25 ปี เอปสัน ประเทศไทย 'ทุกสิ่งพิมพ์ได้'(Cyber Weekend)

[brid.ladawan]

25 ปี เอปสัน ประเทศไทย 'ทุกสิ่งพิมพ์ได้'(Cyber Weekend)


คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
25 ปี เอปสัน ประเทศไทย 'ทุกสิ่งพิมพ์ได้'(Cyber Weekend)

25 ปี เอปสัน ประเทศไทย 'ทุกสิ่งพิมพ์ได้'(Cyber Weekend)

25 ปี เอปสัน ประเทศไทย 'ทุกสิ่งพิมพ์ได้'(Cyber Weekend)

25 ปี เอปสัน ประเทศไทย 'ทุกสิ่งพิมพ์ได้'(Cyber Weekend)

25 ปี เอปสัน ประเทศไทย 'ทุกสิ่งพิมพ์ได้'(Cyber Weekend)
EP101 ผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ชิ้นแรก นอกเหนือไปจากนาฬิกา และถือเป็นต้นแบบของเครื่องพิมพ์อิงก์เจ็ทในปัจจุบัน ถูกผลิตขึ้นในปี 1968

25 ปี เอปสัน ประเทศไทย 'ทุกสิ่งพิมพ์ได้'(Cyber Weekend)
Stylus Color 600 เป็นพรินเตอร์เครื่องแรกของโลกที่ได้ถูกนำไปใช้งานในอวกาศ


เปิดภารกิจ 25 ปี เอปสัน ประเทศไทย กับการเป็นจุดศูนย์กลางในภูมิภาค และการขยายตัวของเอปสัน ภายใต้ชื่อแบรนด์ที่มีอายุกว่า 40 ปี ในการมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะเข้ามาตอบโจทย์การใช้ชีวิต และวางเป้าหมายว่าทุกสิ่งจะสามารถพิมพ์ได้ด้วยงานพิมพ์ของเอปสัน

'จุดมุ่งหมายหลักของเอปสันคือการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ความคิดสร้างสรรค์ในประเทศไทยตลอด 25 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้บริโภคนำไปใช้งานได้อย่างมีความสุข รวมไปถึงในแง่ของการทำผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่าความคาดหวังของผู้บริโภคที่ซื้อสินค้า' คือคำกล่าวของยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด ในวาระที่เอปสันเปิดบริษัทในไทยมาครบ 25 ปี

โดยนอกจากในแง่ของการนำเสนอผลิตภัณฑ์แล้ว ความท้าทายในการทำตลาด ถือเป็นงานที่ยากที่สุดของเอปสัน ทำให้พนักงานของเอปสันทุกคนต่างมีความเชื่อมั่นเป็นดีเอ็นเอ เพื่อที่จะส่งต่อความไว้วางใจไปยังกลุ่มผู้ใช้งาน

ดังนั้น ในวาระครบรอบ 25 ปี เอปสัน จึงวางแคมเปญฉลองครบรอบดังกล่าวภายใต้ชื่อ 'Epson Thailand 25 Anniversary of TRUST' ที่จะสร้างความเชื่อมั่นทั้งในแบรนด์สินค้า และตัวผลิตภัณฑ์แก่ผู้บริโภค โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลักๆคือ ช่องทางการจัดจำหน่าย ลูกค้า และสังคม

ในส่วนของกลุ่มแรกคือตัวแทนจำหน่าย (Channel) เอปสันจะมุ่งเสริมความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและสินค้าใหม่ผ่านกิจกรรมต่างๆ ขณะเดียวกันก็จะทำงานกับพาร์ทเนอร์เดิม และค้นหาพาร์ทเนอร์ใหม่ เพื่อจะขยายตลาดไปยังตลาดหัวเมืองรองมากขึ้น หรือทำธุรกิจในรูปแบบใหม่ด้วยกัน อย่างการทำโซลูชันรวมกับคนอื่น แทนที่จะขายแต่สินค้าเพียงอย่างเดียว
กลุ่มที่สองคือ ลูกค้า (Customer) เอปสันจะให้ความรู้กับกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เช่น หน่วยงานราชการ ขนาดเล็กและองค์กรธุรกิจผ่านกิจกรรมต่างๆ และสื่อออนไลน์มากยิ่งขึ้น รวมทั้งกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสกับประสบการณ์ตรงในการใช้ บริการต่างๆ ของเอปสัน

