ส่งออกช้ำหนักเจอเบี้ยวหนี้ ลาม"ยุโรป-สหรัฐ" SMEอ่วม !!

Post Reply
brid.ladawan
Posts: 7045
Joined: 29 Mar 2013, 13:36

ส่งออกช้ำหนักเจอเบี้ยวหนี้ ลาม"ยุโรป-สหรัฐ" SMEอ่วม !!

Post by brid.ladawan »

ส่งออกช้ำหนักเจอเบี้ยวหนี้ ลาม"ยุโรป-สหรัฐ" SMEอ่วม !!

"ฉัตรชัย" ยืนเป้าส่งออกไทยโต 4% ทูตพาณิชย์ตลาดสหรัฐ-อียู ออกโรงเตือนเอกชนไทยระวังถูกเบี้ยวหนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SMEs เจอกันทั่วหน้า เหตุเชื่อใจตลาดใหญ่ ไม่เปิด L/C แถมขอเครดิต ส่งสินค้าไป เงินไม่กลับมา ร้อนถึงสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เตรียมนำปัญหาเข้าถกในที่ประชุมสัปดาห์นี้

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" เปิดเผยการประชุมเพื่อมอบนโยบายให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) 62 แห่งทั่วโลก โดยมี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในต้นสัปดาห์นี้ว่า กระทรวงพาณิชย์ยังคงรักษาเป้าหมายการส่งออกปี 2558 ในอัตราขยายตัว 4% เหมือนเดิม แต่จะพิจารณาทบทวนเป้าหมายการส่งออกอีกครั้งหลังสิ้นไตรมาส 1 พร้อมทั้งมอบหมายให้ทุกสำนักงานทำรายงานสรุปสถานการณ์การค้าทุก 3 เดือน พร้อมกับประเมินขีดความสามารถของทูตพาณิชย์ทุก ๆ 6 เดือน "หากไม่ผ่านเกณฑ์ต้องย้ายกลับ"



ทั้งนี้ที่ประชุมได้พิจารณาถึงปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออก จากข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประเมินว่า 1) เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.5% เช่น จีดีพีสหภาพยุโรป ลดลงจาก 1.4% เหลือ 1.2% ญี่ปุ่นลดลงจาก 0.8% เหลือ 0.6% จีนลดลงจาก 7.1% เหลือ 6.8% รัสเซียลดลง 1.5 เหลือติดลบ 1.4% มีเพียงสหรัฐที่เพิ่มขึ้นจาก 3.1 เป็น 3.6% แต่ประเด็นสำคัญคือ ยอดการนำเข้าโดยรวมหลายประเทศลดลง เช่น สหรัฐลดลง 2.8% จีนลดลง 23% ญี่ปุ่นลดลง 20.2% และอินเดียลดลง 5.5%

2) ปัญหาความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทแข็งค่าขึ้น 5% เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น 3) ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงต่อเนื่องนับจากเดือนกรกฎาคม 2557 ลดลง 52.48% ทำให้รายได้การส่งออกน้ำมันและสินค้าจากน้ำมันลดลง 4) ปัญหาราคาผลผลิตการเกษตรในตลาดโลกต่ำลง 5) การถูกสหภาพยุโรปตัดสิทธิพิเศษทางภาษี (GSP) 6) มาตรการทางการค้าของประเทศผู้นำเข้าที่เข้มงวดขึ้น และ 7) ปัญหาการเมืองของประเทศคู่ค้า

ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ ประกอบด้วยการขาดแคลนวัตถุดิบ อาทิ กุ้ง ปัญหาขาดแคลนแรงงาน และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ที่ประชุมจึงได้กำหนดมาตรการผลักดันการส่งออก 5 ด้าน ได้แก่ การเจาะเมืองใหม่ในตลาดนั้น เช่น ผู้มีรายได้สูงในจีนในเมืองรอง อาทิ ฉงชิ่ง-อู๋ฮั่น-ชิงเต่า-เสิ่นเจิ้น-กว่างซี, การเพิ่มช่องทางการค้าผ่านโมเดิร์นเทรด, การรักษาตลาดหลักด้วยการบุกตลาดเป็นคลัสเตอร์, การจัดทำโครงการพี่ช่วยน้อง, การสร้างเครือข่ายพันธมิตรกับผู้นำเข้า และส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลผ่าน Thaitrade.com

ทูตพาณิชย์เตือนถูกเบี้ยวเงิน

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประจำนิวยอร์ก สหรัฐ กล่าวว่า ขณะนี้เริ่มมีผู้ส่งออกขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ได้ร้องถึง สคร. จากกรณีที่ถูกผู้นำเข้าสหรัฐผิดนัด/ไม่ชำระค่าสินค้าในช่วงระยะเวลาเพียง 4-5 เดือน ส่วนใหญ่เป็นผู้ส่งออกอาหาร ประเมินมูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิมที่เคยรับทราบปัญหานี้ในตลาดอื่น เช่น ตลาดใหม่ หรือตลาดที่ขนาดเศรษฐกิจไม่ใหญ่มาก เช่น แอฟริกา

"ในขณะที่เศรษฐกิจโดยรวมยังชะลอตัว แต่สหรัฐเป็นตลาดที่เริ่มจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัว ทุกคนมุ่งไปตลาดนี้ ผู้ส่งออกไทยที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์คิดว่าไม่เปิด L/C (Letter of Credit) คงไม่มีปัญหา ลูกค้าขอเครดิตมาก็ยอมให้โดยไม่มีการตรวจสอบ เพราะคิดเพียงต้องแข่งกันกับ

