นับถอยหลัง14วัน รอช็อป! คอมมาร์ตจัดหนักทัพไอที พ่วงโชว์นวัตก

[brid.ladawan]

นับถอยหลัง14วัน รอช็อป! คอมมาร์ตจัดหนักทัพไอที พ่วงโชว์นวัตกรรม


เตรียมเปิดม่าน "คอมมาร์ต" ครั้งแรกปี 2015 ผู้จัดตั้งเป้าจัดงาน 4 วัน คนไทยใช้เงินไม่ต่ำกว่า 2,700 ล้านบาท เปิดโซนใหม่ให้ผู้เข้าร่วมงานได้ใกล้ชิดหลากหลายนวัตกรรม พร้อมเลือกช็อปสินค้าไอทีราคาพิเศษ...

นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจสื่อไอที บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานคอมมาร์ต เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจัดงานคอมมาร์ต 2015 ในวันที่ 19-22 มี.ค.นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อจำหน่ายและแสดงสินค้าไอที แต่ในการจัดงานครั้งนี้ จะมีความแตกต่างไปจากเดิมที่ผู้บริโภคเข้าใจว่างานคอมมาร์ตเป็นการจำหน่ายสินค้าไอทีเท่านั้น โดยครั้งนี้บริษัทได้เพิ่มโซนจัดแสดงเทคโนโลยี (ดิจิตอล พาวิลเลี่ยน) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างผู้จัดงาน และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เพื่อรองรับความต้องการของผู้เข้าร่วมงานที่นิยมเรียนรู้เทคโนโลยี รวมถึง มีโซนแนะนำสถานศึกษาด้านไอซีทีแก่ผู้สนใจในชื่ออินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเคชั่น ซึ่งเป็นความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์จากประเทศอินเดีย

"พื้นที่จัดงานครั้งนี้แบ่งออกเป็นการจำหน่ายสินค้าประมาณ 70% ซึ่งมีทั้งสินค้าไอทีที่น่าสนใจ สินค้าประเภทไลฟ์สไตล์ รวมถึงสินค้าลดราคาพิเศษ ส่วนดิจิตอล พาวิลเลี่ยน มีสัดส่วนพื้นที่ราว 20% และอินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเคชั่น 10%"

พรชัย จันทรศุภแสง


สำหรับพื้นที่จัดแสดงเทคโนโลยีนั้น จะมีการนำนวัตกรรมและสินค้าที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคดิจิตอล ภายใต้แนวคิดอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์ มาจัดแสดง เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทำความรู้จักและทดลองใช้งาน อาทิ สมาร์ทโฮม เพื่อการดำเนินชีวิตแบบดิจิตอลไลฟ์, เอไอเอส เพลย์ บ็อกซ์ กล่องดิจิตอลเพื่อความบันเทิง, บริการเอไอเอสไฟเบอร์ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง, หุ่นยนต์ดินสอ หุ่นยนต์ฝีมือคนไทยสำหรับช่วยดูแลผู้สูงอายุ, ออล ไทย แท็กซี่ แท็กซี่อัจฉริยะจากนครชัยแอร์, กำไลอัจฉริยะเพื่อสุขภาพ จากอินเทล, นวัตกรรมจากไป่ตู้ อาทิ แว่นตาหรือตะเกียบอัจฉริยะ

นายพรชัย กล่าวอีกว่า บริษัทตั้งเป้ายอดเงินสะพัดจากการจัดงานทั้ง 4 วัน ไม่ต่ำกว่า 2,700 ล้านบาท และมีผู้เข้าชมงานประมาณ 800,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขใกล้เคียงกับการจัดงานครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากการจัดงานครั้งนี้ยังไม่มีการจำหน่ายเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่เน้นสินค้าที่ผู้บริโภคต้องการซื้อและใช้สอยในราคาพิเศษ ประกอบกับแบรนด์สินค้าไอทีในปัจจุบันนั้นเหลือแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคเพียง 3-4 ราย นอกจากนี้บริษัทยังเว้นจากการจัดงานคอมมาร์ตในต่างจังหวัดซึ่งเคยจัดงานในจังหวัดหัวเมือง เนื่องจากมีปัจจัยความไม่สะดวกหลายประการ

อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราการเติบโตของตลาดแท็บเล็ตในปีนี้จะลดลงราว 3-4% จากปีก่อน เนื่องจากข้อจำกัดในการใช้งานซึ่งไม่สามารถใช้ทดแทนโน้ตบุ๊กได้ ประกอบสมาร์ทโฟนในปัจจุบันมีหน้าจอขนาดใหญ่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าสามารถใช้งานทดแทนแท็บเล็ตได้ ส่วนการเติบโตของตลาดไอทีนั้น เชื่อว่าทั้งเดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊กจะยังสามารถเติบโตได้ไม่ต่ำก่า 5%

"เชื่อว่าคนมางานคอมมาร์ต เพราะยังมีความต้องการซื้อหาสินค้าไอทีไปใช้งาน คาดว่าโน้ตบุ๊ก แบบทู-อิน-วัน จะยังคงเป็นสินค้าขายดีอันดับหนึ่งของงาน ส่วนนโยบายดิจิตอลอีโคโนมีของรัฐบาลนั้น เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นกำลังซื้อในตลาดไอทีได้เป็นอย่างดี หากมีความชัดเจนมากกว่านี้"

พรรัตน์ เจนจรัสสกุล


นายพรรัตน์ เจนจรัสสกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานสื่อสารการตลาด เอไอเอส กล่าวว่า นอกจากเทคโนโลยีที่เอไอเอสนำมาจัดแสดงในโซนดิจิตอล พาวิลเลี่ยน ยังมีสินค้าราคาพิเศษซึ่งลดสูงสุดกว่า 80% มาจำหน่ายภายในงานทั้งมือถือและแท็บเล็ต เพื่อสอดรับเป้าหมายในการเป็นผู้นำดิจิตอลไลฟ์ที่เอไอเอสตั้งเป้าอีกด้วย.


ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 6 มี.ค. 2558