การส่งเสริมธุรกิจ SMEs ของมาเลเซีย
มาเลเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจที่เฟื่องฟูและประสบความสำเร็จมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งและมีเสถียรภาพทางการ เมืองในทศวรรษที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมาเลเซียมีขนาดของเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสามของอาเซียน รองจากอินโดนีเซียและไทย (พิจารณาจากมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) อีกทั้งอัตราการเจริญเติบโตของ GDP ก็แข็งแกร่งจนมีผลให้รายได้ต่อหัวของประชากรอยู่ที่ 9,800 ดอลลาร์สหรัฐ
มาเลเซีย มีความตื่นตัวในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และได้มีการจัดทำแนวทางการส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ของตนเองในช่วงปี 2554-2558 และได้บรรจุไว้ในแผนพัฒนาประเทศ ฉบับที่ 10 โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมให้ SMEs มีรายได้เพิ่มขึ้น และสนับสนุนให้รายที่มีศักยภาพ มีขีดความสามารถเป็นที่ยอมรับในระดับภูมิภาคและระดับโลก และยังกำหนดแนวทางการดำเนินงานไว้ถึง 6 ด้าน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของแผนพัฒนาประเทศที่วางไว้ โดยมีโครงการต่างๆ ที่เตรียมไว้รองรับอย่างมากมาย ได้แก่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้มีความแข็งแกร่ง การเสริมสร้างศักยภาพและความสามารถ การส่งเสริมให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน เป้าหมายรวมในระดับประเทศคือการเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมต่อหัวเป็น 15,000 ดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2563
จะเห็นว่าโอกาสของ SMEs มาเลเซีย จากการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน นอกจากขนาดตลาดที่ใหญ่ขึ้น การลดมาตรการกีดกันทางการค้าที่จะช่วยให้ SMEs มีช่องทางการจำหน่ายมากขึ้นแล้ว การส่งเสริมอย่างเข้มแข็งต่อเนื่องจากภาครัฐ ส่งผลทำให้ SMEs ที่มีศักยภาพ สามารถส่งออกได้มากขึ้น โดยรัฐบาลมาเลเซียได้ให้ความสำคัญของระบบโลจิสติกส์ โดยมีการลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเตรียมความพร้อม ส่งผลทำให้ต้นทุนในการส่งสินค้าต่ำกว่าไทย
นอกเหนือจากการสนับสนุนด้านเงินทุนและโครงสร้างพื้นฐานแล้ว ยังมีสำนัก งานส่งเสริมการส่งออกมาเลเซีย ประจำประเทศไทย (MATRADE) ทำหน้าที่หาโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ ของมาเลเซีย ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้จัดโครงการบิสสิเนส แมชชิ่ง นำผู้ประกอบการวัสดุก่อสร้างของมาเลเซียมาพบปะกับผู้ประกอบการวัสดุก่อสร้างของเมืองไทย เพื่อดูว่าจะมีโอกาสลงทุนร่วมกันอย่างไรได้บ้าง
ที่ผ่านมา นักลงทุนมาเลเซียสนใจเข้ามาลงทุนในเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นโครงการขนาดเล็กที่มีมูลค่าการลงทุนน้อยกว่า 50 ล้านบาท มีจํานวน มากที่สุดเฉลี่ยร้อยละ 40.5 รองลงมาได้แก่โครงการที่มีมูลค่าการลงทุนอยู่ ระหว?าง 50-99 ล้านบาท ร้อยละ 24.3 โครงการที่มีมูลค่าการลงทุนระหว่าง 100-499 ล้านบาท ร้อยละ 18.9 โครงการที่มีมูลค่าการลงทุนระหว่าง 500-999 ล้านบาท ร้อยละ 8.1 และโครงการที่มีมูลค่าการลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท ร้อยละ 8.1
ที่มา สยามธุรกิจ
วันที่ 6 มีนาคม 2558
- Board index การใช้งานบอร์ด และข่าวสาร ERP ไทย / PlanetOne ERP / งานบัญชี / Linux แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ
การส่งเสริมธุรกิจ SMEs ของมาเลเซีย
-
- Posts: 7045
- Joined: 29 Mar 2013, 13:36
Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”
Jump to
- การใช้งานบอร์ด และข่าวสาร ERP ไทย / PlanetOne ERP / งานบัญชี / Linux
- ↳ กฏการใช้บอร์ด
- ↳ แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ
- คำถาม คำตอบเกี่ยวกับระบบ ไทย ERP: AdvanceBusinessSystem - PlanetOne และ ERP ระบบบัญชี
- ↳ ข้อมูลหลัก (Master Data)
- ↳ ระบบสินค้าคงคลัง (Inventory)
- ↳ ระบบบัญชีเจ้าหนี้ (Account Payable)
- ↳ ระบบบัญชีลูกหนี้ (Account Receivable)
- ↳ ระบบขาย (Sales System)
- ↳ ระบบจัดซื้อ (Purchasing System)
- ↳ ระบบบัญชีทั่วไป (General Ledger and Financial Statement)
- ↳ ระบบผลิตและวางแผนการผลิต (Manufacturing / Shop Floor Control / Production Planning)
- ↳ ระบบบริหารงานบุคคล (Human Resource Management / HRM)
- ↳ ระบบบริหารสินทรัพย์ (Assets Management)
- ↳ ระบบลูกค้าสัมพันธ์ และบริการ (CRM / Service Center / Call Center)
- ↳ ระบบต้นทุนสินค้า (Product / Job Costing)
- ↳ หัวข้อทั่วไป
- การติดตั้ง ใช้งาน Linux, OSX และ OpenSource Softwares
- ↳ การใช้งาน PostgreSQL
- ↳ การใช้งาน Java และ JVM
- ↳ การใช้งาน Dart
- ↳ การใช้งาน Linux
- ↳ การใช้งาน Mac และ OSX
- AdvanceBusinessSystem Developer Forum
- ↳ Java Programming Techinics
- ↳ ABS Developer Exchange
- ↳ การ admin ระบบ