ผู้ส่งออกจากประเทศอื่น แต่สุดท้ายถูกเบี้ยวหนี้ ทาง สคร.ได้แจ้งเตือนยังภาคเอกชนให้ระมัดระวังการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ บางรายติดต่อกันทางอินเทอร์เน็ตมีนัดหมายโอนเงิน แต่ถูกแฮ็กข้อมูล ไม่ได้รับเงินก็มี ถึงความเสียหายไม่มากหลัก 10 หรือ 100 ล้าน แต่สำหรับ SMEs อาจจะกระทบธุรกิจได้ ทางสำนักงานได้แนะนำให้ติดต่อทนาย แต่ SMEs จะมีปัญหาหรือติดขัดเรื่องค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ"

นางสุจิตรา ถนอมทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประจำแฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี กล่าวว่า ขอให้ผู้ส่งออกเพิ่มความระมัดระวังปัญหาการชำระเงิน เพราะขณะนี้มีผู้ส่งออกเริ่มเข้ามาร้องเรียนเรื่องปัญหาการผิดชำระเงินจากในสหภาพยุโรปแล้ว จากที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ดี การส่งออกต้องแข่งขันรุนแรงขึ้นมาก ผู้ส่งออกมักจะคิดว่า ตลาดอียูเป็นตลาดประเทศที่มีการพัฒนาแล้วจะไม่เกิดปัญหา ทำให้ชะล่าใจไม่ตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด

ส.อ.ท.ตื่นเรยกประชุมรับมือ

นายบุญเพ็ง สันติวัฒนธรรม ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ทางกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารจะมีการประชุมในวันที่ 19 มีนาคมนี้ โดยที่ประชุมจะนำประเด็นเรื่องการผิดนัดชำระเข้ามาหารือ ที่ผ่านมาปัญหาดังกล่าวมักจะเกิดขึ้นในกลุ่มผู้ประกอบการรายเล็กที่ไม่เปิด L/C แต่ใช้วิธีการเจรจาตกลงการชำระเงินกัน ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวก ส่วนรายใหญ่จะไม่พบปัญหานี้เพราะใช้ระบบ L/C

ส่วนตลาดที่ความเสี่ยงจะถูกเบี้ยวหนี้และมักเกิดปัญหามาตลอด เช่น ฮ่องกง และประเทศในกลุ่มอาเซียน เนื่องจากผู้ประกอบการเป็นรายเล็ก ไม่นิยมทำ L/C "ผู้ประกอบการควรใช้วิธีเปิด L/C เพราะเป็นวิธีเดียวที่มีหลักประกันพอที่จะเชื่อได้ว่า ผู้ขายสินค้าจะได้รับเงินค่าสินค้าเมื่อได้ส่งมอบสินค้า และผู้ซื้อสินค้าจะได้รับสินค้าเมื่อจ่ายเงินค่าสินค้า ซึ่งระยะหลังการค้าขายของผู้ประกอบการจะต้องให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาภายหลัง สำหรับการป้องกันความเสี่ยงแบบอื่นยังไม่มี"

นางสาวกัญญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป กล่าวว่า จากการสอบถามไปยังสมาชิก ปรากฏมีผู้ส่งออกบางรายที่ถูกผิดนัดชำระเงิน โดยพบในการส่งออกไปยังตลาดรัสเซียที่มีการชำระล่าช้า ทั้งนี้แม้ว่าจะมีการผิดนัดชำระหนี้ แต่จะไม่กระทบต่อการส่งออกภาพรวมหรือส่งผลกระทบกระจายเป็นวงกว้างในหลายตลาด และในทุกตัวสินค้าควรต้องติดตามสถานการณ์เรื่องนี้ต่อไป

นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่าสมาชิกสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือฯ "ยังไม่มีปัญหาเรื่องนี้" แต่พอทราบว่า มีผู้ส่งออกที่เป็นผู้ประกอบการ SMEs ที่ไม่ใช่สมาชิกสภาผู้ส่งออกเกิดปัญหาผิดนัดชำระในบางตลาด เช่น ตลาดรัสเซีย "ผู้ส่งออกส่วนใหญ่จะค่อนข้างระมัดระวังการตกลงส่งออกกับประเทศผู้นำเข้า การชำระค่าสินค้า หากซื้อขายมานานทำให้มีความมั่นใจกันมากขึ้น แต่การเปิดตลาดใหม่หรือลูกค้าใหม่ก็น่ากังวลว่า อาจมีการเบี้ยวหนี้ได้"

อนึ่ง การเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต (Letter of Credit : L/C) เป็นวิธีการชำระเงินทางการค้าระหว่างประเทศวิธีการหนึ่ง เมื่อลูกค้า (ผู้นำเข้า/ผู้ซื้อ) ตกลงสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศหนึ่ง โดยเลือกวิธีชำระเงินแบบ L/C ลูกค้า (ผู้นำเข้า/ผู้ซื้อ) จะต้องติดต่อให้ธนาคารเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต (L/C) ให้ผู้ขายเป็นผู้รับประโยชน์ ธนาคารผู้เปิด L/C รับผิดชอบการจ่ายเงินค่าสินค้าแทนผู้ซื้อ เมื่อผู้ขาย (ผู้ส่งออก) สินค้าสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ใน L/C ครบถ้วนทุกประการ วิธีนี้ช่วยให้ผู้ซื้อได้รับสินค้าตามเงื่อนไขที่ตกลงกับผู้ขาย ส่วนผู้ขายได้รับเงินค่าสินค้า


ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 20 มีนาคม 2558
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”