เริ่มหาคำตอบสิ่งใหม่ ในจักรวาล

Post Reply
brid.ladawan
Posts: 7045
Joined: 29 Mar 2013, 13:36

เริ่มหาคำตอบสิ่งใหม่ ในจักรวาล

Post by brid.ladawan »

?เริ่มหาคำตอบสิ่งใหม่ ในจักรวาล?
เริ่มหาคำตอบสิ่งใหม่ ในจักรวาล

แค่ค้นคว้าสิ่งใหม่ ๆ จากสองทฤษฎี คือเรื่องอนุภาคฮิกส์ (Higg’s Particle) หรืออนุภาคพระเจ้า (God’s Particle) และเรื่อง บิ๊กแบง (Big Bang) จำเป็นต้องสร้างห้องปฏิบัติการทดลองทั้งสองทฤษฎีที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่เรียกว่า แอล เอช ซี (LHC-Large Hadrom Collider)

มนุษย์และนักวิทยาศาสตร์มักจะมีคำตอบนับพันนับหมื่นปีเรื่องจักรวาลกำเนิดอย่างไร ใครเป็นผู้สร้าง จนมีทฤษฎีที่สำคัญของโลกปัจจุบันอยู่ 2 ทฤษฎี ทฤษฎีแรกพอรู้คำตอบบ้างแล้วคืออนุภาคฮิกส์ ทฤษฎีที่สองคือบิ๊กแบง แต่คำถามทั้งจักรวาลยังรออยู่อีกมาก

แค่ค้นคว้าสิ่งใหม่ ๆ จากสองทฤษฎี คือเรื่องอนุภาคฮิกส์ (Higg’s Particle) หรืออนุภาคพระเจ้า (God’s Particle) และเรื่อง บิ๊กแบง (Big Bang) จำเป็นต้องสร้างห้องปฏิบัติการทดลองทั้งสองทฤษฎีที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่เรียกว่า แอล เอช ซี (LHC-Large Hadrom Collider) ซึ่งมีระยะทางถึง 27 กิโลเมตร ซึ่งหลังจากการทดลองครั้งที่แล้วเรื่องอนุภาคฮิกส์ซึ่งได้รับการตีพิมพ์และประเทศสู่สาธารณะทั่วโลกไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องซ่อมและปรับปรุงใหม่นาน ซึ่งขณะนี้พร้อมใช้งานได้และยินดีให้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกที่ได้รับเชิญเข้าสู่การทดลองใช้งานเพื่อพิสูจน์ทฤษฎีสำคัญ ๆ ของโลก

ก็เคยได้เขียนไป ห้องปฏิบัติการแอล เอช ซี นี้เชื่อมพรมแดนสองประเทศ คือฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์และเป็นเครื่องเร่งอนุภาคที่ใกล้เคียงจริงที่สุดในโลกเพื่อใช้สำหรับการทดลอง ซึ่งทฤษฎีที่พูดถึงทั้งสองทฤษฎีนี้คือทฤษฎีที่เกี่ยวกับสนามแม่เหล็กไฟฟ้า และเร่งอนุภาคให้มาชนกันแล้วก่อกำเนิด อนุภาคใหม่ ๆ ในจักรวาล การเร่งอนุภาคนี้จะต้องเร่งด้วยความเร็วเข้าสู่ความเร็วแสงหรือความเร็ว 299,792,458 เมตรต่อวินาที เลยไม่ต้องสงสัยว่าทำไมต้องการห้องปฏิบัติการยาวถึง 27 กิโลเมตรหรืออาจจะเล็กไปด้วยซ้ำ

และทฤษฎีการเร่งอนุภาคให้มาชนกันด้วยความเร็วแสง เขามักจะเรียกว่า แบบจำลองมาตรฐาน หรือ Standard Model ซึ่ง ยังจะต้องมีการพิสูจน์ทฤษฎีใหม่อีกจำนวนมากเพื่อให้ทราบว่าจักรวาลก่อกำเนิดอย่างไร ลักษณะที่แท้จริงเป็นเช่นไร ยังต้องมีการพิสูจน์โดยนักวิทยาศาสตร์อีกหลายรุ่นต่อเนื่องกันไปเป็นร้อยปีหรือมากกว่านั้นเพื่อให้ได้คำตอบเกี่ยวกับธรรมชาติของจักรวาลที่ชัดเจนมากขึ้น โดยทางวิทยาศาสตร์คำถามที่ยังคงมีอยู่ใน ขณะนี้คือ สสารดำ (Dark Matter) ที่เราสังเกต บนท้องฟ้าในจักรวาลหรือจากการส่องกล้องดูดาว นักวิทยาศาสตร์ประมาณกันว่าสสารดำที่ประกอบกันขึ้นเป็นจักรวาลมีถึง 85% ของจักรวาลนี้ อนุภาคที่ประกอบขึ้นนั้นเป็นสสารดำนั้นยังจะต้องมีทฤษฎีจำนวนมากที่จะต้อง อธิบายเรื่องนี้ทางวิทยาศาสตร์

เรื่องของทฤษฎีบิ๊กแบง นักวิทยา ศาสตร์ทราบว่าขณะนี้มีการชนกันเกิดบิ๊กแบงหรือระเบิดขนาดยักษ์แบบจักรวาลจำลองขึ้นแล้ว และก็เกิดอนุภาคใหม่จำนวนมากมาย ซึ่งยังจะต้องมีการค้นหาอนุภาคเหล่านี้ เพราะช่วงการเกิดนั้นสั้นมาก ๆ เล็กกว่าเสี้ยวของวินาทีมากมาย การถ่ายภาพการหาข้อมูลพิสูจน์ ทางทฤษฎีเพิ่มเติมยังจะต้องใช้การทดลองอีกมาก

เรื่องของทฤษฎีฟิสิกส์ในเรื่องสแตน ดาร์ดโมเดลหรือแบบจำลองมาตรฐานจะต้องมีการทำให้ชัดเจนขึ้น

ดร.ไมค์ ลามอนท์ นักวิทยาศาสตร์คนสำคัญของห้องปฏิบัติการเซิร์น (CERN) หรือห้องปฏิบัติการทดลอง แอล เอช ซี นี้ได้กล่าวว่า

“ห้องปฏิบัติการนี้จะต้องใช้กำลังไฟฟ้าถึง 180 เมกะวัตต์ เพื่อเดินเครื่องทำงานอย่างเต็มที่ทำให้แสงสว่างและห้องทำงานที่ติดตั้งเครื่องทำความเย็นลดลงเหมือนกัน”

นอกจากนี้บีม (Beam) หรือแสง เข้มที่ออกมา ทำให้เกิดเสียง “ฮึ่ม” ขึ้นในขณะที่เกิดการสั่นไหวที่เรียกว่า ออสซิเลท (Oscillating) และพลังงานในขณะที่โปรตรอนชนกันนั้นมีพลังงานขนาดบ้านหลังหนึ่งลอยไปชนกับบ้านอีกหลังหนึ่งด้วยความเร็ว 5 ไมล์ต่อชั่วโมง

ดร.ไมค์ ลามอนท์ กล่าวว่ายังจะวาง แผนปรับปรุงไปจนถึงปี 2035 และเขาก็ยังมีความมั่นใจว่าจะมีคำตอบชัด ๆ นอกเหนือจากแบบจำลองมาตรฐานอีก และยังตบท้ายว่า “อาจจะเป็นไปได้ว่าจักรวาลง่ายกว่าที่เราคิดไว้”.

รศ.ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุล
อธิการบดีมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด
boonmark@stammford.edu




ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 19 มีนาคม 2558
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”