'สิ่งที่ต้องเร่งทำ หลักเลยคือการทำคอนเทนต์มาร์เก็ตติง ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เพราะถือเป็นช่องทางการสื่อสารที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้โดยตรง ที่สำคัญคือช่วยสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นด้วย'

สุดท้ายในกลุ่มการตอบแทนสังคม (Corporate Responsibility) เอปสันมีความจริงใจที่จะแสดงจุดยืนในการเป็นสมาชิก องค์กรที่ดีของสังคมไทย โดยยึดมั่นในหลักการทำธุรกิจอย่างมีคุณธรรม ซื่อสัตย์ และจริงใจ และรักษาแนวทางการแข่งขันทางธุรกิจอย่างซื่อตรง ในด้านสิ่งแวดล้อม สินค้าของเอปสันทุกชิ้นถูกพัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัย และในด้านการตอบแทนคืนสังคม เอปสัน ประเทศไทยได้ดำเนินกิจกรรมที่ส่งเสริมเยาวชนไทยมาโดยตลอดทุกปี

โดยในปีแห่งการครบรอบ25ปีนี้ บริษัทฯ ยังได้ริเริ่มโครงการ25 Smart Classroomsที่จะจัดสร้างโซลูชันเพื่อการเรียนรู้แบบอินเทอร์แอกทีฟแก่ สถาบันการศึกษา25แห่งทั่วภูมิภาค แบ่งเป็นในประเทศไทยราว 15 แห่ง ที่เปิดกว้างให้หน่วยงานการศึกษาไหนก็ได้ที่นำชุดอุปกรณ์การเรียนการสอน เข้าไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงกิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ

'ยุทธศาสตร์ทั้งสามกลุ่มถือเป็นกลไกสำคัญที่จะสร้างธุรกิจของเอปสัน ไม่เพียงแต่ในประเทศไทย แต่ทั้งภูมิภาคนี้ให้เติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตในปี 2558ไว้ที่15% และต้องการจะรักษาระดับการเติบโตเช่นนี้ไปอีก3ปีข้างหน้า'

ยรรยง เชื่อมั่นว่า ตอนนี้เอปสันมีองค์ประกอบทุกด้านอย่างครบถ้วนและแข็งแกร่งดังนั้นการก้าวสู่ปีที่25นี้จึงเป็นเหมือนการเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ของเอปสัน ประเทศไทยที่พร้อมจะรับความท้าทายใหม่ๆ ความรับผิดชอบที่มากขึ้น และรอรับความสำเร็จที่กำลังตามมา

***เปิดไลน์ใหม่รุกตลาดเครื่องถ่ายเอกสาร

เอปสันมีแผนที่จะรุกเข้าไปยังตลาดเครื่องถ่ายเอกสารเพิ่มเติม จากเดิมที่ทำตลาดอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ โปรเจกเตอร์ และอุปกรณ์เสริมอื่นๆโดยมองว่าตลาดเครื่องถ่ายเอกสาร ยังมีช่องว่างให้นำเทคโนโลยีการพิมพ์แบบพรินเตอร์เข้าไปสอดแทรกอยู่

'ในประเทศญี่ปุ่น ตลาดเครื่องถ่ายเอกสาร เปิดตัวมาประมาณ 6-8 เดือน จำหน่ายไปแล้ว 3 พันเครื่อง ถือว่าการตอบรับที่ดีมาก เมื่อเข้ามามองในตลาดไทยที่แบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆคือ เครื่องขนาดใหญ่ ที่เช่าใช้ กับตลาดเครื่องราคาถูก ใช้หมึกเติม ทำให้เลือกช่องที่จะเข้าไปทำตลาดได้ง่ายขึ้น'

