ไม่เก่งตัวเลข ไม่เก่งวิเคราะห์ จะมีวิธีการวางแผนการเงินอย่าง

Post Reply
brid.ladawan
Posts: 7045
Joined: 29 Mar 2013, 13:36

ไม่เก่งตัวเลข ไม่เก่งวิเคราะห์ จะมีวิธีการวางแผนการเงินอย่าง

Post by brid.ladawan »

ไม่เก่งตัวเลข ไม่เก่งวิเคราะห์ จะมีวิธีการวางแผนการเงินอย่างไร

ไม่เก่งตัวเลข ไม่เก่งวิเคราะห์ จะมีวิธีการวางแผนการเงินอย่างไร
โดย วรินทร์ สุรพลชัยCFP®
สมาคมนักวางแผนการเงินไทย

การวางแผนการเงินเพื่อให้เกิดความมั่นคงในชีวิต และสามารถยกระดับฐานะของตนเองได้นั้น สามารถทำได้อย่างเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน มี 3 ขั้นตอน ได้แก่ 1.เขียนเป้าหมายทางการเงินที่ต้องการลงบนกระดาษ 2.เลือกพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับระยะเวลาที่ต้องการบรรลุเป้าหมาย 3.ทยอยออมเงินเข้าพอร์ตการลงทุนทุกๆ เดือนให้ได้ตามแผน

เป้าหมายทางการเงินที่ต้องการนั้น ควรระบุจำนวนเงินที่ต้องใช้ และระยะเวลาที่แน่ชัด เช่น เป้าหมายระยะสั้น ต้องการไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยงบประมาณ 7 หมื่นบาทในเดือนธันวาคมปีนี้ หรือ เป้าหมายระยะยาว ต้องการส่งลูกไปเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษ โดยมีค่าใช้จ่ายทั้งหมด 2 ล้านบาทในอีก 7 ปีข้างหน้า เป็นต้น เมื่อเขียนเป้าหมายที่ต้องการได้ครบทั้งหมดแล้ว ก็สามารถวางแผนเก็บออมเงินเอาไว้ในพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมทั้งในด้านความเสี่ยง และผลตอบแทนสำหรับแต่ละเป้าหมายได้

การจัดพอร์ตการลงทุนแบบง่ายๆ สามารถใช้กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น กับกองทุนรวมหุ้น ผสมกันเป็นพอร์ตการลงทุน แล้วทยอยออมเงินเข้าไปในพอร์ตทุกๆ เดือน อย่างสม่ำเสมอด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันซึ่งกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น เป็นกองทุนรวมความเสี่ยงต่ำ แต่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์และเงินฝากประจำทั่วๆ ไป โดยให้ผลตอบแทนประมาณ 2 - 3% ต่อปี ส่วนกองทุนรวมหุ้น ขอแนะนำเป็นกองทุนรวมดัชนีหุ้นไทย ที่ให้ผลตอบแทนระยะยาวประมาณ 10 - 11% ต่อปี การจัดพอร์ตการลงทุนจะเป็นการนำ 2 กองทุนนี้มาผสมกันในสัดส่วนต่างๆ โดยแบ่งง่ายๆ เป็นพอร์ต 4 แบบ ได้แก่

1. พอร์ตตราสารหนี้ระยะสั้น พอร์ตลงทุนแบบนี้จะไม่มีสัดส่วนของกองทุนรวมหุ้นผสมอยู่เลย เนื่องจากการลงทุนระยะสั้นไม่ควรลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง พอร์ตรูปแบบนี้ แนะนำให้ลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้นเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะเหมาะสำหรับการเก็บเงินเพื่อเป้าหมายระยะสั้นๆ ไม่เกิน 1 - 2 ปี ผลตอบแทนมักจะอยู่ในช่วง 2 - 3% ต่อปี

2. พอร์ตกองทุนหุ้น 1/4 เหมาะสำหรับการเก็บเงินเพื่อใช้ในช่วง 3 - 5 ปีข้างหน้า โดยจัดพอร์ตให้มีสัดส่วนการลงทุนในกองทุนรวมหุ้น 25% และส่วนที่เหลือให้นำไปลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น ผลตอบแทนระยะยาวมักจะอยู่ในช่วงประมาณ 4 - 5% ต่อปี

3. พอร์ตกองทุนหุ้น 2/4 เหมาะสำหรับการเก็บเงินเพื่อใช้ในช่วง 6 - 9 ปีข้างหน้า โดยแบ่งเงินครึ่งหนึ่ง (50%) ลงทุนในกองทุนรวมหุ้น และอีกครึ่งลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น ผลตอบแทนระยะยาวมีโอกาสได้ประมาณ 6 - 7% ต่อปี

4. พอร์ตกองทุนหุ้น 3/4 เหมาะสำหรับการเก็บเงินเพื่อใช้ในช่วงตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป เช่น การเก็บเงินเพื่อใช้หลังเกษียณอายุ แนะนำให้แบ่งเงิน 75% ของจำนวนเงินลงทุนทั้งหมด มาลงทุนในกองทุนรวมหุ้น และส่วนที่เหลือลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น ผลตอบแทนระยะยาวของพอร์ตนี้คาดว่าจะอยู่ในช่วงประมาณ 8 - 9% ต่อปี

เมื่อเราเลือกพอร์ตการลงทุนได้เหมาะสมกับเป้าหมายแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็ให้คำนวณเงินออมต่อเดือน ว่าควรเก็บออมเดือนละเท่าไรจึงจะได้เงินตามเป้าหมาย

โดยการลงทุนให้ได้เงิน 1 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเท่าไร โดยควรใช้พอร์ตลงทุนแบบไหนนั้น สามารถสรุปออกมาได้ตามตารางด้านล่างนี้ หากเป้าหมายคือ 1 แสนบาท ก็ให้นำ 0.1 คูณ ถ้าเป็น 10 ล้านบาท ก็ใช้คูณ 10

ไม่เก่งตัวเลข ไม่เก่งวิเคราะห์ จะมีวิธีการวางแผนการเงินอย่างไร
เมื่อทำการวางแผนการเงินครบทั้ง 3 ขั้นตอนแล้ว ควรตรวจสอบและจัดสรรสัดส่วนกองทุนรวมหุ้นและกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้นที่อาจเพี้ยนไป อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง รวมทั้งควรออมเงินอย่างสม่ำเสมอให้ได้ตามแผนทุกๆ เดือน จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้


ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 8 มีนาคม 2558
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”