “อาหารพวกเบอรี่ มีสารอนุมูลอิสระสูง มีจำเป็นต่อร่างกาย ในวิตามินซี วิตามินเอ จะช่วยชะลอความแก่ ซ่อมแซมร่างกาย มีผลดีต่อตาด้วย ช่วยการทำงานประสาทตาดีขึ้น แต่… เบอรี่ ไม่สามารถบรรเทา computer vision syndrome ได้ เพราะอาการนี้เกิดจากการใช้สายตา แต่ เบอรี่ จะสามารถช่วยบำรุงสายตาทั่วไปเท่านั้น ”

ดังนั้น คนทำงาน หรือนักเรียน ซึ่งจะใช้อุปกรณ์ไอทีเป็นเวลานานๆ ไม่ว่าจะใช้ในการทำงานหรือพักผ่อนคุยกับเพื่อน ควรดูแลสุขภาพ และควรระวังการใช้อุปกรณ์ไอทีมากขึ้น ไม่ควรจ้องจอนานจนเกินไป พักสายตา มองไปไกลๆบ้าง และไม่ใช้ติดกันนานเกินไป เพื่อลดและหลีกเลี่ยงการเกิด Computer Vision Syndrome นะจ๊ะ

ที่มา : http://www.it24hrs.com
13 กุมภาพันธ์ 2015
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”