โดยเอปสันจะเน้นจับกลุ่มตลาดองค์กร ชูจุดเด่นที่ต้นทุนต่อแผ่นโดยเฉพาะการพิมพ์สี ถูกกว่าเครื่องถ่ายเอกสารเดิมหลายเท่า ซึ่งปัจจุบันเอปสันได้มีการพูดคุยกับพาร์ทเนอร์ที่เคยทำธุรกิจนี้มาก่อน และได้ความคิดเห็นที่ดี รวมถึงการพูดคุยกับบริษัทการเงิน ที่จะมีไฟแนนซ์โปรแกรมออกมา ทั้งเครื่องเช่า ตามจำนวนที่ใช้ และขายขาด

'ตอนนี้ถือว่าเอปสันมีการศึกษาตลาดค่อนข้างดี ตอบโจทย์ความต้องการทั้งในแง่ของ สินค้า บริการ ช่องทางจำหน่ายครบ ที่เหลือเพียงรอสินค้าเข้ามาจำหน่ายในช่วงเดือนพฤษภาคม - มิถุนายนนี้'

ยรรยง กล่าวต่อถึงภาพรวมตลาดพรินเตอร์นปีนี้ว่า ตลาดพรินเตอร์จะเติบโตขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 3-5% หลังจากปีที่ผ่านมาติดลบประมาณ 5-10% ขณะที่สัดส่วนตลาดองค์กรจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 55% จากเดิมอยู่ที่ราว 52-53% โดยมีการเติบโตจากเครื่องพิมพ์ที่นำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ แทนตลาดดอทแมทริกที่ค่อนข้างทรงตัว

***พร้อมเสมอสำหรับ AEC

นอกเหนือไปจากตลาดไทย เอปสัน ประเทศไทย ยังดูแลในส่วนของตลาดภูมิภาค ครอบคลุม เวียดนาม ลาว พม่า และกัมพูชา ทำให้มองว่าการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะถือเป็นการเริ่มต้นที่สำคัญ หลังจากมีการเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้าแล้ว

'ในกลุ่มประเทศดังกล่าว ตลาดเวียดนามถือว่ามีความสำคัญมากที่สุด เพราะสร้างรายได้ราว 80% ทำให้มีการตั้งสำนักงานที่เวียดนามด้วย ส่วนประเทศที่เหลือจะควบคุมดูแลจากประเทศไทย แต่ทั้งนี้ไทยก็ยังอยู่ภายใต้เอปสัน สิงคโปร์ที่ดูแลครอบคลุมเอเชียใต้ทั้งหมด'

***40 ปี เอปสัน เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

ฮิโรกิ ยามาโมโตะ ผู้อำนวยการ เอปสัน เอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ในปีนี้ถือเป็นการฉลองครบรอบ40 ปี กับการใช้แบรนด์ เอปสัน ขณะที่เอปสัน ประเทศไทย ทำธุรกิจมาครบ 25 ปี ด้วยเช่นเดียวกัน

พร้อมกับกล่าวย้อนไป ในปี 1968 ที่ทางเอปสันได้มีการผลิตพรินเตอร์ตัวแรก ในชื่อรุ่น EP101 และถือเป็นสินค้าชนิดแรกที่เอปสันผลิตนอกเหนือจากนาฬิกา โดยเอปสันนำความรู้จากการผลิตชิ้นส่วนนาฬิกาที่มีขนาดเล็ก ภายในแนวคิดหลักคือ เล็กกระทัดรัด ประหยัดพลังงาน และแม่นยำ มาใช้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่น อย่างเครื่องพิมพ์ ทำให้ได้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ยังกล่าวไปถึงในอนาคตว่า นอกเหนือไปจากกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ เอปสัน จะมุ่งหน้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับคุณภาพชีวิต เพื่อให้ผู้บริโภคมีชีวิตที่ดีขึ้น ตามนโยบายหลักของเอปสัน

