ส.อ.ท.เชื่อราคาน้ำมันครึ่งปีแรกทรงตัว

[brid.ladawan]

ส.อ.ท.เชื่อราคาน้ำมันครึ่งปีแรกทรงตัว

แม้แนวโน้มราคาน้ำมันจะขยับขึ้นเล็กน้อย แต่ส.อ.ท.ยังมั่นใจ ทั้งปีนี้ ราคาน้ำมันยังไม่สูงมากนัก ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโลกให้เติบโตได้ ขณะที่ความต้องการใช้ยังเพิ่ม

นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงแนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกว่า ในครึ่งแรกของปี 58 นี้ราคาน้ำมันดิบดูไบน่าจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 50-60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หลังจากนั้น มีความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันดิบดูไบจะปรับเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่ง ปีหลังอยู่ที่ระดับ 60-70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ทั้งนี้ เนื่องจากมีการชะลอการลงทุนแหล่งผลิตน้ำมันดิบที่มีต้นทุนสูง และไม่คุ้มทุนที่ระดับราคาปัจจุบัน ประกอบกับทิศทางราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงนี้ ทำให้ผู้ค้าน้ำมัน เช่าเรือเก็บน้ำมันลอยลำกลางทะเลเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง จนอยู่ที่ระดับ 60 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา

“ผลจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจโลกปีนี้เติบโตได้ดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่นำเข้าน้ำมันสุทธิ ทั้งสหภาพยุโรป จีน ญี่ปุ่น และสหรัฐ รวมถึงไทยเองด้วย ที่พบผลการศึกษาระบุว่าการที่ราคาน้ำมันปรับลดลงทุก 20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลดีต่ออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้น 0.8%”

นายสุกฤตย์ กล่าวว่า ปีนี้คาดจะต้องน้ำมันดิบทั่วโลกอยู่ที่ 9 แสนบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ 6 แสนบาร์เรล/วัน โดยคาดภูมิภาคเอเชียน่าจะต้องการเป็นหลักที่ 5.4 แสนบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ 3 แสนบาร์เรล/วัน ขณะที่คาดกำลังการผลิตทั่วโลกจะอยู่ที่ 1.1 ล้านบาร์เรล/วัน แต่จะมีโรงกลั่นเก่าปิดตัวลงกว่า 3 แสนบาร์เรล/วัน ทำให้กำลังการกลั่นสุทธิน่าจะเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับความต้องการ

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ ยังคงต้องจับตามองปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการกลั่นน้ำมันในประเทศ คือ การปฏิรูปพลังงานที่มีวัตถุประสงค์ให้ราคาพลังงานสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อปริมาณความต้องการน้ำมันเร็จรูปชนิดต่างๆ ภายในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ


ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2558