คลาวด์คอมพิวติ้งมาแรงปี56

[brid.kavee]

ladawan
Hero Member
*****
Posts: 824


View Profile Email


คลาวด์คอมพิวติ้งมาแรงปี56
« on: February 04, 2013, 03:36:04 pm »

คลาวด์คอมพิวติ้งมาแรงปี56

เอ็มแวร์ อิงค์ เผยปี 56 เป็นช่วงเวลาแห่งการปฏิรูปไอทีและธุรกิจ องค์กรแห่งลงทุนเทคโนโลยีเวอร์ชวลไลเซชันและโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ เพิ่มขีดความสามารถแข่งขัน หลังเริ่มเห็นประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมโชว์ผลสำรวจพบมากกว่า 50% มีแผนลงทุนใน 18 เดือนข้างหน้า

ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ ผู้จัดการประจำประเทศไทยและอินโดจีน บริษัทวีเอ็มแวร์ อิงค์ เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่าแนวโน้มการลงทุนไอทีขององค์กรปี 2556 นั้นจะมุ่งการลงทุนไปยังเทคโนโลยีการประมวลผลแบบคลาวด์คอมพิวติ้ง และ เทคโนโลยีเสมือนจริง หรือ เวอร์ชวลไลเซชัน ภายหลังจากที่องค์กรเริ่มเห็นประโยชน์ที่ได้รับจากเทคโนโลยีดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน รักษาขีดความสามารถด้านการแข่งขัน และขยายโอกาสในการเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าการปรับเปลี่ยนบทบาทของผู้บริหารซีไอโอ, การทำเวอร์ช่วลไลซ์สำหรับแอพพลิเคชันสำคัญๆ ทางด้านธุรกิจ, การริเริ่มใช้งานดาต้าเซ็นเตอร์ที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์ (Software-Defined Datacenter), โมบิลิตี และการปรับใช้เทคโนโลยีในธุรกิจเอสเอ็มอี ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่จะช่วยผลักดันการเติบโตของเทคโนโลยีคลาวด์ และส่งผลให้ปี 2556 เป็นช่วงเวลาแห่งการปฏิรูปไอทีและธุรกิจ
ดัชนีคลาวด์ของวีเอ็มแวร์ประจำปี 2555 ระบุอย่างชัดเจนถึงความก้าวหน้าและการริเริ่มของการปฏิรูปไอทีขององค์กรในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก 5,000 ราย ซึ่งรวมองค์กรในไทย 317 ราย พบว่าเกือบครึ่งหนึ่งมีแผนที่จะปรับใช้เทคโนโลยีคลาวด์ภายใน 18 เดือนข้างหน้า โดยผู้ตอบแบบสอบถามระบุเหตุผลสำคัญสำหรับการปรับใช้เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้ง ได้แก่ การเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงทรัพยากรไอที ประมาณ 80% , ความสามารถในการปรับปรุงการจัดการไอทีและระบบงานอัตโนมัติ ประมาณ 78% และความต้องการที่จะเสียค่าใช้จ่ายไอทีตามปริมาณการใช้งานจริงในส่วนงานธุรกิจ ประมาณ 76%
โดยในไทย องค์กรต่างๆ มองว่าการลงทุนในคลาวด์คอมพิวติ้ง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและเสริมสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันในสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่มีความท้าทายเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ตอบแบบสอบถามในไทยเห็นพ้องต้องกันว่าคลาวด์คอมพิวติ้งจะช่วยให้องค์กรสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มากถึง 83% และหากบริษัทของตนไม่ได้ดำเนินโครงการคลาวด์ ก็จะไม่สามารถก้าวตามคู่แข่งได้ทัน ประมาณ 68%
ดร.ชวพล กล่าวต่อสำหรับองค์กรที่มีการลงทุนเทคโนโลยีคลาวด์ และปรับเปลี่ยนดาต้าเซ็นเตอร์ ให้เป็นเทคโนโลยีเสมือนจริง หลักๆปีนี้จะเป็นกลุ่มธนาคาร ที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ และมีปริมาณการทำธุรกรรมกับลูกค้าสูง นอกจากนี้ยังมีกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม ซึ่งที่ผ่านมามีลูกค้า 2 ราย เริ่มมีการลงทุนเพื่อรองรับกับการเปิดให้บริการ 3 จี ส่วนองค์กรที่เริ่มลงทุนเทคโนโลยีเสมือนจริง และคลาวด์ไปแล้วๆ เห็นประโยชน์ชัดเจน คือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ โดยสามารถขยายระบบเพื่อรองรับปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
โดยนายถิรพันธุ์ สรรพกิจ ผู้ช่วยผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ เริ่มศึกษาเทคโนโลยีคลาวด์ และเวอร์ชวลไลเซชัน มาตั้งแต่ปี 2552 เนื่องจากการขยายระบบแม่ข่าย หรือ เซิร์ฟเวอร์ มีข้อจำกัด โดยกระบวนการจัดซื้อใช้เวลานานไม่สามารถรองรับปริมาณความต้องการทางธุรกิจ หรือ การทำธุรกรรมที่เกิดขึ้นได้
"ปริมาณการใช้บริการอินเตอร์เน็ตเทรดดิ้งเพิ่มขึ้นทุกปี โดยปีที่แล้วมีลูกค้ามีทั้งหมด 300,000 ราย มีลูกค้าที่มีการซื้อขายประจำ 100,000 ราย และมีปริมาณการซื้อขายต่อวันประมาณ 30,000 ราย ซึ่งถึงปลายปี มีผู้เข้ามาใช้บริการ 40,000 รายต่อวัน ทั้งนี้หากระบบไม่สามารถขยายเพื่อรองรับปริมาณการทำธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็อาจทำให้เราสูญเสียโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งในปีนี้เราคาดว่าการใช้บริการอินเตอร์เน็ตเทรดดิ้ง จะเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 50,000 ราย และมีลูกค้าที่แอกทีฟซื้อขายเป็นประจำเพิ่มขึ้นเป็น 200,000 ราย ขณะเดียวกันการใช้เทคโนโลยีเวอร์ชวลไลเซชันยังช่วยให้ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคลดลง 10% ทั้งที่ปริมาณเครื่องเพิ่มขึ้น 20%"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 2,814
วันที่ 31 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556