มาซารุ คาตากิริ รองผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางธุรกิจ บริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น กล่าวเสริมว่า แต่เดิมธุรกิจของเอปสัน เริ่มต้นภายในโรงเก็บมิโซะ (Miso) ในเมืองซูวะ (Suwa) จากพนักงาน 9 คน เป็นมากกว่า 7 หมื่นคนในปัจจุบัน

โดยรายได้ของเอปสันจะมาจาก 3 ส่วนด้วยกันคือ ธุรกิจเกี่ยวกับการสื่อสารทางภาพ (Information Relate Equipment) 83.4% คิดเป็นรายได้ 8.126 พันล้านเหรียญ ถัดมาคือ อุปกรณ์ (Device & Precision) 14.9% คิดเป็น 1.446 พันล้านเหรียญ และ ชิ้นส่วนที่เป็นกลไลภายใน (Sensing Product) 14% คิดเป็น 156 ล้านเหรียญ

ขณะที่ผลิตภัณฑ์ในอนาคตของเอปสัน จะนำเทคโนโลยี การพิมพ์ สื่อสารทางภาพ มาสร้างคุณภาพชีวิต และอุตสาหกรรมการผลิต เพราะเชื่อมั่นว่า เอปสัน สามารถนำเทคโนโลยีมาสร้างคุณค่า และความแตกต่างของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น

ใน ส่วนของงานพิมพ์เอปสันวางเป้าหมายไว้ว่าทุกอย่างจะสามารถพิมพ์ได้ด้วยเอปสัน ไม่ว่าจะเป็น ป้าย สิ่งทอ OLED TV ส่วนธุรกิจอิงก์เจ็ต ก็จะช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น จากการเปลี่ยนรูปแบบการพิมพ์จากแอนาล็อก เป็นดิจิตอล ช่วยลดของเสีย ลดพลังงาน

ส่วนของธุรกิจ ภาพ จะเน้นปฏิวัติการสื่อสาร ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงภาพได้ทุกที่ และทุกโอกาส เพื่อช่วยให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จากเทคโนโลยีการตรวจจับที่แม่นยำ นำมาใช้กับสุขภาพ หรือเทคโนโลยีวิเคราะห์เพื่อความปลอดภัย อย่างการดูตัวอาคาร รวมไปถึงระบบการผลิตอัตโนมัติจากการใช้แขนกล

***ลุยตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ

ยามาโมโตะ กล่าวถึงทิศทางที่เอปสันจะนำผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Wearable Device หรือกลุ่มผลิตภัณฑ์สวมใส่ ที่สามารถนำมาช่วยคำนวณเรื่องสุขภาพ หรือการใช้งานอื่นๆได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยว่า มีโอกาสที่จะเป็นไปได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดก่อน โดยปัจจุบันเริ่มมีการทำตลาดแล้วในญี่ปุ่น และอเมริกา

โดย ผลิตภัณฑ์ที่เอปสันมีในตอนนี้จะมีทั้งที่เป็นนาฬิกาวัดที่ข้อมือ สายรัดข้อมือ ที่สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน เพื่อแสดงรายละเอียดได้ทันที อุปกรณ์ตรวจจับวงสวิงกอล์ฟ ที่นำไปติดที่ไม้ และจะเก็บข้อมูลมาแสดงผลบนแอป รวมไปถึงแว่นตาอัจฉริยะ ที่มีการนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยแล้วด้วย

***รู้จักของเด็ดในพิพิธภัณฑ์เอปสัน

- EP101 ผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ชิ้นแรก นอกเหนือไปจากนาฬิกา และถือเป็นต้นแบบของเครื่องพิมพ์อิงก์เจ็ทในปัจจุบัน ถูกผลิตขึ้นในปี 1968

- Stylus Color เครื่องพิมพ์อิงก์เจ็ทสี เครื่องแรกที่ใช้หัวพิมพ์แบบไมโคร ปิเอโซ ที่ทางเอปสันคิดค้นขึ้นในปี 1994

- Stylus Color 600 เป็นพรินเตอร์เครื่องแรกของโลกที่ได้ถูกนำไปใช้งานในอวกาศ


ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 14 มีนาคม 2558